การสัมมนา Creative Talk Conference 2025 ในหัวข้อ “MarTech as a Business First Aid: MarTech สามัญประจำธุรกิจ” ได้ฉายภาพชัดเจนถึงความสำคัญของ MarTech ในฐานะเครื่องมือพื้นฐานที่ทุกธุรกิจควรมี โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิได้แก่ คุณกล้า ตั้งสุวรรณ จาก Wisesight, คุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ จาก MarTech Expo, และคุณไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล จาก PAM Real CDP มาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์
การเลือกใช้ MarTech: ไทย vs. ต่างชาติ
การตัดสินใจเลือกระหว่าง MarTech ของไทยและต่างชาติขึ้นอยู่กับ “Stage ของธุรกิจ” โดยคุณกล้าจาก Wisesight ชี้ว่าธุรกิจเริ่มต้นหรือ SME อาจคุ้นเคยกับเครื่องมือต่างชาติที่ใช้งานได้ฟรีหรือมีราคาไม่แพง ขณะที่แบรนด์ไทยอย่าง Wisesight พยายามยกระดับบริการให้เทียบเท่าสากล ซึ่งมีข้อดีเพิ่มเติมจากมาตรการภาษี DEPA ที่ช่วยลดหย่อนได้ถึง 200% เมื่อซื้อ MarTech Tools ส่วนจุดแข็งของเครื่องมือต่างชาติคือมี Case Study ที่หลากหลายและพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก
คุณบอลจาก MarTech Expo เสริมว่าองค์กรใหญ่มักเลือกแบรนด์ต่างชาติที่น่าเชื่อถือและมีบริการหลังการขายแบบ 24/7 พร้อมเน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นของโมเดลการใช้งานที่ควรเลือกระบบที่รองรับได้ทั้ง SME และ Corporate ด้านคุณพงศ์จาก PAM Real CDP ให้ความเห็นว่าซอฟต์แวร์ไทยมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เข้ากับบริบทของธุรกิจไทยได้ดีกว่า
MarTech ปรับใช้กับธุรกิจได้หลากหลาย
MarTech นั้นสำคัญกับ “ทุกธุรกิจ” แม้จะดูเข้าใจยาก แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณกล้า (Wisesight) กล่าวเน้นย้ำประเด็นนี้ คุณบอล (MarTech Expo) ได้ยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้กับธุรกิจต่างๆ เช่น eCommerce ที่ต้องมี Order Management System (OMS), Retail และร้านอาหารที่ต้องการระบบ POS และ Loyalty Program, ธุรกิจโรงแรมที่มีเครื่องมือเฉพาะทางอย่าง AIYA และ Zwiss สำหรับ B2B ที่มีวงจรการขายยาว จะเน้นระบบการหา Lead (Acquisition) และการฟูมฟัก (Nurture) ด้วย Sale Pipeline Tracking ขณะที่ B2C ที่มีวงจรการขายสั้น จะเน้นการเปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นลูกค้าประจำ (Conversion) ผ่าน Marketing Automation และการรักษาลูกค้า (Retention) ด้วย Loyalty Program
คุณพงศ์ (PAM Real CDP) เสริมว่าไม่มีธุรกิจไหนไม่ใช้เทคโนโลยี ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจอยู่ใน Stage ไหน ตั้งแต่การหาความต้องการตลาด, ระบบจ่ายเงิน (POS), CRM, ไปจนถึงระบบสมาชิก โดยเฉพาะ B2C ที่ต้องการปิดการขายให้เร็ว จำเป็นต้องรู้ว่าลูกค้าอยู่ขั้นไหนเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นหรือสินค้าที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม
การแก้ไขปัญหาสภาวะลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ
สำหรับปัญหาลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ คุณพงศ์ (PAM Real CDP) แนะนำให้ “ใช้ Data ให้เป็นประโยชน์” ในการวิเคราะห์และสร้าง Awareness เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำในเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการส่ง Personalization Message เพื่อสร้างความสัมพันธ์และกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำ (Retention) นอกจากนี้ MarTech ยังช่วยอุดรอยรั่วทางธุรกิจ เช่น การแจ้งเตือนความผิดปกติของยอดจองสาขา หรือค่าน้ำค่าไฟไม่สมดุลกับรายได้
คุณกล้า (Wisesight) ชี้ว่า MarTech ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นการยิงอีเมลหรือยิงแอด โดยไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องทดลองเพื่อหาสูตรที่ใช่สำหรับธุรกิจ และเน้นย้ำว่า “หัวใจของ Data” คือการเก็บข้อมูลได้เร็ว ประมวลผลเร็ว และให้คำตอบกับธุรกิจได้รวดเร็ว คุณบอล (MarTech Expo) เสริมว่า Automation คือผู้ช่วยคนสำคัญ ที่ช่วยเปลี่ยนงาน Manual ให้เป็นอัตโนมัติ เช่น การแจ้งเตือนเพื่อเตรียมของขวัญวันเกิดให้ลูกค้าคนสำคัญ
สรุปประเด็นน่าสนใจ
- มุมมองใหม่ต่อ Lead: คุณกล้า (Wisesight) ชี้ว่าไม่ควรมองข้ามกลุ่มที่ดูเหมือนไม่มีกำลังซื้อ เช่น นักเรียน การเข้าไปสอนและให้ความรู้ อาจสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคตได้
- งบประมาณ MarTech: โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของงบการตลาด และคุณบอล (MarTech Expo) ย้ำว่า งบนี้ควรมาจากฝั่ง Marketing ไม่ใช่ IT
- แก้ปัญหาพื้นฐานของลูกค้า: เริ่มจากจุดที่ง่ายที่สุด เช่น ระบบ Payment ที่ราบรื่น เพราะหากลูกค้าจ่ายเงินไม่ได้ ทุกอย่างก็จบ (คุณพงศ์)
- รู้จักตำแหน่งของตัวเอง: ใช้ MarTech เพื่อวิเคราะห์ว่าธุรกิจของเราอยู่จุดไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง (คุณกล้า)
- Corporate: ข้อมูลมีขนาดใหญ่และซับซ้อน ดังนั้น Customer Data Platform (CDP) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก (คุณบอล)
- MarTech จึงเปรียบเสมือนชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ