การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2562 ขณะนี้ได้ชัตดาวน์ธุรกิจไปแล้วหลายแขนง โดยเฉพาะ ‘ภาคการท่องเที่ยว’ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวโยงกับอีกหลายๆ ธุรกิจมาก ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ ก็คือ ปรากฏการณ์ lay off พนักงาน โดยเฉพาะในสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรักษาเสถียรภาพในช่วงที่การเงินธุรกิจยังไม่ฟื้นตัว
การสั่งปลดพนักงานเห็นได้ชัดๆ ก็ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสายการบินฮ่องกง แอร์ไลนส์ (400 คน), สายการบินนกสกู๊ต (24 คน), สายการบินไลอ้อนแอร์ (20 คน), สายการบินนกแอร์ สั่งปลดกัปตันนักบินไปแล้ว 4 คน, นอร์วีเจี้ยน แอร์ สายการบินโลว์คอสต์สัญชาตินอร์เวย์ ที่ประกาศ lay off พนักงานไปถึง 50% หลังจากที่สายการบินต้องระงับบริการเที่ยวบินมากถึง 4,000 เที่ยว และล่าสุด 14 มี.ค. สายการบิน KLM ของเนเธอร์แลนด์ เตรียมปลดพนักงาน 2,000 คน แถมยังลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานที่ยังเหลืออยู่ด้วย
ขณะเดียวกัน สายการบินอื่นๆ ที่ยังไม่สั่งปลดพนักงาน แต่ก็เลือกใช้วิธีให้พนักงานหยุดลาพักร้อน/ลาหยุด โดยยินยอมที่จะไม่รับเงินเดือน เช่น สายการบินแอร์เอเชีย, สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก, ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินใหญ่สุดของเยอรมนี และ สายการบินเอมิเรตส์ของดูไบ
นอกจากนี้ธุรกิจเรือสำราญ อย่าง Princess Cruises ได้ประกาศหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยให้พนักงานลาหยุดงานโดยไม่รับเงินค่าจ้างรายเดือนด้วยเช่นกัน
หายนะ Covid-19 อาจทำคนตกงานมากถึง 50 ล้านคน
ด้วยสภาวะการควบคุมโรคที่ยังไร้ทิศทางแน่ชัด ทำให้ล่าสุด สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council – WTTC) ออกมาแสดงความกังวลอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับวิกฤตการระบาดของ Covid-19 โดยได้ย้ำไปถึง ‘ปัญหาคนตกงานมหาศาล’ เป็นประเด็นแรก คาดการณ์เอาไว้ว่า กลุ่มคนที่ทำงานด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อยู่ในความเสี่ยงสูงที่สุด เพราะจำนวนคนที่ตกงานอาจมากถึง 50 ล้านคน ตราบใดที่หายนะ Covid19 ยังควบคุมไม่ได้
Gloria Guevara ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ WTTC ได้กล่าวว่า Covid-19 ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่มากต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอีกหลายธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมอื่น ขณะที่ได้ประเมินว่า ในปี 2020 เม็ดเงินในภาคการท่องเที่ยวอาจหดตัวถึง 25% เพราะผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาด และเป็นไปได้ว่าอาจลากยาวตลอดทั้งปีนี้
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลของหลายๆ ประเทศ ที่ให้ดำเนินการปกป้องอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงที่ฟื้นตัวหลังจากนี้ หากวิกฤต Covid-19 สามารถควบคุมได้ งานหนักที่ต้องทำก็คือ ฟื้นภาคท่องเที่ยวก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางรายได้หลักของเกือบทุกประเทศให้เร็วที่สุด ผ่าน 4 ข้อเสนอแนะ ดังนี้
-
ลด/ยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในทริปท่องเที่ยว
-
ผ่อนคลายอุปสรรคที่ไม่จำเป็น ทั้งทางอากาศและทางเรือ (เช่น กฎระเบียบการใช้ท่าเรือ)
-
ลดภาษีผู้โดยสารขาออก หรือภาษีที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารเครื่องบินแต่ละคน (Air Passenger Duty (APD)
-
อัดงบประมาณที่จะกระตุ้นและส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ (นอกเหนือจากสถานที่เที่ยวหลัก)
