น้ำเป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำให้ตลาดเครื่องดื่มเป็นตลาดที่ดุเดือดมากที่สุด โดยเฉพาะ “ตลาดน้ำผลไม้” เพราะในแต่ละปีผู้คนทั่วโลกบริโภคน้ำผลไม้กว่า 60 ล้านลิตร ทำให้ปัจจุบัน มูลค่าตลาดน้ำผลไม้ทั่วโลกสูงถึง 5.25 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก (ปี 2523) เป็นรองก็แค่ “น้ำเปล่า” และ “น้ำอัดลม” เท่านั้น
“ตลาดน้ำผลไม้” ถดถอยเพราะเทรนด์รักสุขภาพ
แม้ว่าผู้คนยังมองเห็นว่าน้ำผลไม้เป็นน้ำที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ขณะเดียวกัน เมื่อเทรนด์รักสุขภาพเติบโตเพิ่มสูงขึ้น กลับมีผลกระทบกับตลาดน้ำผลไม้เช่นกัน เพราะผู้คนเริ่มเปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่ว่า น้ำผลไม้มีน้ำตาลในปริมาณที่สูงและอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยมีข้อมูลที่ระบุว่า การดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำผลไม้คั้นสดใหม่ ไม่ใส่น้ำตาล แต่ก็ทำให้ได้รับน้ำตาลจากผลไม้โดยตรง และได้รับพลังงานสูงที่ไม่ต่างจากการดื่มน้ำอัดลมหรือชานมไข่มุกเลย จุดนี้เองที่ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกังวลว่า แม้จะได้รับวิตามินจากน้ำผลไม้สดก็ตาม แต่อาจจะไม่คุ้มกับการที่รับน้ำตาลในปริมาณที่มากกว่า 24 กรัม (เทียบเท่ากับ 8 ช้อนชา) ต่อแก้วเลย ซึ่งส่งผลให้ ตลาดน้ำผลไม้มีอัตราหดตัวต่อเนื่องในช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมา
เมื่อกระแสของการดื่มน้ำผลไม้หดตัว กระแสของการรักสุขภาพในแบบ “หวานน้อย” ก็เติบโตมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าในกลุ่ม No Sugar, Sugarless หรือ Low Sugar ฯลฯ เริ่มเฟื่องฟูอย่างมาก ผ่านเครื่องดื่มในรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม, เครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drinks), ฟังก์ชันนอลดริ้งค์ (Functional drinks) ฯลฯ ก็ไปได้สวย จนกินส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30% แถมยังมีอัตราการเติบโตที่สวนทางกับเครื่องดื่มสูตรปกติที่ยังคงมีน้ำตาลอยู่เต็มแก้ว ซึ่งถดถอยลงอย่างชัดเจนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ความท้าทายของการพัฒนาน้ำผลไม้ให้ “น้ำตาลน้อย” อย่างแท้จริง
ยืนยันด้วยบทวิเคราะห์ของ “World Market for Soft Drink ปี 2023” โดย Euromonitor ซึ่งระบุว่า no/low Sugar จะเป็นหนึ่งใน 5 ปัจจัยสำคัญ ที่ขับเคลื่อนธุรกิจเครื่องดื่มทั่วโลก ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงเห็นการปรับตัวขนานใหญ่ของบรรดาบริษัทผู้ผลิตน้ำผลไม้ยักษ์ใหญ่ของโลก ที่พยายามสร้างโปรดักส์ no/low Sugar เพื่อพลิกฟื้นอัตราการเติบโตและดึงดูดผู้บริโภคใหม่ๆ
แต่ทว่า เนื่องจากน้ำตาลในน้ำผลไม้ เป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ ที่มาจากผลไม้อยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่สามารถลดหรือเอาน้ำตาลออกได้ง่ายๆ เหมือนการเปลี่ยนจากการใช้น้ำตาล ไปเป็นสารทดแทนความหวานที่ไม่มีแคลอรี่แบบน้ำอัดลม Zero Sugar ได้ ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาจึงทำได้เพียงแค่การออกผลิตภัณฑ์สูตร Light ซึ่งก็มีผลต่อการทำให้รสชาติอาจจะไม่ค่อยอร่อยเท่ากับรสชาติปกติ ทำให้สูตร Light ในน้ำผลไม้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
แต่ในทางกลับกัน ถ้าทำได้สำเร็จจะมีโอกาสในตลาดนี้ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว !!
รู้จัก INCREDIBLE Juice
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีความพยายามที่จะคิดค้นหาวิธีที่จะลดน้ำตาลลงในน้ำผลไม้ธรรมชาติให้ได้ เพื่อสุขภาพที่ดีที่แท้จริงแก่ผู้บริโภค และเป็นที่มาของการคิดค้นและพัฒนาแบรนด์น้ำดื่มที่ชื่อว่า INCREDIBLE Juice
INCREDIBLE Juice เริ่มต้นไอเดียจากงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยที่มีทีมวิจัยของสตาร์ทอัพไทย IncreBio (เดิมชื่อ JuiceInnov8) พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรมาพัฒนาต่อยอดจากไอเดียดังกล่าว ให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ มีความพร้อมที่ไปสู่ระดับอุตสาหกรรมและบุกเบิกตลาด no/low Sugar เป็นรายแรกของโลก โดยใช้เวลาดังกล่าวในการพัฒนา 8 ปีด้วยกัน
สิ่งที่ทำให้ INCREDIBLE Juice ลดน้ำตาลได้อย่างแท้จริง ก็เพราะมีการใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติมาช่วยกินน้ำตาลในน้ำผลไม้ ซึ่งวิธีนี้ทำให้สามารถลดน้ำตาลในน้ำผลไม้ได้โดยไม่ต้องเจือจางด้วยน้ำอีกต่อไป
ทั้งนี้ ในหนึ่งขวดของ INCREDIBLE Juice จะมีน้ำตาลเพียง 2.8% (ปริมาณนี้น้อยกว่าน้ำตาลในนมจืด) และให้พลังงานเพียง 33 กิโลแคลอรี่ ซึ่งต่ำกว่าน้ำผลไม้ทั่วไปถึง 70% ที่พิเศษคือรสชาติของ INCREDIBLE Juice ที่ผู้ทดสอบกว่า 95% เห็นตรงกันว่า “INCREDIBLE Juice มีรสชาติดีกว่า หรือ อร่อยไม่ต่างจากน้ำผลไม้ปกติ” จากการทดลองในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 439 ราย
นอกจากนี้ INCREDIBLE Juice ยังติดหนึ่งใน World’s Changing Ideas ของ Fast Company ซึ่งเป็นสื่อชั้นนําของอเมริกา ที่มอบให้แก่ สตาร์ทอัพยูนิคอร์นสาย Food Tech ชื่อดังของโลก ซึ่งแบรนด์ฟู้ดที่เคยได้รับมาแล้ว อาทิ Impossible Foods, Beyond Meat, Just Egg เป็นต้น
ปักหมุดบุกตลาดสิงคโปร์ พร้อมความภูมิใจได้รับ Nutri-grade B
จากความสำเร็จในการพัฒนาโปรดักส์น้ำผลไม้น้ำตาลน้อยได้อย่างแท้จริง จึงมีการตั้งเป้าปักธงที่จะไปบุกยังตลาดต่างประเทศ พร้อมด้วยเป้าหมายสำคัญ นั่นคือการนำนวัตกรรมที่พัฒนาโดยคนไทยเข้าไปแข่งขันยังเวทีโลก โดยตั้งเป้าที่จะทำตลาดที่สิงคโปร์ก่อน
ส่วนสาเหตุที่เลือกสิงคโปร์ก่อนแต่ไม่ใช่ประเทศไทย เนื่องจากว่า นโยบายของรัฐบาลสิงค์โปร์ ที่ผลักดันการเป็นผู้นําในด้านนวัตกรรมด้านอาหารของโลก ดึงดูดให้ Food Tech Startup ทั่วโลกเลือกสิงค์โปร์เป็นประเทศแรกในการเข้าสู่ตลาดก่อนจะขยับขยายออกไปในตลาดประเทศอื่นๆ ตัวอย่างเช่น การที่สิงค์โปร์เป็นประเทศแรกที่รับรองและอนุมัติให้เนื้อไก่สังเคราะห์จากเซลล์ (Cell Based Chicken) สามารถออกสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ได้ ไปจนถึงการผลักดันให้เกิดอาหารและเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ที่ดีต่อสุขภาพมากมาย
รวมไปถึงการที่สิงคโปร์เริ่มนโยบายประกาศสงครามกับเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง มีการตัดเกรดเครื่องดื่มเป็น A, B, C, และ D จากปริมาณน้ำตาล โดยเรียกว่า Nutri-Grade ซึ่งกฎหมายได้บังคับให้ผู้ผลิตติดเกรดเหล่านี้บนฉลากเครื่องดื่มทุกชนิด หากเครื่องดื่มใดมีน้ำตาลมากกว่า 10% ก็จะถูกตัดเกรดเป็น ‘D’ และห้ามโฆษณาทันที ดังนั้น จึงนับว่าสิงคโปร์จริงจังกับเครื่องที่มีน้ำตาลสูง ไม่ต่างจากการแบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบ้านเรา
“การบังคับใช้ Nutri-Grade ทําให้ความจริงที่ไม่น่ารักของน้ำตาลในน้ำผลไม้ชัดเจนขึ้น น้ำแอปเปิ้ล สับปะรด องุ่น ต่างก็โดนตัดเกรดเป็น ‘D’ ตัวโตบนพื้นหลังสีแดง เพราะมีน้ำตาลเกิน 10% ทั้งสิ้น มีเพียงน้ำส้มที่ยังรอดจากการโดนแบน แต่ก็ยังจัดอยู่ในเกรด ‘C’ หรือโซนสีเหลืองอยู่ เพราะมีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติสูงถึง 9-10% อยู่ดีนั่นเอง” ชนม์ชญงค์ ไตรรัตน์เกยูร CEO และผู้ก่อตั้ง INCREDIBLE Juice ระบุ
ด้าน สิริกาญจน์อัศวสุดสาคร CCO INCREDIBLE Juice กล่าวเสริมว่า INCREDIBLE Juice จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มสุขภาพที่เป็นกลุ่มประชากรกลุ่มใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ได้ พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลและแคลอรี่ต่ำที่สุดในตลาด ที่สำคัญ ด้วยปริมาณน้ำตาลที่น้อยมากจนน้อยกว่าน้ำตาลในนมจืด ทำให้ INCREDIBLE Juice เป็นน้ำผลไม้เพียงแบรนด์เดียวที่ผ่านเกรดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือ Nutri-grade B ของรัฐบาลสิงคโปร์
ก้าวต่อไปของการพัฒนา INCREDIBLE Juice
นอกจากนี้ อีกหนึ่งก้าวต่อไปของแบรนด์คือ ปลายปี 2023 รัฐบาลสิงคโปร์จะขยายการบังคับใช้ Nutri-Grade กับเครื่องดื่มทุกชนิดในร้านอาหารและคาเฟ่ด้วย ฉะนั้น การออกสินค้า INCREDIBLE Juice ในช่วงเดียวกัน จึงตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นจำนวนมากที่มีปัญหาในการหาเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมาใส่ในเมนู ดังนั้น ทางทีมการตลาดของ INCREDIBLE Juice จึงนำสิ่งนี้มาต่อยอดพัฒนาต่อ ด้วยการมองหาร้านอาหารที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย เพื่อร่วมกันครีเอทเมนูใหม่ๆ จากน้ำผลไม้ของ INCREDIBLE Juice ซึ่งจะทำให้ได้เมนูที่แคลอรี่ต่ำ และปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 3% ด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนไปบุกสิงคโปร์ ทางทีม INCREDIBLE Juice เองก็เคยทดลองทำ Pop-up Store มาก่อน โดยจับมือกับร้านกาแฟในกรุงเทพฯ เพื่อครีเอทเมนูเครื่องดื่มจากน้ำผลไม้ Near Zero Sugar เมื่อธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สร้างยอดขายไปได้ 8,000 แก้วเลยทีเดียว
ทั้งนี้ เราก็หวังว่าความสำเร็จของ INCREDIBLE Juice จะเป็นผลดี พร้อมกับตัดสินใจนำแบรนด์เข้ามาทำตลาดบ้านเราอย่างจริงจังบ้างเช่นกัน เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีโอกาสดื่มน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยรสชาติอร่อยอย่างแท้จริง
เกี่ยวกับ IncreBio
IncreBio (หรือชื่อเดิม JuiceInnov8) เป็น Deep Tech Startup ด้านอาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ (FoodBiotech) ชั้นนําของเอเชียที่ได้รับเงินลงทุนจาก 500 Global, TOP Ventures, depa, Intania Open Innovation Club กลุ่มอดีตผู้บริหารของบริษัทชั้นนําอย่าง Coca-Cola, PepsiCo และ Dole รวมไปถึงกลุ่ม Super Angels ชั้นนําของไทย IncreBio วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในการใช้เชื้อจุลินทรีย์สายพันธุ์ธรรมชาติและกระบวนการด้านชีวภาพเพื่อการผลิตน้ำผลไม้ปราศจากน้ำตาลที่เรียกว่า INCREDIBLE Juice เป็นรายแรกของโลกจนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติด้วย ทั้ง “World’s Changing Ideas” จาก Fast Company “Global Top 500 Deeptech Startups” จาก Hello Tomorrow และ FoodTech 500 จาก Forward Fooding ปัจจุบันบริษัทกําลังใกล้ปิดการระดมทุนรอบ Series-A เพื่อขยายกําลังการผลิตและทําการตลาดในประเทศสิงคโปร์รวมถึงการขยายไปยังประเทศอื่นๆ โดยตั้งเป้าจะปิดรอบการระดมทุนภายในสิ้นปี 2023
