จับสัญญาณโรงภาพยนตร์ฟื้นตัวก้าวกระโดด หลังหนังฟอร์มยักษ์ทำรายได้สะพัด ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์’ ผนึกกำลังร่วมจัดกิจกรรมกับพันธมิตรแบรนด์ดัง

 

แม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงนี้จะเจอศึกหนักหลายด้าน ทั้งปัญหาค่าครองชีพแพงหรือสงครามยืดเยื้อของสองประเทศที่ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ กระนั้นก็มีสัญญาณดีบางเรื่องของไทยที่การท่องเที่ยวอาจจะเป็นตัวที่สามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ไปต่อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ศบค.ประกาศปรับพื้นที่ทั้งประเทศเป็นพื้นที่สีเขียวแล้ว และเร็วๆ นี้ก็เตรียมที่จะให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าการประกาศของรัฐบาล เราก็เห็นบรรยากาศต่างๆ รอบตัวที่ค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมาสร้างความคึกคักในส่วนของอีเวนท์ต่างๆ เช่น ดนตรีในสวน คอนเสิร์ตเอาท์ดอร์ที่สยาม หรืองานนิทรรศกาลทางศิลปะต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนค่อยๆ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันบ้างแล้ว

 

เม็ดเงินโฆษณาหันทุ่มเงินธุรกิจโรงหนัง +67.98%

หันไปที่ธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ช่วงของวิกฤตโควิด ได้รับผลกระทบที่หนักมาก เคยถูกปิดมานานกว่า 5 เดือนในช่วงปี 2564 มาแล้ว แต่วันนี้เราเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวที่ดีมากจากโรงหนัง ภาพยนตร์หลายเรื่องที่เข้าฉายเมืองไทยทำรายได้การเปิดตัวได้สวยมากทีเดียว อย่าง Dr.Strange in the Multiverse of Madness ทำรายได้ในไทยไปกว่า 400 ล้านบาท หรือ Top Gun Maverick ทำรายได้ในไทยขณะนี้ไปมากกว่า 100 ล้านบาทไปแล้ว หรือแม้แต่ภาพยนตร์ภาคต่อที่หลายคนรอคอย อย่าง Jurassic World : Dominion ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำรายได้แบบถล่มทลายกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อีกหลายเรื่องที่รอต่อคิวเข้าโรงฉาย ไม่ว่าจะเป็น Thor: Love and Thunder (เข้าฉาย  6 กรกฎาคม) Black Panther : Wakanda Forever (เข้าฉาย 9 พฤศจิกายน) และ “Avatar The Way Of Water” (เข้าฉาย 14 ธันวาคม)

ทั้งนี้ จากความสำเร็จของหนังต่างๆ รวมถึงจะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มากมายทยอยเตรียมเข้าโรงฉาย สอดคล้องกับข้อมูล ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี 2565 ที่มีการเปิดเผยถึงเม็ดเงินลงโฆษณาไปกับโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น โดยมีเม็ดเงินลงโฆษณาไปสูงถึง 2,807 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตสูงถึง 67.98% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือว่าเป็นสื่อที่มีอัตราการฟื้นตัวและการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาสูงที่สุด ซึ่งสิ่งนี้เองสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์สินค้าต่างๆ เริ่มกลับมาทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับโรงภาพยนตร์มากขึ้น เพราะมีความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะกลับมาดูหนังในโรงภาพยนตร์อย่างแน่นอน

 

 

สัญญาณบวก แคมเปญการตลาดคึกคักมุ่งสู่โรงหนัง

ในมุมของผู้บริโภคเองผู้คนก็โหยหาอยากจะเข้าไปสัมผัสและดื่มด่ำกับบรรยากาศของการดูภาพยนตร์ผ่านจอใหญ่ของโรงหนัง ที่ให้อรรถรสในการรับชมหนังที่ดีที่สุดและไม่มีอะไรมาเทียบได้ ยิ่งทำให้หนังหลายเรื่องได้รับการตอบรับจากผู้ชมที่ดีมาก และเชื่อว่าแนวโน้มเช่นนี้จะดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

รวมถึงในช่วงครึ่งปีหลังนี้ก็จะมีหนังใหม่ที่มีความหลากหลายน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์ Jurassic World : Dominion ภาพยนตร์ภาคต่อที่หลายคนรอคอย เรียกได้ว่าน่าจะเป็นหนังแม่เหล็กสำคัญดึงดูดผู้ชมจากทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัยเข้ามาดู โดยเฉพาะกับกลุ่มครอบครัวที่เป็นเวลานานแล้วไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันในการไปชมหนังดีๆ ดังนั้น หนังตำนานไดโนเสาร์เรื่องนี้น่าจะเป็นหนังแม่เหล็กอีกหนึ่งเรื่องที่จะดึงกลุ่มครอบครัวกลับมาดูหนังเข้าโรงกันอีกครั้ง

และจากสัญญาณต่างๆ นี้เอง ที่บรรดากลุ่มธุรกิจก็มองเห็นเช่นกัน ทำให้เริ่มมีการทำแคมเปญการตลาดเยอะมากขึ้น อย่างความร่วมมือระหว่าง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จับมือกับ เป๊ปซี่ ร่วมกันทำแคมเปญ Pepsi Movie Mania ในการจัดโปรโมชั่นพิเศษซื้อเซ็ตเป๊ปซี่ และป๊อปคอร์น รับฟรีทันทีบัตรชมภาพยนตร์

 

 

นอกจากนี้ ยังมีกระตุ้นกระแสต่อเนื่องด้วยอีเวนท์ใหญ่ ในรูปแบบ On ground กับงาน “Major Cineplex X Pepsi Present The Jurassic Planet” ที่ทั้ง เมเจอร์ และเป๊ปซี่ สองพันธมิตรใหญ่แห่งวงการ ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษ ครั้งแรกในประเทศไทย ที่ให้ลูกค้าได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวและบรรยากาศสัตว์โลกล้านปีแบบเสมือนจริง หลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ตัวใหญ่ที่สุด, ไทรเซราทอปส์ ไดโนเสารที่กระโหลกมี 3 เขา, นาซูโตเซอราทอปส์, แบรคิโอซอรัส และไดโนเสาร์อีกหลากหลายสายพันธุ์ ที่เคลื่อนไหวได้สมบูรณ์แบบสมจริง ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จัดแสดงพร้อมแสง สี เสียงเต็มรูปแบบ ที่บุกมาให้ทุกคนได้สัมผัสถึงโรงภาพยนตร์ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ อีก อาทิ การขุดค้นหาซากฟอสซิลจำลอง และกิจกรรมตอบคำถามร่วมสนุกลุ้นรับของที่ระลึกมากมายที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ที่ผ่านมา

 

 

หรือถ้าอยากไปสัมผัสบรรยากาศดึกดำบรรพ์อลังการแบบริมน้ำก็เลือกไปที่ ไอคอนสยาม ก็ได้ตื่นตะลึงไปอีกแบบเช่นกัน กับงาน “THE ICONIC JURASSIC ADVENTURE” ที่พาร่วมรับประสบการณ์ย้อนอดีตไปในยุคไดโนเสาร์ ขนทัพสัตว์โลกล้านปีมามากมายกว่า 20 สายพันธุ์ นำทัพโดย “แบรคิโอซอรัส” ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 18 เมตร และยังมีไฮไลท์ตัวอื่นๆ อีกมาก อาทิ ไจกาโนโทซอรัส, ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์, อัลโลซอรัส, คาร์โนทอรัส, และ นาซูโตเซอราทอปส์ เป็นต้น พร้อมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดตระการตา แล้วยังมีกับกิจกรรมต่างๆ ให้ตื่นตาตื่นใจอีกเพียบ โดยมีการจัดแสดงไปตั้งแต่วันนี้ถึง 11 กรกฎาคมนี้ ซึ่งการจัดแสดงไดโนเสารยังมีอีกหลายที่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เอ็มควอเทียร์, เมกาบางนา ,แฟชั่นไอส์แลนด์ ,สยามพารากอน และเซ็นทรัล จันทบุรี เป็นต้น

 

 

ความคึกคักของการสร้างบรรยากาศของการกลับมาของโรงหนังยังไม่จบ เมเจอร์ฯ เดินหน้าจับมือพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับ ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำน้ำดื่ม จัดแคมเปญสุดพิเศษ “The Secret of Aura : Jurassic World Dominion Collection” ด้วยการออกแบบน้ำแร่ออรารุ่นลิมิเต็ดคอลเลคชั่น ซึ่งได้นำคาแรกเตอร์จากภาพยนตร์ จูราสิคเวิร์ล Jurassic World : Dominion มาไว้บนขวดน้ำดื่มออรา รุ่นทรงกลม ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ มีทั้งหมด 5 ลายด้วยกัน พร้อมมอบดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เมื่อซื้อครบ 5 ลาย 5 แพ็ก รับฟรีตั๋วชมภาพยนตร์

 

เมเจอร์ฯ โหมอัดเทคโนโลยีเพิ่มความบันเทิงใส่โรงหนัง สร้างสุดยอดประสบการณ์สุดพรีเมียม

และเมื่อธุรกิจโรงภาพยนตร์เริ่มส่งสัญญาณดี พร้อมกับการเข้ามาของหนังฟอร์มใหญ่ที่รอลงโรงฉายอีกมากมาย ทำให้เริ่มเห็นการขยับตัวของผู้ประกอบการ อย่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” ผู้นำธุรกิจโรงหนัง ซึ่งแน่นอนว่าเล็งเห็นสัญญาณการเติบโตนี้อย่างแน่นอน จึงเตรียมรุกหนักในหลายมิติ

 

 

หนึ่งในนั้นคือการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ดึงดูดคนเข้าโรงมากขึ้น ด้วยการประกาศความร่วมมือกับ ไอแมกซ์ คอร์ปอเรชั่น (IMAX) ติดตั้งระบบการฉายภาพยนตร์แบบใหม่ “IMAX Laser” ระบบการฉายภาพยนตร์ที่ผสมผสานการฉายภาพด้วยเลเซอร์ระดับ 4K ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของทางโรงภาพยนตร์IMAX เพื่อส่งมอบประสบการณ์รับชมภาพยนตร์ระดับพรีเมี่ยมแบบ Most Advanced Theatre Experience สำหรับผู้ชมในประเทศไทย ภายในปี 2565 ได้แก่สาขา Icon Cineconic, Paragon Cineplex และโรงภาพยนตร์ IMAX สาขาใหม่ ที่ Mega Cineplex

ความน่าสนใจของ “IMAX Laser” คือเป็นระบบการฉายภาพยนตร์ที่ก้าวล้ำสมัยที่สุด โดยตัวเครื่องจะเป็นระบบการฉายภาพยนตร์ที่ผสมผสานการฉายภาพด้วยเลเซอร์ระดับ 4K ด้วยระบบออปติคัลใหม่ เลนส์ที่ออกแบบเอง และชุดเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ซึ่งให้ภาพที่สว่างกว่าด้วยความละเอียดที่เพิ่มขึ้น โทนสีของภาพที่มีคอนทราสต์ที่ลึกกว่า และช่วงสีที่กว้างที่สุดซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นภาพขนาดใหญ่และได้ยินเสียงที่ชัดเจนเหมือนกันทุกที่นั่ง

 

 

ยังไม่พอ เมเจอร์ฯ ยังจับมือกับ CJ 4DPLEX เปิดโรงภาพยนตร์ ScreenX แห่งที่สองของเมืองไทย ในเดือนกรกฎาคมนี้ ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งโรงภาพยนตร์ ScreenX แห่งใหม่นี้เป็นรูปแบบ Premium Large Format ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นโรงภาพยนตร์แบบแรกของโลกที่ใช้ระบบการฉาย 3 ทิศทาง ด้วยเครื่องฉายหลายตัว (Multi-Projection System) เพื่อให้มุมมองภาพ 270 องศา หน้าจอกว้างถึง 20 เมตร ด้วยการฉายภาพที่หน้าจอด้านหน้า และฉายลงบนจอเต็มกำแพงด้านข้างซ้ายและขวา

 

ลุยจำหน่าย “ป๊อปคอร์น” ผ่าน 7Eleven และซูเปอร์มาร์เก็ต

และถ้าพูดถึง เมเจอร์ฯ จะไม่พูดถึง ‘ป๊อปคอร์น’ คงไม่ได้ เพราะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงมาก และยังเป็นจุดขายที่สร้างรายได้มากถึง 30% และจากความป๊อปปูล่าของโปรดักส์นี้เอง ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องจากลูกค้ามากมายอยากให้ออกมานำขายนอกโรงบ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่โรงหนังต้องงดฉายช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ช่วงสองปีที่ผ่านมาทาง เมเจอร์ฯ ตัดสินใจขายป๊อปคอร์นผ่าน แพลตฟอร์มฟู๊ดเดลิเวอรี, แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee รวมไปถึงการตั้งบูธขนาดเล็กขายหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตของทุกๆ ห้าง นอกจากนี้ ยังมีการแตกไลน์สินค้าป๊อปคอร์นเกรดพรีเมียมในรสชาติต่างๆ ด้วย

 

 

แต่ถ้านั่นยังทำให้การหาซื้อป๊อปคอร์นไม่ทันใจผู้บริโภคเพียงพอ ข่าวดีของแฟนๆ ก็คือ เมเจอร์ฯ เตรียมที่จะนำเข้าไปขายใน 7Eleven ในช่วงไตรมาส 3 นี้แล้ว กระจายให้ครอบคลุมใกล้มือผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งรวมไปถึงเตรียมที่จะจัดจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดและคอนวีเนียนสโตร์อื่นๆ อีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาของธุรกิจโรงหนังที่จะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอนในปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกอย่างกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และส่งสัญญาณบวกในหลายมิติ ซึ่งเชื่อว่าผู้นำตลาดอย่าง เมเจอร์ฯ ก็น่าจะเตรียมอะไรอื่นๆ ไว้อีกมากมายที่จะรอเซอร์ไพรส์และทำให้ธุรกิจโรงหนังกลับมาบูมได้อีกครั้ง.