ในโลกของการตลาดยุคใหม่ มีกลยุทธ์การตลาดที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคระดับสูงที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับธุรกิจทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม และทุกเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญดิจิทัลที่ซับซ้อน ไปจนถึงกิจกรรมการตลาดเชิงประสบการณ์ขนาดใหญ่ แต่กลยุทธ์การตลาดเหล่านี้ล้วนต้องอาศัย Vision ที่ชัดเจน ทีมงานมืออาชีพ และงบประมาณจำนวนมากจึงจะสามารถเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น มักจะขาดองค์ประกอบสำคัญเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Vision ที่ชัดเจน โครงสร้างทีมการตลาด หรือแม้กระทั่งงบประมาณสำหรับดำเนินกลยุทธ์ขั้นพื้นฐาน และธุรกิจขนาดเล็กต้องอาศัยการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองกับสถานการณ์แบบวันต่อวัน บ่อยครั้งที่ต้อง “ทำไปก่อน” โดยไม่มีแผนระยะยาวที่เป็นรูปธรรม ธุรกิจขนาดเล็กมักจะมีเพียงบุคคลเดียวที่ต้องทำหน้าที่หลายอย่างในเวลาเดียวกัน เช่นดูแลการสื่อสาร การสร้างแบรนด์ การขาย ไปจนถึงการดูแลลูกค้า แทนที่จะได้โฟกัสเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้เต็มที่ กลับต้องทำหลายอย่างนี้คือข้อจำกัดด้านบุคลากรของ SME
นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ “งบประมาณ” สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก งบประมาณด้านการตลาดมักมีจำกัด หรือในบางกรณีก็แทบไม่มีเลย การจ้างบุคลากรการตลาดเพียงหนึ่งคน อาจใช้งบประมาณส่วนใหญ่ที่มีอยู่แล้ว
นี่คือความเป็นจริงที่ธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากต้องเผชิญ อย่างไรก็ตาม หากสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ไปได้ ก็มีโอกาสเติบโต เพิ่มกำไร ขยายทีมงาน และเริ่มกำหนด Vision อย่างชัดเจน พร้อม มีงบประมาณเพื่อสนับสนุนการตลาดอย่างเต็มที่ในอนาคต
แล้วในระหว่างที่ยังไม่มีทรัพยากรพร้อม SME สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อพัฒนาธุรกิจ คำตอบนั้นคือ 3 ข้อนี้
- เข้าใจ Customer Journey ของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง : จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด คือการทำความเข้าใจ Customer Journey อย่างละเอียด ต้องรู้ว่าลูกค้าเริ่มรู้สึกว่าต้องการสินค้าหรือบริการเมื่อใด อะไรคือเหตุการณ์ ความรู้สึก หรือแรงกระตุ้นที่นำไปสู่ความต้องการนั้น หากลูกค้าไม่ได้รับการแก้ปัญหา จะเกิดผลเสียอย่างไร ต้องค้นหา pain points แรงจูงใจภายใน และความลังเลหรือข้อสงสัยที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อการสื่อสารการตลาดเท่านั้น แต่คือรากฐานของกลยุทธ์ของธุรกิจโดยรวม เมื่อลงลึกและเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง ก็จะสามารถสร้างข้อความที่ตรงใจ และออกแบบ offer ที่ตอบโจทย์ได้อย่างแม่นยำ
- ใช้พลังของ AI ให้เต็มประสิทธิภาพ : AI เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวด้านการตลาด ที่พร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง สามารถใช้ AI ในการระดมไอเดีย วางกลยุทธ์ กำหนดเป้าหมาย และออกแบบ Journey เพื่อให้ถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
AI ยังสามารถเขียน Content ในรูปแบบต่าง ๆ ไปจนถึง Sale Email นอกจากนี้ยังสามารถช่วยจัดทำคู่มือ onboarding ลูกค้าใหม่ หรืองานด้านเอกสารอีกมากมายที่อาจไม่มีเวลาทำด้วยตนเอง ในกรณีที่ต้องทำหน้าที่การตลาดเพียงคนเดียว การมี AI เป็นผู้ช่วยจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและผลลัพธ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ทำ social media ด้วยความจริงใจ : social media เป็นช่องทางที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักใช้เวลาที่นั่นเป็นประจำ หากเข้าใจโปรไฟล์ลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ก็จะรู้ว่าพวกเขาใช้งาน platform อะไร และมีพฤติกรรมแบบใด
ให้สื่อสารในแบบที่ตรงกับแรงจูงใจ ความต้องการ และปัญหาของลูกค้า ใช้ Content ที่ให้ความรู้ มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ความจริงใจในการสื่อสารนี้ จะช่วยให้ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ และเมื่อถึงเวลาที่พร้อมจะตัดสินใจซื้อ Brand จะเป็นชื่อแรกที่นึกถึง
ทั้งหมดนี้คือชุดเครื่องมือการตลาดพื้นฐานที่ธุรกิจขนาด SME สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพางบประมาณจำนวนมาก สิ่งที่ต้องมีคือเวลา ความพยายาม และความเข้าใจอย่างแท้จริงในลูกค้า
กลยุทธ์เหล่านี้ไม่ใช่กลวิธีลัด หรือเทคนิคชั่วคราว แต่คือพื้นฐานของการตลาดที่ธุรกิจทุกระดับต้องเข้าใจและดำเนินการให้ถูกต้อง หากสามารถทำได้ตั้งแต่ยังเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ก็จะมีรากฐานที่แข็งแรงพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน