ต้นตำรับมาเอง ‘IRVINS Salted Egg’ ประกาศบุกไทย โดยเปิดสาขาเพิ่มที่สยามพารากอน และอีก 2 แห่งย่านใจกลางกรุงเทพฯ ในปีนี้

ในอดีตหากต้องการได้ลิ้มรสแบรนด์ดังอย่าง IRVINS Salted Egg ต้นตำรับขนมทอดกรอบคลุกไข่เค็มจากสิงคโปร์ เราคงต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไป หรือต้องสั่งผ่านพ่อค้าแม่ค้าที่รับหิ้ว ซึ่งต้องยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าปกติ แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะแบรนด์ดังแบรนด์นี้ได้มาเปิดสาขาในไทยเป็นที่เรียบร้อย ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ การมาครั้งนี้ทางเจ้าของแบรนด์มาเอง ไม่ได้ผ่านตัวแทน

จุดเริ่มต้นจากร้านอาหารทะเล Irvin’s Seafood Cze Char ที่ River Valley ในปี 2008 กับการบุกเบิกขนมหนังปลาทอดกรอบคลุกไข่เค็มสูตรต้นตำรับเจ้าแรกในสิงคโปร์ ภายใต้แบรนด์ IRVINS Salted Egg ที่คัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมและใช้ไข่เค็มแท้ 100% ไม่ใช้ผงไข่เค็ม ไม่ใส่สารกันบูด ทำให้แบรนด์นี้แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว และได้เริ่มขยายไลน์โปรดักท์จากหนังปลาทอดมาสู่มันฝรั่งและมันสำปะหลัง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ๆ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จุดพีคที่ทำให้ IRVINS Salted Egg ดังแบบข้ามประเทศ และกลายเป็นขนมที่ไม่ว่าจะต่อแถวรอนานแค่ไหนก็ต้องยอม เกิดขึ้นในปี 2014 กับการเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งจากขวดใสมาอยู่ในรูปแบบถุงเพาซ์ และได้นำ Mascot ของแบรนด์อย่าง เป็ดสีดำ-เหลือง มาไว้บนซอง พร้อมกับเปิดตัวแฮชแท็คของแบรนด์  #DangerouslyAddictive โดยที่มาของแฮชแท็คนี้ ก็มาจากลูกค้าที่บอกว่า หากได้กิน IRVINS Salted Egg แล้วไม่สามารถหยุดได้นั่นเอง

แพ็กเกจดังกล่าว ไม่เพียงดูดี ดู Cool และทันสมัยเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ในเรื่องการพกพาที่ง่ายขึ้น เมื่อรวมกับรสชาติที่เด็ดจนคนติดใจและเกิดกระแสปากต่อปาก ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถมีสาขาได้ที่สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และไทยได้ในภายใน 10 ปีที่ผ่านมา

ตลาดไทย เจ้าของแบรนด์ขอลุยเอง

สำหรับการเข้ามาเปิดสาขาในไทยนั้น ทางเจ้าของแบรนด์ IRVINS Salted Egg เป็นผู้เข้ามาลงทุนเอง ภายใต้ชื่อ ‘บริษัท โคโคบา ไทยแลนด์ จำกัด’

ด้วยเหตุผลว่า ไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีความสำคัญในอันดับต้น ๆ สำหรับ IRVINS Salted Egg โดยเริ่มเห็นกระแสตอบรับตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากนักท่องเที่ยวไทยที่ส่วนใหญ่เมื่อไปท่องเที่ยวสิงคโปร์จะซื้อ IRVINS Salted Egg ติดไม้ติดมือกลับมา บวกกับเห็นพฤติกรรมการหิ้วมาขายของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย ซึ่งได้รับความนิยมมาก ๆ  แม้ต้องจ่ายในราคาสูงกว่าที่สิงคโปร์เป็นอย่างมากก็ตามที รวมถึงมีเสียงเรียกร้องและสอบถามของบรรดาแฟนชาวไทยผ่านทางโซเชียล มีเดีย อย่างสม่ำเสมอและเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯว่า เมื่อไรจะมาเปิดในไทย

นอกจากนี้ เล็งเห็นว่า ไทยเองมีวัฒนธรรมทางการกินที่หลากหลาย และผู้บริโภคชอบลองอะไรใหม่ ๆ จึงมองเป็นตลาดที่น่าสนใจ และตัดสินใจเข้ามาขยายสาขาเอง ปัจจุบันมี 2 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิล์ด และ สยามพารากอน ที่ล้วนเป็นทำเล Prime Location ที่ทุกแบรนด์ต้องการเข้ามาเปิดสาขา

โดยสาขาแรก ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 เซ็นทรัลเวิล์ด เปิดบริการไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562  ต้องบอกว่า กระแสตอบรับแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว โดยเฉพาะบนโลกโซเชียล และเมื่อเปิดจริง ก็แรงไม่แพ้ที่สิงคโปร์ จนเกิดแฮชเท็กยอดฮิตในช่วงนั้น ทั้ง #IRVINSSaltedeggThailand #saltedeggpotatochips #saltedeggfishskin #saltedeggyolkchips #saltedeggcassavachips  ส่วนยอดขายยิ่งไม่ต้องพูดถึง จากวันนั้นถึงวันนี้ยอดขายยังดีไม่มีตก

ขณะที่สาขา 2 ตั้งอยู่ฟู้ดส์ฮอลล์ ชั้น G ของสยามพารากอน เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2562 ก็ได้รับการตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน

สำหรับโปรดักท์ที่วางขายทั้ง 2 สาขา มีให้เลือก 2 รสชาติ คือ ‘รส Original’ ที่ใคร ๆ ต่างการันตีว่าเด็ดจริง ได้แก่ หนังปลาทอดกรอบคลุกไข่เค็ม, มันฝรั่งทอดกรอบคลุกไข่เค็ม, มันสำปะหลังทอดกรอบคลุกไข่เค็ม และ ‘HOT BOOM หรือรสเผ็ดร้อน’ รสชาติที่ทุกคนรอคอย ประกอบด้วย หนังปลาทอดกรอบคลุกไข่เค็มรสเผ็ดร้อน, มันฝรั่งทอดกรอบคลุกไข่เค็มรสเผ็ดร้อน และมันสำปะหลังทอดกรอบคลุกไข่เค็มรสเผ็ดร้อน

โดยทั้งรส Original และรส HOT BOOM ทุกแบบมีให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาดเล็ก 105 กรัม ราคา 210 บาท , ขนาดใหญ่ 230 กรัม ราคา 420 บาท (ราคาขายถือว่าใกล้เคียงกับที่สิงคโปร์ ประเทศต้นกำเนิดเลยทีเดียว) ซึ่งนอกจากขนมแล้ว ภายในร้านยังวางจำหน่ายของขวัญพรีเมียมสุดน่ารัก อย่าง ตุ๊กตา IRV และ Gaga

วางแผนขยายเพิ่ม 2 สาขากลางใจกรุงเทพฯ

นอกจากสาขาที่มีอยู่ตอนนี้ คือ เซ็นทรัลเวิล์ด และสยามพารากอน ในปีนี้ IRVINS Salted Egg มีแผนจะขยายสาขาอีก 2 สาขาในย่านใจกลางกรุงเทพฯ คือ เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัลลาดพร้าว ส่วนสาเหตุที่โฟกัสในทำเลดังกล่าว เพราะกรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีสีสัน มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่หากมีโอกาสที่เหมาะสม ก็พร้อมจะขยายตลาดไปต่างจังหวัด ซึ่งต้องมีการพัฒนาโปรดักท์ให้เข้ากับคนท้องถิ่นและมีความเป็นไทยมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะทำการตลาดเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะคนที่ยังไม่รู้จักหรือยังไม่เคยลองชิม IRVINS Salted Egg ได้ทดลองชิม รวมถึงจะมีการเปิดให้บริการผ่าน “Wongnai x Line Man” ในเดือนมิถุนายน และกำลังจะเปิดให้บริการผ่าน  Grab Food เร็ว ๆ นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชอบความสะดวกสบาย

เอาเป็นว่า หากใครไม่อยากพลาดเรื่องดี ๆ หรือข่าวสารความเคลื่อนไหวของ IRVINS Salted Egg แบรนด์ดังต้นตำรับขนมทอดกรอบคลุกไข่เค็มเจ้าแรกจากสิงคโปร์ สามารถติดตามเข้าได้ทาง facebook.com/irvinsaltedeggth หรือทาง IG : irvinsaltedegg_th