ถอดรหัสความสำเร็จ 8 ปีของ “King Power Thai Power พลังคนไทย”: โมเดล CSR ที่สร้างผลลัพธ์จริงใน 3 มิติของสังคมไทย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

8 ปีที่ผ่านมา โครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ค่อย ๆ เติบโตจากโครงการ CSR สู่สิ่งที่คล้ายกับโครงสร้างพื้นฐานด้านโอกาสให้กับคนไทยในหลายมิติ การเดินทางที่ยาวนานนี้เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งโครงการที่เชื่อมั่นว่า หากคนไทยมีเครื่องมือ มีพื้นที่ และมีคนสนับสนุนในเวลาที่เหมาะสม ศักยภาพที่ซ่อนอยู่จะผลิบานขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด แนวคิดนี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่วันแรกและขยายผลอย่างต่อเนื่องภายใต้คอนเซ็ปต์ The Power of Possibilities ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

สิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการนี้ไม่ได้พยายามหยิบยื่นความสำเร็จให้คนไทยโดยตรง แต่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้ผู้คนสร้างความสำเร็จของตัวเอง ผ่าน 3 เส้นทางใหญ่ ได้แก่ “กีฬา ดนตรี และชุมชน” ซึ่งดูเหมือนต่างกัน แต่จริงๆ แล้วมีจุดร่วมที่เหมือนกันคือ การเปิดช่องว่างให้โอกาสได้เข้าไปทำงาน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้อยู่ในรูปแบบของกิจกรรมเพียงครั้งคราว หากแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้จริงในระดับพื้นที่ โรงเรียน หมู่บ้าน และชีวิตของผู้คนทั่วประเทศ

 

มิติด้านกีฬา (Sport Power) เมื่อสนามและลูกฟุตบอลกลายเป็นโครงสร้างที่ผลักเด็กไทยสู่เส้นทางอาชีพ

 

ด้านกีฬาคือหนึ่งในมิติที่เห็นภาพชัดที่สุด ลูกฟุตบอลที่กระจายไปทั่วประเทศภายใต้โครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” อุปกรณ์พื้นฐานที่เป็นเหมือนประกายไฟดวงแรกให้เด็กหลายแสนคนเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ภายในเวลา 8 ปีมีลูกฟุตบอลกว่าเก้าแสนใบถูกส่งต่อไปยังโรงเรียน 26,584 แห่ง ชุมชน 390 แห่ง และอีกหลายหน่วยงานทั่วประเทศ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงการเข้าถึงที่กว้างมากพอจะสร้างแรงกระเพื่อมในระดับท้องถิ่น และหลายพื้นที่ก็มีเด็กที่ก้าวออกจากสนามดิน ไปสู่การฝึกซ้อมในระดับจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม

และเมื่อเด็กเริ่มมีความฝัน สนามฟุตบอลมาตรฐานก็เข้ามาเติมเต็มเส้นทางนี้ให้สมบูรณ์ โครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” คือการสร้างพื้นที่ฝึกฝนอย่างจริงจังในหลายจังหวัดทั่วประเทศ สนามเหล่านี้ถูกออกแบบด้วยมาตรฐานสากลและจะครบหนึ่งร้อยสนามในปี 2569 เมื่อรวมกับลูกฟุตบอลหลายแสนใบ เราเริ่มเห็นภาพว่า Sport Power ได้วางรากฐานที่ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ของเส้นทางนักกีฬาอาชีพ เด็กจำนวนไม่น้อยได้เข้าสู่อะคาเดมีของจังหวัด ลงแข่งในลีกอาชีพ และบางรายกลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจจริงในวงการ

 

 

มิติด้านดนตรี (Music Power) เวทีที่เปิดพื้นที่ให้คนดนตรีได้ถูกค้นพบ และพาไปสู่เส้นทางที่กว้างกว่าเดิม

 

อีกหนึ่งพลังสำคัญที่ค่อยๆ เด่นชัดขึ้นคือด้านดนตรี ซึ่งถูกผลักดันผ่านเวที “THE POWER BAND” ที่คิง เพาเวอร์ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 8 ค่ายเพลงชั้นนำ เวทีประกวดวงดนตรีนี้เป็นตัวเชื่อมสำคัญระหว่างคนดนตรีรุ่นใหม่กับโครงสร้างอุตสาหกรรมเพลงของประเทศ การจัดแข่งต่อเนื่อง 5 ซีซัน มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,148 วง นำไปสู่การค้นพบศิลปินหน้าใหม่จำนวนมากที่ต่อยอดเส้นทางได้จริง วงอย่าง Kryptonyte หรือ PINGPING PANPAN เป็นตัวอย่างชัดเจนของความสามารถที่ถูกพาไปสู่พื้นที่ใหญ่กว่าเดิม ขณะที่อีกหลายคนได้ก้าวสู่บทบาทอื่นในอุตสาหกรรม เช่น นักดนตรีแบ็กอัป นักแต่งเพลง หรือผู้ทำงานเบื้องหลังในสตูดิโอ

 

 

เวทีนี้จึงกลายเป็น Ecosystem เล็กๆ ที่สร้างเส้นทางเข้าวงการแบบเป็นรูปธรรม เปิดพื้นที่ให้คนดนตรีทั้งระดับมัธยมและบุคคลทั่วไปได้พิสูจน์ตัวเองต่อหน้าคณะกรรมการระดับประเทศ และในหลายกรณี โอกาสยังต่อยอดไปถึงเวทีคอนเสิร์ตระดับประเทศ การทำซิงเกิล และการได้รับสปอตไลต์ที่วงหน้าใหม่แทบไม่มีช่องทางเข้าไปถึงได้ง่ายๆ

 

มิติด้านชุมชน (Community Power) จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่คุณค่าระดับสากล การเดินทางของชุมชนไทยที่เติบโตผ่านโอกาสใหม่

 

มิติสุดท้ายที่ทำให้ “พลังคนไทย” มีความชัดเจนในเชิงสังคมมากที่สุด คือการพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นเสาหลักที่ค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นตลอด 8 ปีที่ผ่านมา หากกีฬาและดนตรีคือการผลักดันความสามารถของคนรุ่นใหม่ ด้านชุมชนคือการต่อยอดทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่อยู่กับสังคมไทยมานาน เพื่อให้สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ ความมั่นคง และคุณค่าที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวันของผู้คนในท้องถิ่น

สิ่งที่เกิดขึ้นเด่นชัดที่สุดคือการนำงานฝีมือของชุมชนไทยไปสู่ระดับสากล ผ่านความร่วมมือระหว่างคิง เพาเวอร์ สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และบริษัท Multiply By Eight ที่ร่วมกันออกแบบสินค้าและของที่ระลึกโดยใช้การทอและย้อมผ้าแบบดั้งเดิมจากหลายพื้นที่ในไทย งานผ้าจากบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร หมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไทยทรงดำบ้านดอนมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี หรือกลุ่มช่างฝีมือจากบ้านเชียงราย จังหวัดน่าน ล้วนถูกต่อยอดเป็นคอลเลกชันพิเศษของเลสเตอร์ ซิตี้ รวมแล้ว 8 คอลเลกชันเต็มรูปแบบ ก่อนถูกจำหน่ายทั้งในไทยและที่ Foxes Fan Store ในเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

การได้เห็นฝีมือของชุมชนเล็กๆ ไปปรากฏบนชั้นวางในสโมสรฟุตบอลระดับโลก เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าการเพิ่มยอดขาย เพราะทำให้คนในชุมชนรู้สึกว่าภูมิปัญญาที่สืบต่อกันมาหลายชั่วรุ่นได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เกิดแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่อยากกลับมาสืบทอดงานฝีมือ และทำให้งานผ้าที่เคยขายกันเฉพาะในตลาดท้องถิ่นมีเส้นทางเติบโตใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

 

อีกมิติสำคัญคือการสร้างพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นเริ่มขยับจากงานฝีมือไปสู่การเป็นธุรกิจจริง ผ่านโครงการ “ตลาดพลังคนไทย (Thai Power Market)” ซึ่งเปิดให้ผู้ประกอบการจากทั่วประเทศเข้ามาเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานการพัฒนาสินค้า การปรับบรรจุภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์ การจัดการต้นทุนและคุณภาพ ไปจนถึงการใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขาย หลังผ่านการอบรม หลายแบรนด์ได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่ช่องทางจำหน่ายของคิง เพาเวอร์ ทั้งในดิวตี้ฟรี เว็บไซต์ Kingpower.com และ Thaipowermarket.com พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนด้านการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียของคิง เพาเวอร์โดยตรง

 

 

ปัจจุบันผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้มีแล้วมากกว่า 200 แบรนด์ ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้ผู้ผลิตโดยตรง ยังทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ย้อนกลับเข้าสู่ครอบครัวและชุมชนของพวกเขา สร้างความมั่นคงทางอาชีพ และขยายโอกาสในการเติบโตผ่านตลาดใหม่ที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน

ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การให้โอกาสมีพลังมากเพียงใด ผลลัพธ์ที่กระจายตัวอยู่ในสนามฟุตบอลหลายจังหวัด บนเวทีดนตรีของเยาวชนหลายรุ่น และในหมู่บ้านทอผ้าอีกหลายพื้นที่ คือสิ่งที่ตอบโจทย์ยุคสมัยที่ความรับผิดชอบต่อสังคมต้องเดินคู่กับความยั่งยืน และทั้งหมดนี้คือแนวทางที่คิง เพาเวอร์ประกาศชัดว่าจะสานต่อให้แผ่กว้างขึ้นไปอีก เพื่อให้ “พลังแห่งความเป็นไปได้” กลายเป็นของที่จับต้องได้สำหรับคนไทยในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE