ในภาษาอังกฤษ เราจะเรียกบรรดานักเลงคีย์บอร์ดว่า Troll (มาจากอมนุษย์ในเทพนิยายโบราณของฝั่งตะวันตกที่มีนิสัยอันธพาลทว่าโง่งั่ง) สำหรับไทยเราอาจเรียกคนเหล่านี้ว่า นักเลงคีย์บอร์ด หรือเลยเถิดไปเรียกว่า “เกรียน” (จริงๆ คำว่าเกรียนเมื่อก่อนใช้สำหรับแซวเด็กนักเรียนที่ตัดผมเกรียนข้าง แต่ปัจจุบันดูเหมือนจะใช้ในความหมายคนที่มาทำพฤติกรรมป่วนๆ แบบไม่มีสาระ) ทั้งนี้ ธรรมชาติของบรรดาเกรียนจะแสดงพลานุภาพได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานการณ์เป็นใจ เช่น มีการโต้เถียงกันในประเด็นดราม่าหนึ่งๆ เกรียนจะจุติเข้ามาและจุดประเด็นอื่นๆ ชักพาให้กระทู้ออกนอกเรื่อง พรุสวาทเจ้าของกระทู้หรือความเห็นต่างๆ เลยเถิดไปถึงการกระพือประเด็นดราม่าอื่นๆ ให้ลุกลามไปทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่ตั้งมา คำพูดที่พวกเขาใช้จะเน้นก่อให้เกิดอารมณ์รุนแรงและเร่งเร้าให้เราละเลยการใช้เหตุผล ความสำเร็จจะเกิดขึ้นเมื่อกระทู้ถูกปิดหรือกลายเป็นข่าวใหญ่โต
ทั้งนี้ นักเขียนจาก PR Daily แบ่งเกรียนเหล่านี้ออกเป็นสองประเภทตามอิทธิฤทธิ์ของพวกเขา
-
เกรียนซาดิสต์ หรือ เกรียนช่างโยง
จากงานวิจัยด้านจิตวิทยาชิ้นหนึ่งระบุว่า ปัจจัยทางด้านจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่จะเร่งเร้าให้เหล่าเกรียนออกอาละวาดคือ พวกเขาชอบเห็นความเจ็บปวดและความไม่สบายใจของผู้อื่น (ผู้เขียน: หากเราเชื่อตามทฤษฏีจิตวิทยาแขนงหนึ่งเรื่อง basic instinct หรือ สัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ เราจะเห็นว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อ กิน สืบพันธุ์ และทำลาย บางครั้งนักจิตวิทยาจึงมักนำความเชื่อนี้มาเชื่อมโยงว่าเหตุใดมนุษย์จึงสะใจกับการเห็นความย่อยยับของผู้อื่น #basic instinct ไม่ใช่ชื่อหนัง) คำจำกัดความของเกรียนประเภทนี้คือ กลุ่มคนที่สะใจกับบาดแผล ความเจ็บปวด และการทำให้ผู้อื่นกลายเป็นตัวตลก แต่ที่น่าสงสารที่สุดคือสิ่งที่คุณจะรับมือกับพวกเกรียนจำพวกนี้ได้คือการนิ่งเฉยเท่านั้นครับ
แม้มันจะเจ็บปวดเมื่อพวกเกรียนเริ่มสร้างเรื่องโกหกส่งต่อกันไป แต่สิ่งที่เราทำได้คือการรอคอยอย่างมีความหวังว่าจะมีใครสักคนเกิดแสงสว่างเห็นปัญญาและชี้ให้ผู้ใช้คนอื่นเห็นตรรกะอันไม่ชอบมาพากลของเหล่าเกรียน หรือบางครั้ง…ปัญญาจะเกิดได้ก็ด้วยแรงผลักดันจากมือคุณนิดๆ หน่อยๆ นั้นแหละครับ
โดยส่วนตัว อันนี้ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่อง spiral of silence หรือ ก้นหอยแห่งความเงียบ ซึ่งเป็นทฤษฏีของนักสื่อสารมวลชน กล่าวคือ เมื่อความเห็นส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางไหน ความเห็นถัดๆ มาก็มีแนวโน้มจะไปในทิศทางนั้นต่อเนื่อง ที่คุณไม่เห็นความเห็นของคนส่วนน้อยนั้นเพราะพวกเขา “เงียบ” ด้วยความกลัวว่าจะถูกต่อว่าหากแสดงความคิดเห็นแย้งกับกลุ่มใหญ่ สิ่งที่คุณต้องทำคือเบิกทางให้พวกเขาเห็นว่ามีคนที่คิดเหมือนอย่างเสียงส่วนน้อย หลังจากนั้นพวกเขาจะเริ่มแสดงความเห็นและนำพาแบรนด์หรือกระทู้กลับสู่สถานการณ์ปกติ
-
เกรียนหลงตัวเองและเกรียนเจ้าหลักการ
การศึกษานำโดย Erin Buckels จากมหาวิทยาลัย Manitoba ค้นพบว่าเกรียนส่วนใหญ่มักทานยามโนว่าตัวเองช่างดีงามเลิศล้ำและมีหลักการหนักหนา คำนิยามล่าสุดคือเกรียนพวกนี้ชอบเป่าหูและหลอกลวงชาวบ้านด้วย วิธีแก้ทางคือการป้องกันไม่ให้พวกเขาตั้งตัวเป็นเจ้าพ่อในโพสต์ของคุณให้ได้
อย่างไรก็ตาม การพูดดูเหมือนง่าย แต่การจะไม่ “อัพเลเวล” ให้เกรียนประเภทนี้เป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากหากคุณเงียบ พวกเขาก็จะบอกว่าคุณ “กลัว” ขณะที่หากคุณเข้าไปโต้แย้งก็ยิ่งเป็นการกระพือเชื้อไฟให้พวกเขาอีก คำแนะนำของเราคือพูดทุกอย่างด้วยเหตุผล ความสุภาพ พร้อมแอบสอดแทรกศัพท์เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ (แบบไม่เยอะและไม่ดูจงใจ) เพื่อเป็นการแสดงออกกลายๆ ว่า “ฉันรู้เรื่องดีกว่าพวกแกนะครัช” การยกผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์เลยเถิดไปถึงการทำการบ้านให้หนักเพื่อหาหลักฐานมายันเรื่องของคุณให้ได้ เป็นงานที่จะทำให้เกรียนประเภทนี้ “เงิบ” ไปตามๆ กัน