10 วิธีทำงานกับเอเจนซี่ยังไง ให้ได้งานปัง (ฉบับน่ารัก)

 

 

Marketing Oops! Podcast : Oops! Unbox Idea ชวนฟังเรื่องราวสนุก เกี่ยวกับแวดวงโฆษณา แคมเปญการตลาด และการใช้ไอเดียสร้างสรรค์ผลักดันในการทำธุรกิจ ผ่านแง่มุมต่างๆ 

วิธีในการร่วมงานกับลูกค้าให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ลื่นไหล และท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้งานประสบความสำเร็จ ผ่านประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปีของเอเจนซี่มือรางวัล “เต้ย – ต่อศักดิ์ ชื่นประภา” Co-Founder & Chief Creative Officer จาก Wolf BKK ร่วมแชร์ 10 ข้อคำแนะนำ ที่เอเจนซี่อาจจะไม่เคยบอกมาก่อน หรืออยากจะบอกแต่ก็ไม่กล้าพูด วันนี้เราจะมาเปิดเผยให้ได้รู้กัน  

 

10 ข้อคู่มือในการร่วมงานกับเอเจนให้งานออกมาปัง!

 

• คัดเลือกเอเจนซี่ให้ดีก่อน 

เลือกให้เยอะที่สุด เลือกให้นาน เลือกให้ดีที่สุด ตั้งแต่แรกที่จะเริ่มงานด้วย เคล็ดลับคือให้ดูจากงานที่เขาเคยทำมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นสไตล์ไหน ดูแล้วว่าเราชอบงานของเอเจนซี่ไหน และอาจจะเรียกมาคุยกันหาเคมีที่ใช่ตรงกัน เหมือนกับการทำงานรายงานกลุ่มสมัยเรียนเลย คือการร่วมงานกัน As a partner โดยท้ายที่สุดต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน 

 

• บรีฟตรงๆ   

บรีฟอย่างตรงไปตรงมาว่าปัญหาของคุณคืออะไร ที่ผ่านมาลูกค้ามักจะมี Hidden agenda ในใจมักจะไม่ค่อยบอกในตอนแรก เพื่อให้การทำงานเกิดความรวดเร็วไม่ต้องมีการแก้ไขมากมาย เพราะเอเจนซี่มีหน้าที่ในการบาลานซ์ระหว่างความต้องการของลูกค้า (ธุรกิจ/แบรนด์) กับความสนใจของผู้บริโภคอยู่แล้ว เพราะถ้าปัญหายิ่งชัด ถ้าแก้หรือทางออกก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น จะทำให้การทำงานมันสมูทมากขึ้นด้วย 

 

• อย่าคิดแบบมุม Marketing ให้คิดในมุม Consumer 

ลองคิดว่าถ้าเราเป็นคนนั่งดูทีวีอยู่บ้าน หรือคิดในมุมคนที่เสพคอนเทนต์ แล้วมี Ads ยิงขึ้นมา อย่าไปคิดในมุมที่จะขายของอย่างเดียว อย่างคำที่ว่า ‘ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน’ เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณอยากบอกเขาไม่ได้อยากฟัง ดังนั้น ต้องเซ็ต mind set ตรงนี้ให้ได้ก่อนเลย 

 

• ใช้ความเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด 

ในหลายครั้งจะพบลูกค้าที่เต็มไปด้วย data หรือ insight มากมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด แต่เวลาที่ใช้ข้อมูลเหล่านี้ ก็ไม่ควรที่จะหยิบเอาตัวกรองที่เรียกว่า “ความเป็นมนุษย์” เข้ามาใช้ตรงจุดนี้ด้วย 

 

• ซื้องานจากการขายครั้งแรก

ข้อนี้เป็นคำแนะนำที่ “เต้ย Wolf BKK” โน้ตว่า ไม่จำเป็นต้องใช้เสมอไป แต่เหตุผลที่แนะนำก็เพราะว่า การขายงานครั้งแรก แต่ละไอเดีย เอเจนซี่ได้คัดกรองแล้ว คัดแล้วคัดอีก จนตัดสินใจไปขายงานชิ้นนั้นให้ ดังนั้น ถ้าไอเดียไม่ได้แย่มากนักในความรู้สึกของลูกค้า ก็อยากจะให้พิจารณาจากการขายงานในครั้งแรกเลย เพราะการแก้งานไปๆ มาๆ จะทำให้ไอเดียค่อนช้างช้ำแล้ว 

 

• ถามความเห็นเอเจนซี่ก่อนเคาะ

เป็นสิ่งที่ประทับใจทุกครั้ง เวลาได้ยินลูกค้าถามคำถามนี้ เป็นการเปิดบทสนทนาหลังการขายงานที่ดีมากๆ เป็นการขอความเห็นจากเอเจนซี่ที่มองว่า มันคือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันที่ดีมาก 

 

• กรุณาอย่าเลือก Production House เอง 

เหตุผลที่ให้คำแนะนำเช่นนี้ “เต้ย Wolf BKK” บอกว่าเป็นเพราะ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกับโปรดักส์ชั่นเฮาส์ราบรื่นที่สุด ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ลูกค้าไม่ควรเลือกเฮาส์เอง เพราะบางครั้งลูกค้ามักมีมุมมองว่า เลือกเฮาส์นี้เพราะราคาดี หรือเลือกเพราะคนรู้จักคนสนิทกัน แต่นั่นอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมากได้และท้ายที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่องาน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง 

 

• ลงทุนกับ Production ตามความเหมาะสม 

ในบางครั้งงานของเราไม่จำเป็นต้องถูกเห็นบ่อยๆ ก็ได้ แค่เพียงเราอาจจะปล่อยออกมาไม่กี่ครั้งแต่มันปังเลย หรือติดตรึงใจผู้ชมไปเลย แค่นี้ก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องอัดให้คนดูเห็นเยอะๆ ก็ได้ 

 

• ยิ่งขั้นตอนเยอะ งานยิ่งแย่ 

บางครั้งเวลาที่ขายงานลูกค้า ตอนแรกอาจจะไม่ได้เจอผู้ที่ตัดสินใจได้เลย Maker Decision ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย แล้วพอมีคอมเมนต์มาไปแก้ไขกลับมา ก็ต้องมาขายงานอีกรอบอีก ส่งตีกลับไปกลับมา ยังไม่ถึงคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจเสียที งานก็ช้ำไปหมดแล้ว ปะผุปะผุ ไอเดียกันตลอด งานก็ออกมาไม่ดี อันนี้เลยอยากฝากให้ลูกค้า (แบรนด์/ธุรกิจ) พิจารณานิดนึงว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจร่วมประชุมแต่แรกเลยจะดีกว่า

 

• อย่าเรียก Pitcing บ่อยจนเกินไป 

“เต้ย Wolf BKK” ให้เหตุผลในจุดนี้ว่า เพราะอาจจะทำให้ Brand character  ของคุณหายไป ช่วงหลังๆ สังเกตว่ามีการพิทช์ชิ่งแบบรายโปรเจ็คต์กันเกิดขึ้นมากๆ แต่ตรงนี้จะมีผลทำให้แบรนด์ของคุณสวิงตัวมากๆ ซึ่งสิ่งนี้ถ้าทำงานร่วมกับเอเจนซี่หนึ่งมานานเขาจะมีความเข้าใจในแบรดน์ของคุณมากกว่าที่จะไปเริ่มต้นใหม่กับเอเจนซี่รายอื่น ดังนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่อยากให้พิจารณาในการเลือกใช้เอเจนซี่ด้วย 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากมุมมองความคิดของการสั่งสั่งประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับลูกค้ามานาน ซึ่งกรั่นกรองแล้วว่าน่าจะมีผลทำให้การทำงานร่วมกับเอเจนซี่หรือโปรดักส์ชั่นเฮาส์ออกมาดีที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้หรือพิจารณานำไปใช้ในการทำงานให้เหมาะกับบริษัทของคุณได้ตามความเหมาะสมนั่นเอง.