เป็นเวลาหลายปี ที่ ดร.โกศล ทรัพย์ประเสริฐ ได้ร่วมบุกบั่นบรรจงสร้างเมล็ดพันธุ์ความเปลี่ยนแปลง เปิดมิติใหม่ให้ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดอย่างไทยพาณิชย์ ได้หันมาโลดแล่นในยุคดิจิตอล ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างสง่างาม
ดร.โกศล แชร์ให้ฟังว่า “เป็นช่วงเวลาที่สนุกมากที่ไทยพาณิชย์ ได้เรียนรู้เยอะมากๆ แต่ผมตั้งโจทย์ให้ตัวเองไว้เสมอว่า ความสำเร็จของหน่วยงานที่เราก่อตั้งคือการที่หน่วยงานนั้นอยู่ได้โดยไม่มีเรา ผมก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าสำเร็จนะครับ แต่โชคดีที่มีพี่โจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ พี่ชายสุดที่รักมาเป็นฮีโร่รับช่วงต่อ ส่งไม้กันได้จังหวะพอดีจนตอนนี้สีม่วงของธนาคารเราเปรี้ยงปร้าง 4.0 ออกตัวแซงคู่แข่งไปไกลเลยทีเดียว”
เพิ่งผ่านวันเกิดอายุครบ 36 ปี ในขณะที่หลายๆ คนอาจเริ่มอิ่มตัวกับชีวิตการงาน แต่ด้วยความที่ ดร.โกศล เป็นมนุษย์จำพวกไม่หยุดคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และที่เรียนมาสาย innovation โดยตรง จบมาก็สนุกกับการลงมือก่อตั้งธุรกิจใหม่ สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ มาตลอด เรื่องนี้ ดร.โกศล เล่าว่า “ตอนนั้นยังจำได้ ตื่นเต้นมากที่ได้บรรจุพนักงาน User Experience (UX) designer คนแรก ได้ผลิต Research and Development (R&D) engineer คนแรก หรือ ได้จัดตั้ง design factory ภายในธนาคาร” แต่ด้วยความที่ไม่เคยปิดโอกาสตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่จริงๆแล้วมีเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดร.โกศล จึงรีบขยับตัวอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เป็นความท้าทายใหม่ เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับหุ่นยนต์!
“ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะสร้างหุ่นยนต์ให้กลายเป็นธุรกิจหรือ startup ขึ้นมาได้” ดร.โกศล ให้มุมมองว่าเรื่อง Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ตัวอย่างชัดๆ คือเกมส์ที่เราเล่น ตอนนี้ AI ได้มีพัฒนาการมาไกลมาก และก็เข้าใกล้ตัวเรามากขึ้น เข้ามาอยู่ในอวัยวะใหม่ของเราเลย ซึ่งก็คือ AI ในโทรศัพท์มือถือนั่นเอง
เนื่องจากทุกวันนี้การใช้งานหลักของโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้มีไว้เพื่อโทรเข้าออก ไม่ใช่เพื่อโซเชียล แต่เป็นเรื่องแชท เหตุนี้เอง AI จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า chatbot หรือก็คือหุ่นยนต์ที่อยู่ในระบบที่เราแชท
ทุกวันนี้เริ่มมีความพยายามที่จะสร้าง startup ในรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยี chatbot และในขณะเดียวกัน startup เจ้าใหญ่ๆ ที่เราเห็นกันมานานที่แต่ก่อนใช้ app เป็นหัวใจหลักของธุรกิจ แต่ตอนนี้คนเลิกโหลด app กันแล้ว ใช้กันแค่ LINE หรือ Facebook Messenger หนทางใหม่ของ startup ทั้งหลายจึงอาจจะเป็นการพัฒนา chatbot ที่เป็นเหมือนหุ่นยนต์มาทำงานเสมือน app แต่จะสามารถเข้าไปแฝงตัวใน LINE หรือ Facebook Messenger หรือโปรแกรมแชทตัวอื่นๆ ที่กำลังแพร่หลายอย่าง WeChat
ความท้าทายก็คือการสร้าง chatbot ขึ้นมาทีละตัวนั้นใช้เวลาและค่าใช้จ่ายที่สูง การที่มีโปรแกรมสำเร็จรูปและเครื่องมือที่ใช้ผลิตและโคลนนิ่ง (cloning) หุ่นยนต์ประเภทนี้จะช่วยให้เกิดการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับวงการ startup ไทย รวมไปถึงนักพัฒนา เด็กรุ่นใหม่ ประชาชนทั่วไป แม่ค้าออนไลน์ หรือแบรนด์ต่างๆที่สามารถต่อยอดธุรกิจ หรือสร้างธุรกิจใหม่จาก chatbot
“เราได้สร้างโปรแกรมสำเร็จรูปพร้อมด้วย AI และเครื่องมือสำหรับผลิต chatbot ภายใต้แพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Hbot (เฮ็ดบอท)” ดร.โกศล เผยให้ฟังว่า เพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่เดือน มีแบรนด์ระดับโลก ธุรกิจใหญ่ๆ ในประเทศ และ SME เข้ามาเป็นลูกค้าของ Hbot ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มนี้ครอบคลุมหลากหลายภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร ประกันภัย ร้านอาหาร อิเล็กทรอนิกส์เฟอร์นิเจอร์ ความงามและผิวพรรณ หรือแม้กระทั่งธุรกิจต่างๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์หลักของ Hbot คือเรื่องการสร้าง startup ใหม่ โดยใช้แพลตฟอร์มนี้ในการทำงานร่วมกับผู้ที่ต้องการสร้างธุรกิจจาก chatbot ในรูปแบบที่เรียกกันว่า incubation & acceleration.. และเรื่องนี้ก็เป็นไปได้แล้วจริงๆ เมื่อล่าสุด Fintech startup ตัวแรกได้กำเนิดขึ้นในรูปแบบ chatbot ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮือฮา ซึ่งหลายๆ คนอาจได้ยินข่าวหรือทดลองใช้แล้ว chatbot ตัวนี้เฟสแรกอยู่บน Facebook messenger และใช้ชื่อว่า FINSTREET
จุดที่น่าสนใจของ FINSTREET Chatbot คือการที่สามารถช่วยคำนวณเปรียบเทียบตัวเลือก ในการรีไฟแนนซ์บ้านได้ง่ายๆ ผ่านการแชทเพียงไม่กี่นาที ก็รู้ทันทีว่าธนาคารไหนคือทางเลือกที่ดี ที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปการรีไฟแนนซ์จะช่วยให้คนที่ผ่อนบ้านประหยัดเงินได้เป็นแสนเป็นล้าน แต่เนื่องจากความยุ่งยากที่จะต้องเสียเวลาหาข้อมูลเปรียบเทียบ คนไทยส่วนใหญ่จึงพลาดโอกาสนี้ และเป็นหนี้ดอกเบี้ยกันอย่างน่าเสียดาย ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยของเราจะล้ำไปได้ถึงขนาด ที่มีหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI chatbot ที่ถูกพัฒนามาไกลได้ขนาดนี้ ไปทดลองกันได้แล้วที่ http://m.me/FinstreetOfficial
สุดท้ายนี้ ดร.โกศล แอบบอกกับเราว่าแพลตฟอร์ม Hbot เวอร์ชั่นสมบูรณ์มีกำหนดแล้วเสร็จในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะเปิดให้คนไทยทุกคนใช้ฟรี แต่ถ้าอดใจไม่ไหว ระหว่างรอสามารถเข้าไปศึกษาลองใช้งาน chatbot จากแบรนด์ต่างๆที่น่าสนใจซึ่งทางทีมได้เริ่มลิสต์รวบรวมไว้ให้แล้วที่ www.hbot.io
