เปิดแนวคิด SC Asset เข้าสู่ทศวรรษที่ 3 ใช้โทเคน ‘Morning Coin’ และบล็อกเชน สร้าง Ecosystem เพื่อการเติบโตยั่งยืน

 

ในปี 2024 นี้ เป็นปีที่ SC Asset เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคทศวรรษที่ 3 ยุคแห่งวิวัฒนาการที่ให้ความสำคัญกับ Purpose-driven ‘3Ps’ (People – Planet – Profit) ซึ่ง คุณพงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เล่าท้าวความถึงยุคต่างๆ ของ SC Asset ก่อนจะมาถึงวันที่มีการเปิดตัวเหรียญโทเคน ‘Morning Coin’ (มอร์นิง คอยน์ – MNC) นวัตกรรมล่าสุดที่ทาง SC Asset นำมาใช้ ทำให้เราได้เห็นถึงแนวคิดซึ่งเป็นที่มาอันน่าสนใจของมัน

 

ความสำคัญของการสร้างคุณค่าในโลกยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกัน 

โดยคุณพงศ์เล่าว่า ใน 10 ปีแรก ถือเป็นยุคเริ่มต้นที่ SC Asset เพิ่งเริ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนยุคที่ 2 คือยุค Reinvention มีการคิดค้นสร้างสรรนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวต่างๆ ในบริษัทมากมาย

กระทั่งเข้าสู่ยุคทศวรรษที่ 3 นี้ คุณพงศ์เรียกว่าเป็น ‘ยุคแห่งวิวัฒนาการ’ 

“เราคุยกันในบริษัทว่านี่คือยุคแห่งวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสร้างคุณค่า เพราะว่าโลกยุคนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องกัน เชื่อมต่อกัน องค์กรยุคนี้ต้องสร้างคุณค่าให้กับ ผู้คน (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) และธุรกิจ (Profit) เพื่อเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน วิธีคิดคือเราจะสร้างคุณค่า ส่งต่อให้คนและโลก คนจะเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ แล้วความชื่อมั่นจะกลายเป็นกำไร กำไรที่เกิดขึ้นจะนำไปสร้างนวัตกรรม แล้วก็ส่งต่อไปที่คุณค่าอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ” คุณพงศ์กล่าว  

 

 

พัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้าง Ecosystem

สำหรับวิธีสร้างคุณค่าให้กับลูกค้านั้น SC Asset ทำสองเรื่องคือ ‘คุณภาพ’ และ ‘นวัตกรรม’ 

“คุณภาพสำคัญมากๆ โลกจะเปลี่ยนไปยุคไหนสิ่งที่จะไม่มีทางเปลี่ยนไปเลยคือคนยังต้องการของมีคุณภาพสูง ส่วนสิ่งที่เราทำมาต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่สอง คือการเอานวัตกรรมมาต่อเชื่อมกับธุรกิจ เชื่อมกับสินค้าและบริการ ไปทำความเข้าใจลูกค้าว่าลูกค้ามีปัญหาเรื่องอะไร เราจะเอานวัตกรรมไปแก้ให้” 

ที่ผ่านมาในช่วงกว่า 10 ปีในยุคที่สอง SC Asset ได้คิดค้นนวัตกรรมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Smart Home, Active Air Quality, Green Tech, Security Tech นอกจากนี้ยังมี ‘รู้ใจคลับ’ (Ruejai Club Members) ที่ช่วยเสนอโซลูชั่นในการดูแลบ้านสำหรับลูกบ้านและให้บริการต่างๆ

“เรามีความเชื่ออย่างมากว่า ในอนาคต ทุกองค์กรที่จะโตยั่งยืน จะต้องพูดเรื่องการสร้างคุณค่า เพราะว่าทุกอย่างเชื่อมต่อกัน วิธีการสร้างคุณค่าทำอย่างไร สิ่งที่ SC Asset เชื่อมั่น เราบอกว่าเราจะส่งมอบคุณภาพและนวัตกรรม ให้สินค้าและบริการเราส่งต่อไปถึงลูกค้า แต่แค่นั้นไม่พอ จริงๆ เราซื้อบ้านซื้อคอนโด ต้องได้มากกว่านั้น ต้องได้สิทธิประโยชน์ แลกส่วนลดสิทธิพิเศษ ออกไปนอกบริษัทของเรา ไปถึงสินค้าบริการของบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย ในประเทศไทยมีบริษัท 800,000 กว่าบริษัท บางบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ บางบริษัทไม่ได้อยู่ แต่ละบริษัทก็มีโซลูชั่นของตัวเอง เราจะขยายจักรวาลของเราออกไปเพื่อส่งต่อสิทธิประโยชน์ตรงนี้ให้ลูกค้า” 

 

 

ตรงนี้เองที่เป็นที่มาของการที่ทาง SC Asset เลือกใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีความเชื่อว่า Utility Token จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่มีการเชื่อมต่อกันระหว่างบริษัทภายในระบบบล็อกเชน 

สำหรับโทเคน ‘Morning Coin’ ของทาง SC Asset ได้พัฒนาร่วมกับบริษัท Token X ซึ่งเป็น Technology Provider ภายใต้กลุ่ม SCBX 

“เรามั่นใจได้เลยว่า ยูทิลิตี้โทเคนที่เราทำให้ลูกค้าจะมีคุณภาพสูง บล็อกเชนเทคโนโลยีจะทำให้ยูทิลิตี้โทเคนปลอดภัยและสามารถเติบโตขยายมากขึ้นอย่างมีระบบ ในอนาคตเรามั่นใจว่าจะมีอีกหลายบริษัททำยูทิลิตี้โทเคน แล้วเราจะเอาสิทธิประโยชน์มาเชื่อมต่อกัน เพราะว่าเราอยากให้ลูกค้าเราได้คุณค่าที่ดีขึ้น” คุณพงศ์ย้ำ

 

ยกระดับและขยายขอบเขตบริการหลังการขาย

Utility Token อธิบายง่ายๆ ก็คือ ผู้ที่ถือโทเคน สามารถนำโทเคนนั้นๆ มาแลกกับสินค้า บริการ หรือ สิทธิต่างๆ ตามที่ผู้ออกโทเคนได้กำหนดไว้ได้นั่นเอง ซึ่ง ‘Morning Coin’ นั้นทาง SC Asset จะแจกให้กับลูกบ้านเดิมและลูกค้าที่ซื้อบ้าน-คอนโด โดยใช้งานผ่าน RueJai App นำไปแลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งสินค้าและบริการของ SC Asset และบริษัทพันธมิตร ภายใต้ SC Asset Reward Program ‘The S.U.N’ ประกอบด้วย 

 

 

S – Special คือ ‘พิเศษ’ สิทธิส่วนลดและอื่นๆ ในการซื้อบ้านและคอนโดกับ SC Asset สินค้าและบริการใน ‘รู้ใจสโตร์’ และยังครอบคลุมเครือข่ายธุรกิจของ SC Asset เช่น โรงแรม YAHN ราชวัตร, โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ และโรงพยาบาลพระราม 9 โดยสามารถแลกสิทธิได้ไม่จำกัด

U – Unique คือ ‘แตกต่าง’ จะมีการคัดสรรกิจกรรมต่างๆ ที่ให้ประสบการณ์แตกต่างไม่เหมือนใคร อาทิ ปิดร้านช้อปโดยร่วมมือกับค่ายสยามพิวรรธน์, เอ็กซ์คลูซีฟคอนเสิร์ต, ตัดผมกับช่างผมคิวทอง, Secret Kyoto Trip

N – Network คือ ‘เครือข่าย’ กิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงลูกบ้านให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อโอกาสและความเป็นไปได้ต่างๆ ในอนาคต เช่น ตลาดนัดคนรู้ใจ, Orange Pages, Sunshine Market ซึ่งเป็นงานใหญ่ไฮไลต์สำคัญของปีนี้ โดยจะรวมกลุ่มลูกบ้านที่มีกิจการร้านค้ามาร่วมออกร้านเป็นครั้งแรก ในวันที่ 17-19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ 

 

 

ทั้งนี้ทาง SC Asset ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2024 นี้จะมีลูกบ้านเปิดใช้งานโทเคน ‘Morning Coin’ ในวอลเล็ทมากกว่า 80% จากสมาชิกรู้ใจคลับกว่า 1 แสนราย จากลูกบ้านทั้งหมด 26,000 ยูนิต โดยที่ผ่านมาสินค้าและบริการในรู้ใจคลับยังสร้างรายได้ให้ทาง SC Asset ได้กว่า 100 ล้านบาทด้วย