คินเนติค เผยสื่อโฆษณานอกบ้านมาแรง กลุ่มสื่อเคลื่อนที่-อินสโตร์ขยายตัวสูง ชี้วิถีชีวิตคนกรุงอยู่นอกบ้านวันละ 10 ชั่วโมงดันตลาดโต 10%
“ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาช่วง 5 เดือนแรกปี 2552 อยู่ในภาวะติดลบ 4% ขณะที่สื่อโฆษณานอกบ้านเติบโต 2% หรือมีมูลค่า 2,753 ล้านบาท โดยกลุ่มที่ยังมีอัตราการขยายตัวคือ สื่อเคลื่อนที่ (Transit) ที่ 30.8% และ อินสโตร์ มีเดีย 9.8% ส่วนป้ายโฆษณา (Outdoor) ยังอยู่ในภาวะติดลบ 7.7% เนื่องจากปัญหาจัดระเบียบป้ายและราคาแพงกว่าสื่อนอกบ้านประเภทอื่นๆ” – สุรเชษฐ์ บำรุงสุข ผู้จัดการ บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาด้านสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home :OOH)
การเติบโตของสื่อโฆษณานอกบ้าน มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านถึงวันละ 10.29 ชั่วโมง, ใช้เวลาเดินทาง 121 นาทีต่อวัน, ใช้เวลารอรถโดยสารประจำทาง 18 นาทีต่อวัน ส่งผลให้มีโอกาสรับสื่อนอกบ้านมากขึ้น
นอกจากนี้ยังพบผู้ประกอบการสื่อนอกบ้านมีการลงทุนขยายธุรกิจมากขึ้น ทั้งการติดตั้งจอแอลซีดี ในดิสเคาน์สโตร์, สถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีวงเวียนใหญ่, การเปิดให้บริการแอร์พอร์ตลิงค์สุวรรณภูมิในปลายปีนี้ และการให้บริการรถเมล์เอ็นจีวี ทำให้มีพื้นที่และการใช้สื่อเคลื่อนที่มากขึ้น
สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่าปี 2552 ป้ายโฆษณายังอยู่ในช่วงขาลง โดยน่าจะติดลบประมาณ 8-10% ส่วน สื่อเคลื่อนที่ คาดการณ์เติบโต 40% และ อินสโตร์ เติบโต 15% แต่จะส่งผลให้ภาพรวมสื่อโฆษณานอกบ้านเติบโตไม่มากนัก ประมาณ 10% หรือมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากในกลุ่มนี้ป้ายโฆษณายังครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ทำให้กลุ่มสื่อโฆษณานอกบ้านเติบโตได้ไม่มาก แต่ถือว่าดีกว่าภาพรวมตลาดสื่อที่น่าจะอยู่ในสภาพติดลบปีนี้
อย่างไรก็ตาม พบว่ามีสินค้าเกือบทุกประเภทให้ความสนใจใช้สื่อโฆษณานอกบ้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ใช้งบโฆษณาในสื่อ ณ จุดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดโปรโมชั่นและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อผู้บริโภค รวมทั้งกลุ่มการเงิน รถยนต์ ที่สนใจใช้สื่อโฆษณานอกบ้านเช่นกัน
สำหรับกลุ่มลูกค้าของคินเนติค ในกลุ่มท็อปไฟว์ ไม่ว่าจะเป็น Unilever, Nokia, Nestle, ธนาคารกสิกรไทย และ Colgate มีการใช้งบโฆษณาอย่างต่อเนื่องในกลุ่มสื่อโฆษณานอกบ้าน โดยบริษัทได้นำเสนอรูปแบบการสื่อสารที่เน้นแนวคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าใช้งบโฆษณาที่สามารถวัดผลการเข้าถึงผู้บริโภคและสร้างการจดจำได้จริง ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทยังมีอัตราการเติบโตและครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 25%
Source: กรุงเทพ
