‘ญี่ปุ่น’ ประเทศที่มีผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์มานานมาก ทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพราะวิกฤตปัญหาอัตราการเกิดต่ำ ทำให้หลายๆ ธุรกิจประกาศขยายอายุเกษียณงานเป็น 65 ปีในปัจจุบัน รวมไปถึง ธุรกิจค้าปลีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมา เกือบจะทุกร้านค้าได้ปิดให้บริการเร็วขึ้น เพราะไม่มีพนักงานทำงานอยู่กะดึก
ล่าสุด ร้านค้าปลีกในญี่ปุ่น ประกาศเตรียมจะขยายอายุพนักงาน สามารถทำงานได้ถึง 80 ปี โดยรายงานของ Nikkei Asian Review ระบุว่า ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า Nojima ในญี่ปุ่น เป็นรายแรกๆ ที่ประกาศขยายอายุคนทำงานจาก 65 เป็น 80 ปี แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญา
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวได้เริ่มใช้กับพนักงานทุกคนราว 3,000 คนแล้ว ซึ่งครอบคลุมทุกตำแหน่งงาน ไปจนถึงพนักงานขายในร้าน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกปัญหานี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะหลายอุตสาหกรรมขาดแคลนคนทำงานจำนวนมาก จนทำให้รัฐบาลประกาศเปิดรับพนักงานชาวต่างชาติ โดยในแต่ละปีเปิดให้โควต้าเพิ่มขึ้น (ภายใต้เงื่อนไขของทักษะงานนั้นๆ)
ในขณะที่ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ที่ออกนโยบายขยายอายุงานเกษียณ ปรับเพิ่มอายุเป็น 70 ปี และส่วนหนึ่งเป็น 65 ปี แต่สำหรับร้านค้าปลีก โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า นักเศรษฐศาสตร์ของญี่ปุ่น มองว่า ขาดแคลนพนักงานมากที่สุดเมื่อเทียบกับ retail ประเภทอื่น ที่สำคัญการขยายอายุวัยทำงานสามารถให้ผู้สูงอายุใช้ทักษะ และประสบการณ์ทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
Yoshiyuki Tanaka ผู้บริหารของ Nojima พูดว่า การต่ออายุการทำงานจนถึง 80 ปี บริษัทจะใช้วิธีแบบต่อสัญญา ‘รายปี’ ส่วนรายละเอียดย่างอื่นจะขึ้นอยู่กับแต่ละตำแหน่งงาน
‘ค้าปลีก’ ในญี่ปุ่นเริ่มขยายอายุคนทำงานเป็น 75 ปี
ถึงแม้ว่า Nojima จะเป็นรายแรกที่ใช้วิธี Beyond มากด้วยการขยายอายุเกษียณเป็น 80 ปี แต่ร้านค้าปลีกทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กรายอื่นๆ เริ่มประกาศใช้นโยบายเดียวกัน ขยายอายุมาอยู่ที่ 75 ปี ซึ่งบางแห่งกำลังพิจารณาอายุเกษียณพนักงานที่ 80 ปีด้วย
โดยนักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่งพูดว่า การระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้การรับออเดอร์ผ่านโทรศัพท์ได้รับความนิยมมากขึ้น รวมไปถึงการแนะนำสินค้า หรือแนะนำวิธีใช้งานแบบทางไกล ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เหล่าผู้ประกอบการตัดสินใจปรับอายุเกษียณงาน และให้กลุ่มผู้สูงอายุมีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจพวกเขา
