Roborock แบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้น กลุ่ม Hi-end กับเทคโนโลยีพรีเมียมที่ไม่เหมือนใคร

  • 22.1K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

เมื่อเราพูดถึงกลุ่มผู้บริโภคไฮเอนด์ (Hi-end) สำหรับเมื่อก่อนอาจจะหมายถึงกลุ่มที่เลือกใช้จ่ายไปกับสินค้าที่มีราคาแพง เป็นสินค้าหรูทั้งด้านคุณภาพและราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งจับต้องได้เพียงแค่บางกลุ่มเท่านั้น แต่ในยุคที่โลกพัฒนาไปไกล เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้กลายเป็นหนึ่งในดัชนีที่ช่วยชี้วัดเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนเกือบจะทุกด้าน ดังนั้น นิยามของกลุ่มไฮเอนด์ในปัจจุบันจึงเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นกลุ่มที่ปรับโฟกัสให้ความสำคัญกับคุณค่าของการใช้งานและแบรนด์นั้นๆ มากขึ้น ในราคาสินค้าที่สมเหตุสมผล (Affordable Luxury)

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหนที่ตอบโจทย์สิ่งที่กลุ่มไฮเอนด์ โดยเฉพาะเรื่อง #คุณค่า (Value added) และประสบการณ์ที่แตกต่าง (CX) ปัจจัยหลัก 2 ข้อนี้จะทำให้กลุ่มไฮเอนด์ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยมีปัจจัยเรื่องราคาตามมาทีหลัง

อย่างเช่น #หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสินค้าที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากขึ้น โดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์ที่พัฒนาและผลิตสินค้าประเภทนี้ขึ้นมา

แต่แบรนด์ที่น่าสนใจอย่าง Roborock ของบริษัท เป่ยจิง โรโบร็อค เทคโนโลยี ในประเทศจีน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพรีเมียมที่ได้ใจกลุ่มไฮเอนด์มานาน ตั้งแต่กลุ่มไฮเอนด์ในจีนจนปัจจุบันซื้อใจลูกค้าไฮเอนด์ไปทั่วโลก ซึ่งสินค้าของ Roborock ได้รับความสนใจในแวดวงกลุ่มไฮเอนด์คนจีนตั้งแต่ที่เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 2014

ที่น่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับ Roborock คือ มีนักการตลาดหลายคนที่ประเมินว่า Roborock ได้กลายเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดีที่สุดของโลก โดยมีทีมวิจัยและพัฒนาระดับโลกทั้งในด้าน Hardware และ Software เอง และมีเส้นทางการเติบโตของแบรนด์ที่เร็วมาก โดยสิ่งที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดก็คือ เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น โดยเฉพาะซีรีส์ S และ E ที่ถูกจัด ranking เป็นอันดับท็อปๆ และอยู่ในลิสต์ Best Choice แนะนำผลิตภัณฑ์ในหลายประเทศทั่วโลก

โดยนักการตลาดวิเคราะห์ว่า เทคโนโลยีพรีเมียมที่ผลิตขึ้นมาสำหรับกลุ่มไฮเอนด์จาก Roborock ส่วนหนึ่งก็มาจากความเชี่ยวชาญของทีมเทคโนโลยีที่เข้าใจความต้องการของผู้ใช้จริง ทั้งยังมีประสบการณ์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกมาก่อน เช่น Microsoft, Huawei, Baidu และ Foxconn

สิ่งที่ทำให้ Roborock กลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มไฮเอนด์ ที่ต้องการใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นให้ชีวิตดีขึ้น เพราะเทคโนโลยีส่วนใหญ่ที่พัฒนาขึ้นมาค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานเกือบทั้งหมด เรียกได้ว่าเรามาถึงจุดที่ไม่ต้องคิดเรื่องทำความสะอาดบ้านกันแล้วแม้แต่ขั้นตอนเดียว

เช่น เทคโนโลยีที่ช่วยดูดฝุ่นและถูพื้นไปในตัว ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Roborock รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่ค่อนข้างตอบโจทย์ pain point ของกลุ่มไฮเอนด์ หรือแม้กระทั่งการใส่ใจในจุดเล็กๆ น้อยๆ ในโปรดักส์ เช่น #เสียง โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของ Roborock จะใช้เทคโนโลยี quietest mode ไม่ให้รบกวนคนในบ้านเวลาทำงาน

 

 

จนมาถึง Roborock S7 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเวอร์ชั่นล่าสุด ที่สร้างความฮือฮามาแล้วในงาน CES 2021 ตั้งแต่ที่โชว์เคสเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กับเทคโนโลยีแรกในวงการเครื่องดูดฝุ่น กับฟังก์ชั่นสั่นสะเทือน (Sonic Mopping) ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะเจ้าเครื่องนี้สามารถถูพื้นได้ถึง 3,000 ครั้งต่อนาที

 

 

และด้วยฟังก์ชั่นใหม่ที่อัพเกรดค่อนข้างเยอะ ทำให้ Roborock S7 ถูกจับตาในกลุ่มผู้ใช้ไฮเอนด์ ส่วนหนึ่งเพราะว่าฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับพวกเขาได้ และเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ชีวิตสบายขึ้นมากกว่าเดิม เช่น เทคโนโลยีที่เพิ่มแรงกด (600 กรัม) เวลาที่ขัดถูพื้นให้สะอาดมากขึ้น ดังนั้น พวกคราบกาแฟ รอยเท้า ฯลฯ ที่ลบออกยากๆ เราไม่ต้องมาขัดพื้นซ้ำอีก

 

 

โดยว่ากันว่า ประสิทธิภาพการทำงานของ Roborock S7 หากเทียบกับรุ่นอื่นก่อนหน้านี้ จะสามารถทำความสะอาดได้ดีขึ้นถึง 4 เท่าตัว

ยังมีเทคโนโลยีอื่นที่ได้รับความสนใจ เช่น เทคโนโลยีเซนเซอร์อัลตราโซนิก (Ultrasonic Sensor) ที่เพิ่มความแม่นยำซึ่งจะทําให้การตรวจจับพื้นพรมรวดเร็วไม่ดีเลย์ แถมยังมีเทคโนโลยี Auto-Lifting Mop ที่เจ้าRoborock S7 จะสามารถยกฟังก์ชั่นถูพื้นขึ้นลงได้ถ้าตรวจจับแล้วเจอพรมขวางทางอยู่ โดยแผ่นรองผ้าถูจะยกขึ้นจากพื้นได้ 5 มิลลิเมตร (ในโหมดการทำงานแบบ Rise)

 

 

หรือจะตั้งค่าเป็นฟังก์ชั่นการหลีกเลี่ยงพื้นพรมไม่ให้หุ่นยนต์ไปถูพื้นตรงที่เราไม่ต้องการก็ได้ในโหมดAvoid ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นฟังก์ชั่นใหม่ทั้งหมดจาก Roborock

อันที่จริงก็มีเทคโนโลยีเด่นๆ ใน Roborock S7 เพิ่มเข้ามาค่อนข้างเยอะ ทั้งเทคโนโลยี HyperForce ที่ช่วยในเรื่องดูดฝุ่นต่างๆ ที่แรงขึ้น, เทคโนโลยี PreciSense™ ที่เป็นเรดาร์ขับเคลื่อนเองแบบเดียวกับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ, เทคโนโลยี AI Recharging ที่ช่วยคำนวนการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับหุ่นยนต์ และยังสามารถกลับเข้าแท่นชาร์จได้เองอัตโนมัติ

 

 

ในส่วนของดีไซน์ Roborock S7 ได้อัพเกรดฟังก์ชั่นบางอย่างขึ้นด้วย เช่น แปรงปัดหลักเป็นยางแบบใหม่ (All-New All-Rubber Brush) ซึ่งจะทำให้ไม่สะดุดเวลาที่พันกับเส้นผม หรือจะเป็นฟังก์ชั่น Child Lock ป้องกันเด็กๆ หรือสัตว์เลี้ยง

และยังสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ Auto Empty Dock ที่กำลังจะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ด้วย

ซึ่งในรายละเอียดแบบเต็มๆ ของ Roborock S7 สามารถเข้าไปดูได้เพิ่มเติมที่ เพจ Roborock Thailand  หรือwww.facebook.com/RoborockTHA

แต่พูดได้เลยว่า เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาและเพิ่มเข้ามาใน Roborock S7 ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ Roborock ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักๆ ยังคงเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าในฟังก์ชั่นใช้งานจริงๆ และเข้าใจในประสบการณ์ที่จะได้รับกลับมา

ที่สำคัญรูปแบบการใช้งานยังง่ายสำหรับผู้ใช้ด้วย เช่น การรองรับด้วยคำสั่งเสียง (Voice Control) ซึ่งก็เป็นรูปแบบการใช้งานที่กลุ่มไฮเอนด์นิยม เพราะง่ายและสะดวก พูดง่ายๆ ก็คือ อะไรที่เทคโนโลยีสามารถทำให้ชีวิตพวกเขาง่ายขึ้นจะเป็นกลุ่มสินค้าแรกๆ ที่อยู่ในความสนใจของกลุ่มไฮเอนด์ โดยจะมองเรื่องคุณภาพ – มูลค่า – ประสบการณ์ก่อนเสมอ

 

สำหรับตลาดในประเทศไทย เหมือนว่าวงการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องใกล้ตัวและมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากดูจากผลสำรวจในตลาดไทยที่ผ่านมา (ข้อมูลของนีลเส็น) ที่ระบุว่า แม้การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะยังคงอยู่ แต่กลุ่มผู้บริโภคไฮเอนด์ หรือนิยมสินค้าพรีเมียมยังคงใช้จ่ายเหมือนเดิม เพียงแต่พิจารณาถึงคุณค่าของสินค้านั้นๆ มากขึ้น

สอดคล้องกับที่ คุณเกริกชัย ตั้งตระกูลธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาร์เก็ตติ้ง 1688 ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายหุ่นยนต์ทำความสะอาดและเครื่องดูดฝุ่น แบรนด์ Roborock แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้ตั้งเป้าที่จะพัฒนาแบรนด์ให้เป็นที่จับตามองในตลาดเทคโนโลยีของไทยด้วย ทั้งยังเตรียมที่จะนำเข้าเทคโนโลยีใหม่อีกกว่า 10 รายการในปี 2022 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มไฮเอนด์ในตลาดไทยยังคงน่าสนใจอยู่

ดังนั้น เส้นทางการพัฒนาโปรดักส์ของ Roborock เห็นได้ชัดว่า เน้นไปที่การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในวงการนี้มาก่อน ขณะที่การพัฒนาก็เน้นไปที่ #ความแตกต่าง #คุณค่า (คุณภาพสูง) เป็นสำคัญเพื่อให้เป็นสินค้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นและเครื่องดูดฝุ่นที่ดีที่สุดของโลก อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายโดยมีการรับประกันสินค้าทุกชิ้นส่วนรวมถึงแบตเตอรี่ 2 ปีเต็ม พร้อมด้วยศูนย์บริการ Roborock Care ซึ่งย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้อย่างชัดเจน


  • 22.1K
  •  
  •  
  •  
  •