จากภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติ แบรนด์ต่างๆ เริ่มกลับมาใช้งบโฆษณามากขึ้น ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ที่เห็นได้ชัดในปีนี้คือความคึกคักของสื่อออนไลน์ ที่มีเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด ได้คาดการณ์ว่าสิ้นปี 2018 การใช้งบโฆษณาจะโต 3% คิดเป็นมูลค่า 89,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2017 ที่มีการใช้งบโฆษณาอยู่ที่ 86,444 ล้านบาท ทั้งนี้ จะตัวเลขจะเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงปี 2015 ถือว่าดร็อปลง และในช่วง 5 เดือนที่เหลือ หากมีอีเว้นท์ใหญ่ๆ ก็จะช่วยกระตุ้นการทำโฆษณาได้ อาทิ เอเขียนเกมส์ 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้
โดยสื่อโทรทัศน์ยังเป็นสื่อหลักเหมือนเดิม คาดว่าเมื่อจบปี 2018 สื่อโทรทัศน์จะมีสัดส่วนงบโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 50,717 ล้านบาท ตามมาด้วย สื่อออนไลน์ 14,330 ล้านบาท, Out of Home 12,276 ล้านบาท, สื่อสิ่งพิมพ์ 5,086 ล้านบาท และสื่ออื่นๆ 6,591 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการใช้งบโฆษณาตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ สื่อโทรทัศน์ยังครองส่วนแบ่งมากที่สุดอยู่ที่ 55.8% ซึ่งทีวีช่องหลัก เคเบิ้ลทีวี และทีวีดิจิทัล เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สื่อโทรทัศน์ใช้งบโฆษณาลดลง 6% และทีวีดิจิทัลใช้งบเพิ่มขึ้น 43% ส่วนสื่อที่น่าเป็นห่วงคือ สื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะแม็กกาซีนที่มีกว่า 110 หัว แต่กลับมีส่วนแบ่งงบโฆษณาเพียง 1.3% ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 37% ปัจจุบันแม็กกาซีนที่วางอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่มีผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับกลยุทธ์การนำเสนอให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค
หากเจาะตามประเภทธุรกิจในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจ Direct Sales มีการใช้งบโฆษณาเยอะที่สุด อยู่ที่ 2,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 490% ตามมาด้วย Government 1,682 ล้านบาท ลดลง 4%, Soft Drink 1,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% และ รถปิ๊กอัพ 1,290 ล้านบาท ลดลง 4%
Online อย่างเดียวเอาไม่อยู่ ต้องใช้ออฟไลน์ผสมผสานกันไป
เมื่อย้อนไปในปี 2012 งบโฆษณากว่า 70% ลงไปอยู่ที่สื่อโทรทัศน์ และอยู่ในออนไลน์เพียง 2% มาถึงในปี 2017 เม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์อยู่ที่ 55-60% และออนไลน์อยู่ที่ 25% คุณภวัต เรืองเดชวรชัย เผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีหลายแบรนด์ที่ใช้สื่อออนไลน์เป็นหลักในการทำตลาด ผลที่ได้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า จริงๆ แล้ว ออนไลน์อย่างเดียวเอาไม่อยู่ ต้องใช้ออฟไลน์ผสมผสานกันไป เพราะสื่อออฟไลน์จะสร้างกระแสได้ดี จุดกระแสทำให้เกิดความสนใจ เมื่อผู้บริโภคเกิดความสนใจแล้ว จะเริ่มหาข้อมูลเชิงลึกในออนไลน์ต่อไป