เรื่องหินๆ ของนักการตลาดในการแข่งขันยุคออนไลน์ที่ไม่ได้จบแค่โจทย์ที่ว่า จะทำอย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายได้รับสารที่เราต้องการจะสื่อเพียงเท่านั้น เพราะที่หินยิ่งกว่าก็คือ จะทำอย่างไรให้สามารถ “ปิดการขาย” หรือบรรลุเป้าหมายที่แคมเปญหรือโปรเจคนั้นๆ ตั้งไว้ได้
ปัญหาโลกแตกนี้เกิดได้ในทุกๆ วงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการภาพยนตร์ที่ลงทุนสร้างด้วยงบประมาณมหาศาล จะมาหวังดวงลุ้นให้หนังปัง ยอดขายตั๋วถล่มทลายก็คงไม่ได้
ที่สำคัญคือ ภาพยนตร์ไม่เหมือนโปรดักต์อื่นตรงที่เมื่อปล่อยออกสู่ตลาดแล้วจะแทบไม่มีโอกาสให้แก้ตัวหรือพลิกเกมกันได้เลย
..แค่สัปดาห์เดียวเป็นอันรู้เรื่อง ว่าที่ลงทุนลงแรงสร้างกันมานั้นจะ ปัง หรือ แป้ก!
ที่ผ่านมา “หนังตัวอย่าง” จึงถูกให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมันทำหน้าที่เป็นเหมือนการ์ดเชิญให้คนอยากตามไปดูเรื่องราวเต็มๆ ของหนังเรื่องนั้นๆ แต่ปัญหาก็คือ หนังตัวอย่างส่วนมากก็มักจะปล่อยกันล่วงหน้าหลายสัปดาห์ หรือบางเรื่องก็ปล่อยล่วงหน้าเป็นเดือนก็มี
ข้อดีของการปล่อยหนังตัวอย่างล่วงหน้านานๆ แน่นอนว่า มันช่วยให้กระจายไปในวงกว้างได้มากขึ้น มีคนได้เห็นมากขึ้น แต่ในข้อดีก็มีข้อเสียคือ บางทีปล่อยล่วงหน้านานไป จนคนลืมไปแล้วว่า “เคยอยากดู” ก็มี
เฟซบุ๊คเองก็มองเห็น pain point นี้ จึงออกสองฟีเจอร์ใหม่ต่อยอดจากการขายโฆษณาฉายหนังตัวอย่างแบบที่เคยมีอยู่เดิม โดยเพิ่มโอกาสให้นักการตลาดปิดการขายได้ง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นการ “มัด” ผู้บริโภคที่สนใจหนังเรื่องนั้นๆ เอาไว้ไม่ให้หลุดรอดออกไปได้
การทำงานของสองฟีเจอร์ใหม่นี้ เริ่มต้นขึ้นหลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊คได้ดูหนังตัวอย่างที่ค่ายหนังซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊คแล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจ แต่ยังไม่ถึงเวลาเข้าฉาย ผู้ใช้ก็แค่กดปุ่ม “Interested” ระบบก็จะส่ง Notification มาเตือนในตอนที่ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวใกล้จะเข้าโรง
ส่วนเรื่องไหนกำลังฉายอยู่ ที่ด้านล่างของโฆษณาหนังตัวอย่างนั้นๆ ก็จะโชว์เป็นปุ่ม “Get Showtimes” ที่ผู้ใช้สามารถเช็ครอบหนังและจัดการกดซื้อโดยเลยโดยไม่ต้องไปเปิดแอพไหนขึ้นมาใหม่ให้ยุ่งยาก ต่อท่อตรงสู่โรงหนังและระบบเพย์เมนท์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ จองที่นั่ง กดจ่ายเงินกันได้เลยในทันที
สองฟีเจอร์ใหม่นี้เริ่มทดลองใช้แล้วในสหรัฐอเมริกา และ อังกฤษ โดยร่วมมือกับโรงภาพยนตร์ AMC Theaters และ Regal Cinemas ในอเมริกา ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกทำธุรกรรม ซื้อตั๋วผ่านสองช่องทาง ให้เลือกระหว่าง Fandango และ Atom Tickets ส่วนในอังกฤษสามารถกดซื้อตั๋วของโรงภาพยนตร์ในเครือ Odeon Cinemas
แม้จะอยู่ในช่วงนำร่อง แต่หลังจากเริ่มทดลองใช้ได้ไม่นาน ผลลัพธ์ออกมาในทางบวก โดยค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Universal Pictures ที่ได้ทดลองใช้แล้ว ยอมรับว่า สองฟีเจอร์นี้ช่วยไดรฟ์ยอดขายตั๋วได้จริง
“เราได้ซื้อโฆษณา Facebook showtime ads เพื่อโปรโมทหนังเรื่อง The Grinch และพบการเติบโตของการเช็ครอบหนัง รวมถึงการซื้อตั๋วอย่างชัดเจน” Doug Neil ผู้บริหารด้านการตลาดดิจิทัลของ Universal Pictures เอ่ย
นอกจากนี้ สองฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของเฟซบุ๊คนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้กับโปรดักต์อื่นๆ นอกเหนือจากภาพยนตร์ได้อีกด้วย โดย Jen Howard ไดเร็คเตอร์ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์และเทคโนโลยี ของเฟซบุ๊ค ให้ไอเดียว่า มันสามารถนำไปต่อยอดใช้กับการแจ้งเตือนซีรีส์ห้ามพลาดหรือสตรีมมิ่งเซอร์วิสอื่นๆ ก็ได้ด้วย
