นอกจากการ “ค้นพบ” ตัวตน และมี “ความฝัน” จะเป็นปัจจัยสร้างพลังและขับเคลื่อนให้ “ชีวิตมีเป้าหมาย” แล้ว การมี “ต้นแบบ” ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญเช่นกัน เพราะหลายต่อหลายครั้งความสำเร็จก็เกิดขึ้นจาก “แรงบันดาลใจ” ไม่ว่าจะมาจากเรื่องราว ความหวัง ความใฝ่ฝันของตนเอง หรือแม้แต่ได้รับพลังที่ส่งต่อมาจากบุคคลอื่นก็ตาม
เช่นเดียวกับอุดมการณ์ของ “BMW” ซึ่งยึดถือเรื่องราวของ “แรงบันดาลใจ” และสะท้อนผ่านแคมเปญต่าง ๆ อยู่เสมอ รวมถึงแคมเปญล่าสุดอย่าง “EXPERIENCE THE 7” ยิ่งตอกย้ำว่า… การถ่ายทอดความสำเร็จจาก “บุคคลต้นแบบ” สามารถสร้างและส่งต่อพลังสู่บุคคลอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน เพราะการที่ “BMW Thailand” ได้ค้นหาบุคคลต้นแบบถึง 7 คน 7 มุมมอง เพื่อถ่ายทอดมุมมองและการใช้ชีวิตแก่คนทั่วไป จนนำไปสู่การสร้างสรรค์แนวทางและมุมมองใหม่ในการใช้ชีวิตแก่ผู้คน เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมต่อไป
เมื่อพูดถึงบุคคลต้นแบบของ EXPERIENCE THE 7 มีบุคคลหนึ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้สร้างความสมบูรณ์แบบ” นั่นก็คือ “คุณสุริยน ศรีอรทัยกุล” ซึ่งแม้จะอยู่ในบทบาทผู้บริหารและเจ้าของ Beauty Gems บริษัทอัญมณีระดับประเทศ แต่เรื่องราวและแนวคิดของที่ถ่ายทอดถึงความเป็น “The Masterpiece” เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจแก่ทุกคนนั้น กลับเป็นเรื่องราวใกล้ตัวกว่าที่ทุกคนคิด! และยังนำไปปรับใช้ได้จริงกับทุกเรื่องอีกด้วย
“ความสุข” เริ่มต้นจาก “ความหวัง”
แนวคิดการใช้ชีวิตเพื่อสร้าง The Masterpiece ตามแบบฉบับของคุณสุริยนถูกสะท้อนจากจุดเริ่มต้นง่าย ๆ คือ ต้องการสร้างความสุข ซึ่งเป็น “ความหวัง” ที่อยากให้ทุกคนได้รับความสุข จากงานดีไซน์อันประณีตและสวยงามบนอัญมณีของแบรนด์ Beauty Gems ที่ถูกออกแบบและผลิตเป็นชิ้นงานจากความมุ่งมั่นที่ต้องการทำให้ผู้คนที่เป็นเจ้าของได้มีความสุข ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ได้การยอมรับทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ สร้างรายได้และชื่อเสียงแก่ประเทศไทยไปทั่วโลก
แม้ Beauty Gems จะประสบความสำเร็จ แต่แนวคิดของ คุณสุริยน ไม่เคยหยุดนิ่ง! มีแต่จะสร้างสรรค์และปรับเปลี่ยนให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน ก็พยายามสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาสังคมอยู่เสมอ จนเรียกได้ว่าเป็น The Masterpiece ต้นแบบสำหรับการใช้ชีวิตของผู้คน
ไม่มอง “ความสำเร็จ” เป็นเป้าหมาย! เพราะชีวิตต้องมี “แรงบันดาลใจ”
ต้องยอมรับว่ามุมมองในการทำธุรกิจของคุณสุริยน ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะนอกจากพลังบวกในความคิดแล้ว ก็ยังมีความ “เชื่อมั่น” และ “แรงบันดาลใจ” ที่น่าสนใจในการดำเนินชีวิตแต่ละวันอีกด้วย โดยเริ่มตั้งแต่การมองเห็นความโชคดีและแรงบันดาลใจที่ส่งต่อมาจากครอบครัว ความพยายามในการสร้างสรรค์ผลงานระดับ Masterpiece ซึ่งถ่ายทอดผ่าน “Made in Thailand” สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ทั้งยังนำผลลัพธ์จากเรื่องดังกล่าวมาเป็นแบตเตอรี่เติมพลังกาย พลังใจ ในการทำงานให้กับตนเองและส่งมอบต่อไปยังแบรนด์
เรื่องราวเช่นนี้ อาจมีที่มาจากแนวคิดของคุณสุริยน ที่มองว่า “หากไร้ความหวัง ชีวิตก็ไร้ค่า” แม้จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับอัญมณีที่มีมูลค่าสูง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ความโชคดีแต่ยังเป็นความเสี่ยง ความกดดัน สำหรับผู้สร้างสรรค์ความสมบูรณ์แบบอย่างคุณสุริยน ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะไม่มองว่า…ความสำเร็จคือเป้าหมายของชีวิต แต่มองว่า “ประโยชน์ของส่วนรวม” คือเรื่องหลักที่ควรทำ! เพราะสิ่งนี้สามารถสร้างความสุขของผู้คนรอบ ๆ ตัว ให้กลับมาถึงเราได้ ไม่ใช่แค่การคำนึงถึงเรื่องของตนเองเท่านั้น แต่ต้องมองให้เห็นถึงความสุขและความสบายของผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน พนักงาน หรือแม้แต่ลูกค้าที่คาดหวังความเพอร์เฟคจากผลงานอัญมณี ดังนั้น แรงบันดาลใจของเขาในการใช้ชีวิตส่วนหนึ่งจึงมาจากความต้องการที่จะมอบความสุขไปยังทุกคนด้วย
ชีวิตต้องมี “Masterpiece” ทุกวัน
คนส่วนใหญ่อาจมองว่า The Masterpiece คือ สุดยอดผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง แต่สำหรับผู้สร้างแบรนด์ Beauty Gems คนนี้ เขามองว่า “The Masterpiece ควรจะเกิดขึ้นในทุกวัน”
เพราะผลงานที่เป็นสุดยอดผลงานนั้น ควรเกิดจากการสะสม ลองผิดลองถูก และรังสรรค์จนกลายเป็นสุดยอดผลงานในชีวิตของเรา สามารถสร้างความภาคภูมิใจ กำลังใจ หรือแม้แต่เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับตนเองและบุคคลอื่น ทำให้ทุกคนได้รู้สึกถึงการมอบสิ่งดี ๆ ต่อกัน และมอบให้กับสังคม ทำให้ตนเองภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้สร้างประโยชน์กลับไปแก่สังคม โดยไม่จำเป็นจะต้องคิดเหมือนเดิม แบบเดิม แต่ควรเกิดจากการคิดนอกกรอบ สามารถมองเห็นโอกาสในท่ามกลางวิกฤตให้ได้ ผสมผสานกับแรงบันดาลใจและการส่งต่อความสุขไปยังผู้อื่นเพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกัน
“ความสมบูรณ์แบบ” คือ คุณค่าชีวิต!
สิ่งที่น่าชื่นชมคุณสุริยน จากแนวคิดการใช้ชีวิตแบบ The Masterpiece คือ การไม่กดดันตัวเองด้วยความสำเร็จ แต่ใช้ “ผลงาน” มากดดันตัวเอง เพื่อสร้างความมุ่งมั่นและตั้งใจในการลงมือทำผลงานเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบ และกลายเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม
ภายใต้โอกาสที่ตนเองได้รับ เราได้เรียนรู้จากคุณสุริยน ว่า…ทุกคนมีลมหายใจเช่นเดียวกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ไม่มีใครดีกว่าใคร ดังนั้น คุณค่าของชีวิตจึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถสร้างและเปลี่ยนตนเองได้ แม้จะเจอวิกฤตก็ให้ต้องสติ สร้างความหวัง ปลุกกำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจให้ตนเองโดยไม่ท้อแท้ ซึ่งควรเริ่มจากการยอมรับว่า “ชีวิตไม่มีอะไรได้ดั่งใจเรา 100%”
