ตั้งแต่ตื่นจนหลับ เราปฏิสัมพันธ์กับองค์กรต่าง ๆ มากมาย เราฝากเงิน กู้ยืมเงินจากธนาคาร เราทำประกันกับบริษัทประกัน เราสตรีมเพลงและวีดีโอจาก App ต่าง ๆ องค์กรเหล่านี้สร้างความสะดวกให้กับชีวิตเราอย่างมากมาย คงเป็นไปไม่ได้แล้ว หากชีวิตเราขาดองค์กรเหล่านี้ ในแต่ละวัน เราก็เสียค่าใช้จ่ายมากมายเช่นกันให้แก่องค์เหล่านี้ จะเกิดอะไรขึ้นหากเรายังได้รับบริการเหล่านี้ แต่เปลี่ยนเป็นได้รับจาก Virtual Organization หรือองค์กรไร้พนักงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแค่เสี้ยวเดียวของที่เราจ่ายอยู่ ลองนึกภาพเหล่านี้กัน
วันนี้อากาศดี เราขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด ฝนตกหนัก เราเบรกไม่ทัน ขับรถชนคันข้างหน้าซะงั้น เราต้องเสียเวลารอตัวแทนจากบริษัทประกันเพื่อมาถ่ายรูปที่เกิดเหตุ เก็บข้อมูลต่าง ๆ เสร็จต้องไปประเมินราคา ทำเอกสารเคลม กว่าจะได้นำรถเข้าซ่อมจริง ๆ
แต่ในอนาคต สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องเกิดขึ้น ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ Sensors เล็ก ๆ หลายพันตัว ตรงกันชน ไฟหน้า และที่มีอยู่รอบรถ ที่เชื่อมกันโดยเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เชื่อมต่อกับ Internet วิเคราะห์ได้ภายในเสี้ยววินาทีว่ารถเราเสียหายขนาดไหน สร้าง 3D Model ออกมาโดยอัตโนมัติ จากนั้น ระบบ Artificial Intelligence (AI) วิเคราะห์ความเสียหาย ส่วนที่ต้องซ่อม อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนโดยวิเคราะห์จาก 3D Model ดังกล่าว เปรียบเทียบกับการเกิดเหตุที่เคยเกิดคล้ายกัน และคำนวณจำนวนเงินค่าเสียหายได้ภายในพริบตา จากนั้น ระบบ AI ส่งต่อข้อมูลดังกล่าว ไปยังบริษัทประกันรูปแบบใหม่ที่เป็นแบบ Virtual Organization เปรียบเทียบข้อมูลอุบัติเหตุและกรมธรรม์ประกัน ที่เคยได้ทำไว้ใน Smart Contract ของ Blockchain Technology เช่น Ethereum ที่ได้รับการยืนยันความถูกต้องจาก nodes ต่าง ๆ ทั่วโลกว่าเป็นสัญญาที่ได้ถูกทำไว้จริง และยังมีผลบังคับอยู่
เมื่อกรมธรรม์และสัญญาต่าง ๆ ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องผ่านระบบ Blockchain ระบบส่งข้อมูลการซ่อมไปยังระบบ AI เพื่อสืบค้นฐานข้อมูลตามศูนย์บริการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อหาศูนย์ซ่อมที่ใกล้ที่สุด ที่มีสินค้าคงคลังของอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนและช่างที่พร้อมซ่อม หลังจากซ่อมเสร็จ sensors ของระบบ IoT รอบตัวรถตรวจสอบความสมบูรณ์ของการซ่อมว่าได้ทำการซ่อมแล้วเสร็จ ส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังระบบ Blockchain Network เพื่อทำการจ่ายเงินค่าซ่อมตาม Smart Contract โดยอัตโนมัติ การจ่ายเงินนั้นทำการจ่ายโดย Digital Currency เช่น Ripple หรือ Stellar Lumens ของระบบ Blockchain Network โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางเช่นธนาคาร
สรุปว่า บริษัทประกันรูปแบบใหม่ที่เป็นแบบ Virtual Organization แทบไม่ต้องมีพนักงานเลยตั้งแต่ต้นจนจบของธุรกรรมนี้ หน้าที่ของบริษัทประกันรูปแบบใหม่นี้ เพียงแค่พัฒนา ดูแลรักษาระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ ทุกอย่างถูกดำเนินการผ่าน Code ของระบบเทคโนโลยี ยิ่งไปกว่านั้น กระบวนการตั้งแต่ลูกค้าเลือกซื้อกรมธรรม์ เปรียบเทียบกรมธรรม์ สร้างกรมธรรม์ จ่ายเงิน สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีพนักงานของบริษัทประกันเลย ทุกอย่างสามารถจัดการได้ผ่านเทคโนโลยี Blockchain, Artificial Intelligence และ Internet of Things
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า องค์กรไร้พนักงาน (Virtual Organization) นี้จะมีต้นทุนลดลงอย่างมหาศาล ซึ่งสามารถทำให้ผู้บริโภคลดค่าใช้จ่ายอย่างมาก
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเดียว แต่องค์กรไร้พนักงานจะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ อีกมากมายในอนาคต องค์กรในประเทศถึงเวลาต้องมองอนาคตออกไปไกล ๆ แล้วว่าเทคโนโลยีจะทำให้อุตสาหกรรมของตนเองเปลี่ยนไปอย่างไร และเราจะเป็นคนเปลี่ยนอุตสาหกรรม หรือเราจะเป็นคนถูกเปลี่ยน สำหรับพนักงาน คนทำงานต้องติดอาวุธตัวเองด้วยความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยี ในโลกอนาคต เช่น AI และ Blockchain เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้เป็นความรู้เฉพาะของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT แล้ว แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องมี
สำหรับคุณสิริเกียรติ์ บุญวรเศรษฐ์ (Sirikiat Bunworaset) กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจ์ คอนซัลติ้ง จำกัด มีประสบการณ์ด้านการเป็นที่ปรึกษามากว่า 15 ปี ผ่านการร่วมงานกับองค์กรชั้นนำต่างๆ ทั้งในไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ทั้งการเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรโดยรวม การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การจัดตั้งธุรกิจประเภท Startup การทำ Digital Transformation การบริหารจัดการความเสี่ยงกิจการ เป็นต้น
บริษัท บริดจ์ คอนซัลติ้ง จำกัด (Bridge Consulting) ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาวางแผนด้านการพัฒนาองค์กรของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการปรับตัวองค์กรลูกค้าให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยในปัจจุบันดำเนินงานร่วมกับลูกค้าองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมค้าปลีกและการบริการ อุตสาหกรรมการบิน สถาบันการเงิน ฯลฯ
