ข้ามกรอบ Digital Disruption สู่ Digital Health Care เพื่อคนไทย ความท้าทายครั้งสำคัญของ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย

  • 690
  •  
  •  
  •  
  •  

 

วิกฤตจากโรคระบาดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ทุกคนล้วนเผชิญสถานการณ์เดียวกัน ไม่ว่าภาคประชาชนหรือธุรกิจ แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากเผชิญและกินเวลายาวนานเช่นนี้ ยังทำให้เราได้เห็นว่าผู้ที่มีโอกาสมากกว่าก็ไม่ได้ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซ้ำยังเห็นภาคธุรกิจหลายฝ่าย หลายอุตสาหกรรม ที่พยายามบรรเทาความเดือดร้อนของผู้คนในสังคมอย่างเต็มกำลัง

ในขณะที่ทุกภาคส่วนกำลังต่อสู้กับวิกฤตการณ์อย่างสุดกำลัง พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้สร้างสรรค์หลากหลายกิจกรรมเพื่อแสดงให้เห็นถึงการที่แบรนด์ใส่ใจและยืนหยัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอยู่ข้างคนไทยตลอดปี

 

ไม่ทำ CSR แค่บรรเทาทุกข์คนไทย แต่คิดไอเดียใหญ่ระดับภูมิภาค

 

 

หากจะยก พรูเด็นเชียล เพื่อเป็นกรณีศึกษา ก็ต้องบอกว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะนอกจาก 26 ปี ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเพื่อลูกค้ากว่า 1.6 ล้านราย กิจกรรมและแคมเปญต่าง ๆ ของบริษัท ก็ถูกคิดเผื่อเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแคมเปญ We DO Well Together ซึ่งถือว่าโดดเด่นที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เพราะถือเป็น CSR เพื่อสังคมที่สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านสาธารณสุขและตรงกับความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง

ต้องยอมรับอย่างจริงใจว่า สถานการณ์โรคระบาดของประเทศไทยในช่วงก่อนหน้านี้ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ ซึ่งต้องการผู้สนับสนุนทั้งแรง ความรู้ และทุน ทำให้พรูเด็นเชียล ตัดสินใจรันแคมเปญ We DO Well Together อย่างเร่งด่วน โดยเลือกสนับสนุนกระบวนการสาธารณสุข เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการรักษาสุขภาพและชีวิตคนไทย โดยแคมเปญดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นคอนเซปต์ใหญ่ระดับภูมิภาค ซึ่งถูกนำไปใช้ในหลาย ๆ ประเทศที่พรูเด็นเชียลดำเนินธุรกิจ ทั้งเอเชียและแอฟริกา ซึ่งในประเทศไทยได้ดำเนินการผ่าน 3 โครงการ ได้แก่

– สร้างห้องความดันลบให้ 4 โรงพยาบาล ได้แก่ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก, วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงฆ์

– บริจาคเครื่องช่วยหายใจ Airvo2 ให้กับ 4 โรงพยาบาล รวม 8 เครื่อง ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ, โรงพยาบาลสมุทรสาคร, โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน

– บริจาคเครื่องให้สารละลายในหลอดเลือดดำ จำนวน 15 เครื่อง แก่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

 

 

ยึดคอนเซปต์ไอเดียที่ดี ต้องต่อยอดได้ไม่รู้จบ 

ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง แต่พรูเด็นเชียลเลือกจะส่งต่อความสำเร็จด้วยการมองไกลกว่า CSR ทั่วไป ด้วยการต่อยอดแคมเปญ We DO Well Together ให้กลายเป็นความรู้ทางสาธารณสุข เพื่อทำให้คนไทยมีเกราะป้องกันตนเองจาก COVID-19 โดยถูกผลักดันผ่าน 2 โครงการ คือ

We do share

โครงการที่เน้นสร้างภูมิคุ้มกันในสังคมต่อประเด็น Fake News โดยเฉพาะช่วงอ่อนไหวอย่างสถานการณ์โรคระบาดซึ่งผู้คนอาจแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ จึงมีการสร้างคอนเทนต์อย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่ถูกต้อง ซึ่งสนับสนุนโดยโรงพยาบาลพญาไทซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ โดยนำความสนุกสนานเข้ามาเป็นสื่อกลาง ทำให้น่าสนใจและเข้าถึงทุกเพศทุกวัย ผ่านอินโฟกราฟิก การ์ตูน วิดีโอ หรือแม้แต่การทำ Meme ที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ความนิยม พรูเด็นเชียลก็ทำออกมาจนเกิดเอนเกจเมนต์และมีการแชร์อย่างแพร่หลาย ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจทั้งสุขภาพกาย ใจ รวมถึงการเลือกแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง

We do Health

ต่อยอดจากแอปพลิเคชันดูแลสุขภาพครบวงจรอย่าง Pulse by Prudential ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยใช้ความโดดเด่นของระบบ AI ที่รวมองค์ความรู้จากแพทย์กว่า 300 คน ทำให้ผู้ใช้สามารถประเมินสุขภาพของตนเองได้จากการตอบคำถามทางการแพทย์ ด้วยหลักการวิเคราะห์แบบแยกเป็นอวัยวะแต่ละประเภท ทั้งยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Symptom Checker ทำให้สามารถสอบถามอาการและตอบคำถามด้วย Chatbot เพื่อแก้ Pain Point ด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นโดยไม่เลือกเวลา ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อและรับคำแนะนำที่ใกล้เคียงกับการพบแพทย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังเป็นข้อมูลที่แม่นยำกว่าการค้นหาด้วยตนเองผ่านออนไลน์อีกด้วย

 

 

 

Digital Disruption ที่มีเป้าหมาย Digital Health Care

การทำแอปพลิเคชัน Pulse by Prudential ถือเป็นการปรับตัวของพรูเด็นเชียลเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสู่ Digital Disruption ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นทางหนึ่ง แต่ด้วยรูปแบบของแอปดังกล่าว ทำให้เห็นว่าพรูเด็นเชียลทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับประโยชน์ทางสังคม สะท้อนถึงเป้าหมายขององค์กรในการขยับตัวเองให้ก้าวสู่ Digital Healthcareมากกว่าการหยุดบทบาทไว้ในฐานะผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมประกันชีวิต ที่ผู้คนให้ความไว้วางใจ โดยการทำให้ digital healthcare เป็นจริงขึ้นมาได้นั้นเป็นส่วนสำคัญในความพยายามของพรูเด็นเชียล เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในราคาที่จับต้องได้และเป็นธรรม

 

 

นอกจากประโยชน์ที่ผู้ใช้ Pulse by Prudential จะสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ ได้เรียลไทม์แล้ว พรูเด็นเชียล ยังย้ำเป้าหมายการเป็น Digital Healthcare ด้วยการใส่ฟีเจอร์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพเข้าไปด้วย เช่น บริการ Teleconsultation (โทรเวชกรรม) วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การเตือนให้เคลื่อนไหวหรือดื่มน้ำ รวมถึง การเอาใจใส่สุขภาพจิตใจ เช่น บทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญ, แบบทดสอบการสังเกตสภาพจิตใจของตัวเองในด้านต่าง ๆ หรือแม้แต่การเรียนรู้ Insight คนไทยอย่างลึกซึ้ง จนนำมาสู่การออกแบบฟีเจอร์พิเศษสำหรับเวอร์ชันในไทย เช่น ดูดวงจากลายมือ, วัดอายุจากริ้วรอยบนใบหน้า เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าพรูเด็นเชียล ยึดมั่นในเป้าหมายสูงสุดของแบรนด์ คือ To help people to get the most out of life หรือ ช่วยให้ผู้คนไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตมาตลอด โดยเฉพาะความมุ่งหวังที่ต้องการเห็น Live healthier & wealthier เกิดขึ้นกับคนไทย จึงกลายเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทุกคนแม้จะไม่ได้เป็นลูกค้าพรูเด็นเชียลก็สามารถใช้บริการ Pulse by Prudential ได้ฟรี

ความสำเร็จของเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ยอดดาวน์โหลดที่พุ่งถึง 31 ล้านครั้ง ใน 11 ประเทศที่เปิดใช้งานทั้งในเอเชีย เช่น กัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม และไทย รวมถึงในแอฟริกา เช่น แคเมอรูน กาน่า เคนย่า ไนจีเรีย ยูกันดา และแซมเบีย ขณะที่ ความสำเร็จในประเทศไทยก็ถูกสะท้อนด้วยยอดดาวน์โหลดกว่า 2.7 ล้านครั้ง จำนวนผู้เข้าใช้งานหลักแสน เฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขค่อนข้างสูงในกลุ่มแอปเพื่อสุขภาพ ยิ่งสนับสนุนว่าทำไม Pulse by Prudential จึงได้รับรางวัล Mobile Application of the Year จากเวทีระดับนานาชาติอย่าง Insurance Asia Awards 2021 มาครอง

 

 

แต่ยังไม่รวมถึงแอปพลิเคชัน PRUconnect ที่พรูเด็นเชียลพัฒนาให้เป็นช่องทางอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า สำหรับการติดต่อกับบริษัทแบบ Contactless นอกจากสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ก็ยังเป็นการลดความเสี่ยงแก่ลูกค้า เพราะสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ชำระเบี้ยประกัน หรือแม้แต่การกู้เงินจากกรรมธรรม์ของตนเองในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ก็สามารถทำได้ เพราะพรูเด็นเชียลคิดมาแล้วว่า นอกจากความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่มี ลูกค้าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

 

 

 

เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ต้องการแค่แบรนด์เก่ง แต่ต้องการแบรนด์ดี!

จากการดำเนินงานของ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ในช่วงปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าสามารถเปลี่ยนภาพจำดังกล่าวได้อย่างน่าชื่นชม เพราะหากศึกษา Insight ผู้บริโภคในปัจจุบันจะพบว่า ผู้คนชื่นชอบแบรนด์ที่มีความจริงใจ มองถึงประโยชน์ส่วนรวมและแสดงออกอย่างชัดเจน และแน่นอนว่า หากแบรนด์สามารถมอบความสะดวกและตอบโจทย์ชีวิตพวกเขาได้มากกว่าธุรกิจที่ทำอยู่ ก็จะยิ่งสร้างความประทับใจ ซึ่งแบรนด์จะสามารถต่อยอดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะสร้าง Brand Love หรือกลายเป็น Brand Loyalty นอกจากพวกเขาจะอยากสนับสนุนแบรนด์และเลือกเป็นลูกค้าแล้ว ยังอาจพัฒนาไปเป็นแฟนพันธุ์แท้ หรือบอกต่อเรื่องราว ๆ ให้คนรอบข้างร่วมสนับสนุนแบรนด์อีกด้วย

ซึ่งสิ่งที่ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ทำมาทั้งหมดนี้จะสามารถสร้างความรู้สึกเชิงบวกในมุมมองผู้บริโภคได้แล้ว ยังสามารถสร้างการรับรู้อย่างแพร่หลายจากการที่แบรนด์ได้ช่วยเหลือคนไทย ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด รวมถึงสนับสนุนให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการเอาตัวรอดจาก COVID-19 ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่สุขภาพของผู้คน ไม่ใช่ภาพผู้ให้บริการประกันภัยที่น่าเชื่อถือเพียงมุมเดียว


  • 690
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE