ทุกวันนี้การเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเป็น Influencer ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับทั้งสปอนเซอร์และผู้ชม ไม่ได้เรื่องง่าย จึงเป็นที่มาของการที่ เทลสกอร์ฯ (Tellscore) จัดงานครั้งสำคัญอย่างยิ่งใหญ่ Thailand Influencer Awards 2023 (TIA2023) งานประกาศรางวัลอินฟลูเอนเซอร์ และอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญแห่งปี ที่หลายคนรอคอย เพื่อยกระดับวงการอินฟลูเอนเซอร์ไทยและภูมิภาคให้เติบโตอย่างมากมีมาตรฐานและมีคุณภาพ
ทั้งนี้ หนึ่งเซสชั่นที่ทุกคนรอคอยของ 3 อินฟลูเอเซอร์ แถวหน้าของวงการ ได้ขึ้นให้ความรู้ถึงวิธีการทำงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ “คุณเหว่ง & คุณเติ๊ด” จากเทพลีลา , คุณตี๋โอ วุฒิพงษ์ ลิขิตชีวัน เจ้าของเพจอาตี๋รีวิว และ คุณเอกลักญ กรรณศรณ์ ผู้กำกับและผู้ก่อตั้ง BrandThink ร่วมกันเผยเคล็ดลับความสำเร็จของแต่ละคนภายใต้หัวข้อ How to Glow & Grow the Influencer-Creator Economy 2024+ ซึ่งเราได้สรุปใจความสำคัญย่อยง่ายมาให้แล้ว
คุณเหว่ง ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ และ คุณเติ๊ด ภูดิรพัฒน์ อ่องศรี จากเทพลีลา แนะนำการเริ่มต้นการทำคอนเทนต์หรือคนที่อยากจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ง่ายๆ เลยให้เริ่มที่แพล็ตฟอร์ม Shot Video อย่าง TikTok เพราะ Tools ต่างๆ ค่อนข้างพร้อมและทำง่าย สามารถเริ่มได้เลย แต่ถ้าไปแพล็ตฟอร์มที่เป็น Long form อาจจะยากกว่าต้องมาเรียนศึกษาการตัดต่ออีก
“แต่จุดสำคัญที่อยากเน้นย้ำคนที่จะมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ทุกคนเลยคือ เราต้องไม่หลอกคนดู เราบ้ง พวกเราก็เคยผ่านมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเทพลีลาไม่เคยผิดพลาด เราเคยทำผิดมาก่อน เพราะเราไม่รู้ในสิ่งนั้น แต่พี่จะบอกกับน้องๆ (ในทีม) ว่า ไม่ต้องลบ เพราะเราก็อยากให้คนอื่นได้เรียนรู้ ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีอีกที่เราทำบ้งอีก แต่ก็อยากจะขอโอกาสจากคนดูด้วยว่าทุกคนมีสิทธิที่จะทำผิดพลาดได้เช่นกัน ก็ให้โอกาสเราด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากบอกน้องๆ ที่จะมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์คือ ต้องเริ่มเลย ลองผิดลองถูกไปเรื่อยก่อน จนเจอทางของเรา ถ้าแป๊กก็ปล่อยไป แล้วก็ลุกมาทำต่อทำใหม่อีกลองไปเรื่อยๆ ที่สำคัญที่สุดคือต้อง เริ่มเลย”
ส่วนคำแนะนำเรื่องการทำงานกับแบรนด์ ทีมเทพลีลา แนะนำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารร่วมกันทั้ง 3 ฝ่ายพร้อมๆ กัน คือทั้งแบรนด์ (ลูกค้า) เอเจนซี่ และอินฟลูเอนเซอร์ (ครีเอเตอร์) เพื่อให้งานลุล่วงไปด้วยดี วิธีที่ดีที่สุดคือการประชุมร่วมกัน พร้อมกันไปเลย เพื่อให้สื่อสารกันอย่างถูกต้อง และคีย์เมสเสจหรือไอเดียจะไม่หลุดและเกิดการผิดพลาดน้อยที่สุด
คุณตี๋โอ วุฒิพงษ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์ก็ดี มันคือการหาของดีมีคุณภาพให้เหมาะสมกับผู้ติดตามของเรา เราสามารถทำคอนเทนต์ที่เป็นคอมเมอเชียลได้ โดยการแนะนำสินค้าที่ดีให้กับผู้ชม ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนติดตามช่อง “อาตี๋รีวิว” ก็มาจากความน่าเชื่อถือที่เราสะสมมาเรื่อยๆ ด้วยการแนะนำสินค้าดีมีคุณภาพ เมื่อเขาซื้อเขาเกิดการบอกต่อไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็น Trust ที่เขาไว้ใจเรา
“ครั้งหนึ่งเคยถูกขอให้ขายสายชาร์จแบตราคา 5 บาท ผมก็ขาย แล้วก็ขายได้ตั้ง 10 อันเลย แต่ผมบอกกลางไลฟ์เลยว่า อย่าซื้อไปใช้เลย ซื้อเอาไปผูกถุงแกงเถอะ ก็มีคนซื้อนะ ผมขายได้ตั้ง 10 เส้น เพราะเราไม่ต้องการทำกำไรกับสิ่งที่ไม่ด สิ่งเหล่านี้คือการสะสม Trusting ไปเรื่อยๆ เพราะคนฟังหรือผู้ติดตามเราคือเพื่อน ดังนั้น ถ้าผมจะแนะนำของให้เพื่อน ผมก็จะไม่โกหกเขา ผมเป็นคนที่เลือกสินค้าด้วยว่า ตัวไหนเหมาะกับเพื่อนของผม ถ้าเขาบอกว่าดี เอ๊ะ! มันดีจริงอย่างที่พูดไหม ผมก็จะมีทีมคอยเช็คด้วยว่าความจริงเป็นอย่างไร”
และอีกสิ่งจากประสบการณ์ที่เรียนรู้จากการทำคอนเทนต์คือ ถ้าอยากให้มีผู้ติดตามก็ไปทำคลิป แต่ถ้าอยากได้แฟนพันธุ์ทีให้มาทำไลฟ์สด เพราะการลงคลิปเป็นการลงด้านเดียว แต่ถ้าอยากสนิทกับคนดูด้วย อยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไรกับเรา ให้มาทำไลฟ์ “หลายๆ ครั้งที่ผมไม่รู้หรือผมตัน สิ่งที่ผมทำเลยก็คือ การถามคนดู ถามเพื่อนผมนี่แหละตอนไลฟ์ แล้วเขาก็จะให้คำแนะนำที่ดีๆ กับคุณมาเอง”
คุณเอกลักญ BrandThink พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่คนทำคอนเทนต์วันนี้ก็ต้องปรับตัวด้วย สิ่งที่ BrandThink ทำและย้ำเรื่องนี้เสมอ คือก Get Better Thing for Tomorrow เพราะเราคือ ไฮบริด คอมพานี ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นฟอร์แมทหรือไอเดีย ซึ่งที่ผ่านมา อย่างที่ทาง “เทพลีลา” บอกเลยคือ เราเรียนรู้เรียนถูกกันได้ สิ่งสำคัญที่สุดในการทำคอนเทนต์คือการลงมือทำ และเรียนรู้ไปตลอด
“ทุกวันนี้ การทำคอนเทนต์สิ่งที่ท้าทายพวกเราที่สุดก็คือ ทุกคนอยากทำอะไรคล้ายๆ กัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่จะประสบความสำเร็จได้ ก็คือ การสร้างความโดดเด่นและแตกต่างของตัวเอง เราต้องรู้ให้ได้ว่าเราคือใคร ไม่ใช่เราอยากเป็นใคร นั่นคือการไปทำซ้ำกับคนอื่น แต่เราต้องงัด DNA ของตัวเองออกมา และเราจะกลายเป็นเราที่แตกต่าง”
ส่วนในการทำงานร่วมกับแบรนด์ สิ่งที่ เอกลักญ แนะนำคือ เราไม่ใช่รู้จักแต่การทำงานสร้างสรรค์หรืองานคอนเทนต์ แต่ควรมาเรียนรู้เรื่องการทำธุรกิจต่างๆ ด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า ถ้าทำงาอย่างนี้ออกมาแล้วจะสามารถกลับไปตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างไร ในมุมไหน เพื่อที่จะทำให้คอนเทนต์ของเราตอบสนองต่อธุรกิจของลูกค้าได้อย่างตรงจุด หรือเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่แค่ผลิตงานออกมาตามใจตัวเองแต่ไม่รู้ว่ามันกลับไปที่ธุรกิจได้อย่างไร ดังนั้น คนเป็นครีเอเตอร์ก็ต้องเรียรู้ทางการตลาดและธุรกิจด้วย ศึกษาเพื่อรู้ภาพรวมเพื่อให้คุยภาษาเดียวกันได้นั่นเอง