ตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาว Twitter คุ้นตากับโพสต์ที่ติดแฮชแท็ก #แต้มบุญหมด ซึ่งเป็นแท็กที่รวบรวมเรื่องราวความโชคร้ายที่คนโซเชียลพบเจอในชีวิตประจำวันแล้วโพสต์บอกเล่าคราวเคราะห์ของตัวเองอย่างคึกคัก ล่าสุดมีการเฉลยแคมเปญออกมาแล้วว่าเป็นของแบรนด์ Jabs ที่มีสินค้าหลักคือแผ่นซับความมัน และทิชชู่เปียกสูตรน้ำแร่ ความน่าสนใจคือ Jabs สามารถโดดเด่นกว่าใครด้วยการฉีกกฏจากผู้เล่นรายอื่นในตลาดที่มักเน้นความสะอาดเท่านั้น แต่ Jabs เลือกใช้อินไซต์ของวัฒนธรรมคนไทย เพื่อต่อยอดจุดยืนของแบรนด์ได้ด้วยเรื่องของบุญบาป ดวง และโชคลาง
แคมเปญ unbranded บน Twitter ยังรับกันดีกับคอนเทนต์ที่ Jabs ทำบน Facebook สะท้อนไอเดียยิ่งใหญ่ของ Jabs เรื่องการเปลี่ยนทิชชู่เปียกให้เป็น “ไอเท็มกึ่งเสริมดวง กึ่งตัวช่วยแก้สถานการณ์” ก้าวใหม่ของ Jabs ยังสอดคล้องกับเทรนด์โลกด้วย เพราะนักการตลาดชั้นนำฟันธงแล้วว่าการต่อยอดอินไซต์โลคัลคัลเจอร์ หรือการใช้ Insight Local Culture กำลังจะเป็นสมรภูมิหลักที่จะชี้วัดความสำเร็จของแคมเปญได้
ได้ใจคนไทยทุก GEN
Jabs เป็นแบรนด์ในเครือ C.P. Consumer Products ซึ่งให้คำนิยามตัวเองบนเพจ Facebook ว่าเป็นสินค้าสำหรับ “ทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด พร้อมบำรุงอย่างอ่อนโยน” สินค้าหลักมีทั้งแผ่นฟิล์มซับความมันจากประเทศญี่ปุ่น 3 ชนิดและผ้าเช็คทำความสะอาดผิว 3 สูตร กลุ่มเป้าหมายหลักคือคนที่สนใจในเรื่องความสะอาดทั้งหญิงและชายอายุ 18-35 ปี
การวางทาร์เก็ตที่คนรุ่นใหม่ทำให้ Jabs ตัดสินใจฉีกแนวไปสร้างแบรนด์ผ่านแท็ก #แต้มบุญหมด จนกลายเป็นแคมเปญไวรัลที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจ โดยชื่อแคมเปญอย่างเป็นทางการคือ “Unlucky day without Jabs” เครื่องมือหลักคือแฮชแท็กติดตลก #แต้มบุญหมด รวมความบ้งและเรื่องโชคร้ายที่ชวนให้ชาว Twitter คิดหาตัวช่วยแก้สถานการณ์ในวันที่คิดว่าแต้มบุญที่สะสมมาอาจจะหมดลง
การทำเป็นแคมเปญ unbranded ทำให้ Jabs สร้างกระแสสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเล่นกับดวงนั้นมักได้ใจคนไทยหลาย GEN อยู่แล้ว และต้องยอมรับว่าเรื่องบุญบาป ดวง และโชคลาง เป็นวัฒนธรรมสืบต่อความเชื่อกันมายาวนานของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ทั้งการเข้าวัดทำบุญเพิ่มบุญกุศล หรือไหว้ศาลเจ้าเพื่อแก้ชง แก้โชคชะตา หรือแม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่คนไทยยึดเหนียวเพื่อเพิ่มความสบายใจในการดำเนินชีวิต เช่น การใส่เสื้อสีมงคลตามวัน หรือการพกเครื่องรางไว้เสริมโชค ดักทรัพย์ เสริมความมั่งคั่ง มั่นคงในหลายเรื่อง
แต่แม้จะระวังแล้วก็ต้องมีวันแย่ๆ หรือมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง #แต้มบุญหมด จึงถูกใช้เป็นแฮชแท็กประจำแคมเปญสุดครีเอทจาก Jabs ที่ชาวทวิตเตอร์และเหล่าอินฟลูเอนเซอร์มากมายต่างแชร์เรื่องราวฮาๆ และความโชคร้ายของตัวเองที่บังเอิญเจอในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำกระเด็น เข้าห้องน้ำแล้วทิชชู่หมด กินเลอะ อากาศร้อน หรือสิ่งสกปรก รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆที่หลายคนเรียกว่า “ความซวย”
จุดประสงค์ของแคมเปญที่จงใจเล่นกับดวงและแต้มบุญของคนไทย คือการบอกให้ทุกคนรู้ว่าความซวยต่างๆ ที่คาดไม่ถึงนั้นแก้ไขได้ง่ายมาก เพียงแค่พกทิชชู่เปียก Jabs ติดตัวไว้ก็เหมือนพกไอเท็มเสริมดวง บรรเทาความโชคร้ายให้คลายลง
ตัวช่วยแก้สถานการณ์
ทุกคนจะรู้สึกได้ว่า “โชคดีแล้วที่พก Jabs ติดตัวมาด้วย” ทำให้ Jabs กลายเป็นตัวช่วยแก้สถานการณ์คาดไม่ถึงได้อย่างรวดเร็ว เสริมกับสโลแกน “ทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด พร้อมบำรุงอย่างอ่อนโยน” ได้อีกมุม
จริงๆ แล้ว Jabs เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดมานาน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับแผ่นซับความมัน และทิชชู่เปียกสูตรน้ำแร่ (ห่อสีฟ้า) แต่สำหรับสูตรนี้ Jabs Hygienic Mineral Wipes เป็นสูตรที่สามารถเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวได้อย่างอ่อนโยน ลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรค 99.999% ได้ด้วย การทำแคมเปญนี้ขึ้นมานอกจากจะทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์และสินค้ารุ่นนี้มากขึ้น ยังสื่อให้เห็นอีกว่า Jabs เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย เข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของคนในยุคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วใช้งานได้จริงๆ
วิธีการโปรโมททิชชู่เปียกรุ่นนี้ยังน่าสนใจมาก เพราะที่เพจ https://www.facebook.com/jabsbeauty มีการโชว์ภาพสินค้า Jabs ที่มีสีช่วยเรียกทรัพย์ เสริมบารมีในการทำงานของผู้ใช้ที่เกิดในวันต่างๆ เช่นคนเกิดวันจันทร์ที่เหมาะกับไอเท็มโทนสีเขียว ก็ควรพกพา Jabs Hygienic Mineral Wipes ห่อสีเขียวติดตัว
แคมเปญที่ Jabs เนรมิตทิชชู่เปียกเป็นไอเท็มเสริมดวงนี้ จึงเป็นอีกตัวอย่างน่าทึ่งของการโฟกัสที่ Insight Local Culture จนได้ใจคนไทยทุก GEN
