การเติบโตอย่างยั่งยืนกลายเป็นเรื่องที่ธุรกิจให้ความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากในปัจจุบันหลายธุรกิจต่างพยายามสร้างการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในรูปแบบใดก็ตามเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งผลสุดท้ายผู้บริโภคจะเป็นผู้ตัดสิน บางครั้งกลยุทธ์การแข่งขันเหล่านั้นก็เป็นการทำลายตลาดอย่างไม่ตั้งใจ หรือเป็นการลดทอนศักยภาพของคู่ค้า
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR หนึ่งในบริษัทที่แสวงหาการเติบโตอย่างยั่งยืน เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ที่ต้องการสร้างการเติบโตแบบ 360 องศา โดยให้ความสำคัญ 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นสังคมและผู้คนต่าง ๆ (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) และผลประกอบการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกัน (Performance) เพื่อให้การเติบโตอย่างยั่งยืมครอบคลุมทั้ง 3 ด้านอย่างทั่วถึง ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” หรือ “Empowering All toward Inclusive Growth”
3 ปัจจัยกระทบธุรกิจ
นอกจากในเรื่องของเศรษฐกิจแล้ว OR ยังเล็งเห็นถึง 3 ปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบทุกธุรกิจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยปัจจัยแรกเป็นเรื่องของสภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เห็นได้จากความแปรปรวนของสภาพอากาศและภัยพิบัติต่าง ๆ ขณะที่ปัจจัยต่อมาคือการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด
ซึ่งการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีนั้น ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้ หลายคน ต้องการความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เห็นได้จากการซื้อสินค้าออนไลน์และการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ และปัจจัยสุดท้ายสืบเนื่องมาจากวิกฤตการณ์โรคระบาดที่ขยายไปทั่วโลก ส่งผลการเว้นระยะห่างทางสังคมมีมากยิ่งขึ้น
โอกาสการเข้าถึงในระบบต่างๆ คนส่วนใหญ่มีความลำบากมากยิ่งขึ้นทั้งในระดับประเทศและในระดับโลก โดยทั้ง 3 ปัจจัยล้วนแต่เป็นอุปสรรคในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ นั่นจึงทำให้ OR หันกลับมามองถึงแนวทางการเติบโตของธุรกิจ นั่นจึงทำให้เกิด การเติบโตวิธีใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของ OR
เปลี่ยน Inside–Out เป็น Outside–In
หนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ OR ปรับมาใช้คือการเปลี่ยนแนวคิดกันทำธุรกิจจากการนำสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองมีผลักดันออกไปเพื่อให้บริการสู่ผู้บริโภค (Inside-Out) เป็นการนำข้อมูลต่าง ๆ มาเป็นการนำข้อมูลความต้องการต่าง ๆ ของลูกค้าเพื่อใช้เป็นตัวตัดสินใจในการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด (Outside-In) โดยความต้องการของผู้บริโภคถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเข้าใจการปรับเปลี่ยนดังกล่าวทั้งหมด 4 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จากนั้นต้องเข้าใจความต้องการคู่ค้าพันธมิตร เพื่อเติมเต็มให้ธุรกิจของพันธมิตรและ OR ให้เติบโตร่วมไปด้วยกัน โดยมีเป้าหมายไปที่ลูกค้าของทั้งพันธมิตรและ OR
จากนั้น OR ต้องทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ OR มีและพร้อมให้การสนับสนุนพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น Physical Platform และ Digital Platform หรือความเชี่ยวชาญและความพร้อมของทีมงาน และต้อง เข้าใจวิธีการช่วยเหลือคู่ค้าพันธมิตร ซึ่ง OR เปิดโอกาสด้วยกับทุกประเภทธุรกิจทุกขนาดธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจากต่างประเทศหรือในประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมจุดแข็งของแต่ละธุรกิจ โดย OR จะแสวงหาโอกาสและสร้างโอกาสให้กับพันธมิตร
ธุรกิจต้องมองการเติบโตอย่างรอบด้าน
แม้ว่าที่ผ่านมา OR จะดำเนินธุรกิจภายใต้ความร่วมมือกันของหลายภาคส่วน แต่ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่จะช่วยให้ OR สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย OR จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้วิสัยทัศน์ไม่สามารถจับต้องได้ OR จึงได้กำหนดเป้าหมาย OR 2030 Goals
โดยเรื่องแรกจะเน้น การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน (Living Community) เพื่อให้เกิดสังคมที่ดีขึ้น ทั้งของ OR และพันธมิตรทางธุรกิจไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศมากกว่า 15,000 ชุมชนหรือกว่า 12 ล้านชีวิต
นอกจากนี้ยังเน้นไปในเรื่องของ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ (Healthy Environment) อย่างที่ทราบกันว่าทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่งธุรกิจเองที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมจะก่อให้เกิด Intensive ทางการค้า ซึ่งอาจได้กำหนด ลดการปล่อยก๊าซ เลื่อนกระจก ลดปริมาณขยะจากการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด ให้ได้มากกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 33% เมื่อเทียบกับปี 2018 รวมถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ในปี 2050
และเป้าหมาย การเติบโตแบบกระจายความมั่งคั่ง (Economic Prosperity) โดยมีเป้าหมายในการช่วยให้คู่ค้าพันธมิตร ผู้ถือหุ้น ผู้ประกอบการขนาดย่อม พนักงานของ OR และชุมชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียมีรายได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่า 1 ล้านราย
พันธกิจใหม่ 4 ด้านของ OR
นอกจากวิสัยทัศน์ใหม่แล้ว OR ยังได้เตรียมพันธกิจใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้านด้วยกัน ประกอบไปด้วย Seamless Mobility โดย OR พร้อมเปลี่ยนผ่านพลังงานใหม่สู่ผู้ใช้รถทุกชนิด โดย OR ตั้งเป้าหมายในการเป็น Leading EV Brand ในปี 2030 โดยตั้งเป้าหมายในการติดตั้งสถานีชาร์จ EV Station PluZ มากกว่า 7,000 แห่ง และการเตรียมความพร้อมของ FIT Auto 100% ในการให้บริการสำหรับรถยนต์ EV นอกจากนี้ยังขยายการใช้งาน Solar Roof ทั้งในตัวของ OR และพันธมิตรมากกว่า 5,400 จุด
All Lifestyles โดย OR พร้อมจะเปลี่ยนความชำนาญจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยจะหันมาทำให้ผลิตภัณฑ์ของ OR และพันธมิตรเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนตลอด 24 ชั่วโมงผ่านรูปแบบ Partnership Model โดยมากกว่า 50% จะเป็นผลิตภัณฑ์ของพันธมิตรโดยตั้งเป้าผู้มาเข้ามาใช้บริการของทั้งพันธมิตรและ OR ผ่านทาง Physical Platform และDigital Platform มากกว่า 14 ล้านรายต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ของ OR และพันธมิตรเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค
ด้าน Global Market ปัจจุบัน OR มีการขยายการลงทุนไปในต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ OR ปรับแผนการลงทุนในต่างประเทศใหม่เป็นแบบ Asset-Light Growth โดยจะให้พันธมิตรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ของ OR และพันธมิตรไปต่างประเทศมากกว่า 100 ประเทศเพื่อให้เกิดการรู้จักและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้จะมีการร่วมทุนกับพันธมิตรในแต่ละประเทศ โดยตั้งเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 20 ประเทศ โดยตั้งเป้าพาแบรนด์ไทยไปสู่ตลาดโลกอย่างน้อย 10 แบรนด์
และด้าน OR Innovation ซึ่งจะแตกต่างจากนวัตกรรมทั่วไป นวัตกรรมของ OR จะเน้นแก้ไขปัญหาด้านสังคม ชุมชนและปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นหลักเพื่อไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุง กระบวนการทำธุรกิจใหม่หรือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่โดยให้ความสำคัญ 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นสังคมและผู้คนต่าง ๆ (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) และผลประกอบการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกัน (Performance) ซึ่งจะช่วยให้ OR เป็นองค์กรต้นแบบของธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นการทำธุรกิจเพื่อให้โอกาสสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อม
สิ่งหนึ่งที่คู่ค้าพันธมิตรไม่มั่นใจในการร่วมกับธุรกิจขนาดใหญ่ นั่นคือข้อตกลงต่าง ๆ ที่อาจจะผูกมัดธุรกิจ ซึ่ง OR ย้ำชัดเจนว่าจะไม่มีการผูกมัดใด ๆ โดยจะปล่อยให้ธุรกิจสามารถทำธุรกิจได้อย่างอิสระเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้คือการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ใหม่สำหรับ OR
จุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือความร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกันซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยดึงให้พันธมิตรต่าง ๆ พร้อมเข้าร่วมกับ OR ภายใต้ OR ecosystem ซึ่ง OR จะสามารถพัฒนาธุรกิจองค์กรให้ขยายเติบโตกว้างมากขึ้น โดยนำจุดแข็งของพันธมิตรผสานกับจุดแข็งของ OR และเมื่อผสานกับการดูแลสิ่งแวดล้อมยิ่งช่วยทำให้ OR สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน