ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัย เรื่องความสวยความงามกับผู้หญิง…ยังคงเป็นของคู่กันเสมอ จะแตกต่างก็เพียงกระบวนการและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา สะท้อนถึงการแข่งขันทางธุรกิจที่ไม่ใช่เพียงตอบโจทย์ลูกค้า แต่รวมถึงการสร้างความแตกต่าง โอกาสและการแข่งขันทางธุรกิจ
จากแนวทางการรักษาแบรนด์ที่มีชื่อเสียงยาวนาน วันนี้เราจึงได้เห็นพาเหรดการปรับโฉม เปลี่ยนลุคให้ดูทันสมัยกระฉับกระเฉง เพื่อกระตุ้นการรับรู้ไม่ให้ผู้บริโภคลืมเลือนแบรนด์ ซึ่ง Remington (เรมิงตัน) ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและทำตลาดในระดับโลกมายาวนานถึง 80 ปี และได้ลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ในแบรนด์ พร้อมกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคัก คุ้นเคยกับชื่อและผลิตภัณฑ์ Remington อีกครั้ง
งานนี้นำทีมโดยผู้บริหารระดับสูง คุณอารดา วิทยวิรานนท์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท โนเบิล คอสเพอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และคุณมาร์ค จารวิส ผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นเอเชีย สเปคตรัมป์ แบรนด์ สิงคโปร์ จัด Mini Event เชิญ Beauty Blogger อาทิ Cinnamongal , Beauty by Orangina , missPimpaka , UpdobyBuablink , Onnbaby , Sononui เป็นต้น และสื่อมวลชนมาร่วมงาน เพื่อพูดคุยกับผู้บริหารและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ รุ่น PROluxe และ PROtect ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบไดร์ เครื่องม้วน เครื่องหนีบ ณ Calm Spa เพื่อตอกย้ำถึง Global Campaign ให้เห็นภาพ 80 Years Young และแนวคิด #เกิดอีกกี่ครั้งก็ยังดูดี สู่การเป็นเบอร์ 1 ในประเทศไทย
“วันนี้ Remington เป็นที่รู้จักอย่างยาวนานกว่า 80 ปีทั่วโลก และในประเทศไทยอีกกว่า 10 ปี โดยเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งทรงผมที่มีคุณภาพสัญชาติอังกฤษ เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่าน 55 เคาน์เตอร์ในดีพาร์ทเมนท์สโตร์ชั้นนำ ด้วยภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Hi-end เป็นที่รู้จักและชื่นชอบในกลุ่มผู้มีบุคลิกภาพดี ใส่ใจตกแต่งทรงและดูแลรักษาเส้นผมเป็นประจำ ซึ่งเราพึงพอใจกับภาพลักษณ์และศักยภาพทางธุรกิจของแบรนด์อยู่แล้ว กิจกรรมครั้งนี้เป็นเหมือนการตอกย้ำคุณภาพของ Remington และเชิญชวนให้มีประสบการณ์การใช้งานจริง สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์สาวไทยที่รักสวยรักงามและชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของตนเองได้พร้อมกัน” คุณอารดา เริ่มต้นด้วยการเกริ่นถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของ Remington
ยึดคอนเซปต์ ผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรม
กรรมการผู้บริหาร โนเบิล คอสเพอร์ (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและผู้นำเข้าแบรนด์ Remington รายเดียวอย่างเป็นทางการในไทย ยังได้เล่าถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยว่า ลูกค้าหลักของเราเป็นกลุ่มเฉพาะเจาะจง ดังนั้น เราจึงเน้นการจำหน่ายด้วยรูปแบบการทำ Product Training เพื่อสร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม แต่ใช้งานแล้วยังช่วยดูแลสุขภาพ ถนอมเส้นผม และคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ให้ความร้อนเร็วและช่วยให้ผมอยู่ทรงนาน ภายใต้ดีไซน์ตัวเครื่องที่ออกแบบมาให้มีความทนทานและสวยงามดูพรีเมี่ยม
ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ช่องทางหลัก เจาะกลุ่ม Hi-end
ก่อนหน้านี้ Remington เคยทดลองจำหน่ายผ่าน Discount store แต่พบว่าไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ ในช่วงที่ผ่านมา เราจึงมุ่งไปที่การจำหน่ายผ่านดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ซึ่งตอบโจทย์และตรงกับกลุ่มลูกค้าหลักทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่รู้จักแบรนด์ Remington อยู่แล้วจากประเทศของตนเอง ส่วนห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่บริษัทเลือกเป็นช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมีพื้นที่อยู่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งลูกค้าในพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงหรือเป็นสถานที่ที่มีคนจากกรุงเทพฯ เลือกเป็นจังหวัดท่องเที่ยว พักผ่อน ทำให้มีการรับรู้ในแบรนด์และมีโอกาสซื้อสูง
ส่วนลูกค้าเป้าหมาย คือ นักศึกษาและวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีกำลังการซื้อ และต้องการดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดี
จับเทรนด์ Online Marketing สื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน Blogger ไม่เน้น Hard Sale
ออนไลน์ถือเป็นช่องทางใหม่ที่ทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น ซึ่งการทำตลาดของ Remington ในไทยไม่ค่อยได้ทำตลาดมากเท่าที่ควร ที่ผ่านมาเป็นเพียงการแนะนำข้อมูลผลิตภัณฑ์และแบรนด์เท่านั้น แม้จะได้การตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างน่าพอใจ แต่ในปีนี้เราจะเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ ,Line@ รวมถึงการนำเสนอมุมมองและประสบการณ์ใช้งานจากกลุ่ม Beauty Blogger ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้และส่งต่อแบรนด์ไปยังผู้บริโภคได้จริง ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสื่อถึงการขายสินค้าด้วยความจริงใจ บริษัทจึงวางแผนทำตลาดผ่าน Blogger และสร้าง Viral Marketing มากขึ้นในปีนี้
ขยายช่องทางขายออนไลน์
ปัจจุบัน เราเน้นการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย รวมถึงการออกบูธในงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ความร่วมมือกับพันธมิตรการค้าออนไลน์ ขายผ่านเว็บไซต์ชั้นนำรวมเกือบ 100 เว็บไซต์
“ที่ผ่านมาแม้ Remington จะทำตลาดน้อยมาก แต่จากการสำรวจอันดับอุปกรณ์ตกแต่งทรงผม กลับพบว่าแบรนด์ของเราอยู่ในใจผู้บริโภคและติดกลุ่มผู้นำ 1 ใน 5 แบรนด์แรกที่ผู้บริโภคนึกถึงโดยเฉพาะความเป็นแบรนด์ Hi-end ทำให้บริษัทรู้สึกพึงพอใจกับอันดับดังกล่าว รวมถึงยอดขายและความสุขของพนักงานขายซึ่งยินดีแนะนำผลิตภัณฑ์ของเราให้กับลูกค้าด้วยความเต็มใจ เพราะสามารถนำเสนอคุณภาพและประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานได้จริง”
คงคุณภาพ ผสานเทคโนโลยี
อย่างที่บอกไปแล้วว่าบริษัทไม่ได้เน้นความสำคัญเรื่องอันดับทางธุรกิจมากนัก แต่เราให้น้ำหนักอยู่ที่ความสม่ำเสมอและความแน่นอนของคุณภาพสินค้าเป็นหลัก เพื่อรักษาความพึงพอใจของผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และสะท้อนมาสู่ความสำเร็จในเชิงธุรกิจ ทำให้บริษัทตั้งเป้าที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพในระดับพรีเมี่ยม พร้อมการเติบโตจากสินค้าที่มาพร้อมนวัตกรรม โดยภายในปีนี้ ก็จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรม เชื่อว่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดไดร์เป่าผมภายใต้คุณภาพแบรนด์ Remington ได้อย่างแน่นอน
ประสบการณ์ สร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์
หากพูดถึงอุปกรณ์ตกแต่งทรงผม เรามั่นใจว่าคนที่มีบุคลิกภาพ รักและถนอมเส้นผม จะรู้จักและเข้าใจเทคโนโลยีที่ Remington ใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์ แม้จะเป็นไดร์เป่าผมซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ผมแห้ง แต่ Remington จะมอบคุณสมบัติที่ดีและมากกว่านั้นให้กับผู้ใช้งาน เช่น เทคโนโลยีลดประจุไฟฟ้าช่วยให้ผมไม่ชี้ฟู , ให้ความร้อนในเวลารวดเร็ว แต่ไม่ทำลายเส้นผม , มีเซ็นเซอร์ปรับระดับความร้อนให้เหมาะสมกับสภาพผม , ตกแต่งทรงผมแล้วอยู่ทรงได้นาน และตอบโจทย์สำคัญของผู้หญิง คือ ดูเป็นธรรมชาติ เมื่อลูกค้าได้ทดลองใช้งานก็จะสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติดูแลเส้นผมเหล่านี้และเข้าใจถึงความแตกต่างในนวัตกรรมของแบรนด์ที่มีมากกว่ารายอื่น
เป็น Expert เส้นผม หลากรุ่นหลายราคาตอบโจทย์
อีกความโดดเด่นของแบรนด์ Remington คือ สายผลิตภัณฑ์หลากหลาย เรามีอุปกรณ์ตกแต่งทรงผมให้ลูกค้าเลือกมากกว่า 30 SKU ภายใต้ระดับราคาหลากหลายตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท นอกจากคุณภาพผลิตภัณฑ์เราก็ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครอบคลุมด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์ที่เลือกได้ตรงตามความต้องการ ทำให้ที่ผ่านมา บริษัทสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องหนีบผมได้ดีที่สุดเนื่องจากนวัตกรรมและรุ่นที่หลากหลาย รองลงมา คือ ไดร์เป่าผม เนื่องจากคนไทยนิยมผมยาว ตรง สลวย
อย่างไรก็ตาม ตลอดการทำตลาดในประเทศไทยพบว่าสัดส่วนการส่งซ่อมสินค้ามีสาเหตุจากการใช้งานไม่ถูกวิธีมากกว่าการเสียหายตามอายุการใช้งาน ระยะเวลาใช้งานสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 ปี ซึ่งตรงกับช่วงการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดูแลรักษาเส้นผม นี่จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Remington มียอดขายอยู่ในเกณฑ์น่าพึงพอใจมาโดยตลอด
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website , Facebook , Instagram และ LINE .
