เมื่อเสียงนกหวีดเขี่ยบอลเริ่มเกมระหว่างกาตาร์ เจ้าภาพ “ฟุตบอลโลก” และเอกวาดอร์ ดังขึ้นในวันนี้ จะนับเป็นการเริ่มต้นมหกรรมกีฬาที่อาจเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แม้จะไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเหมือนกับที่ Super Bowl เกมอเมริกันฟุตบอลที่นำเอากีฬามาเชื่อมโยงเข้ากับอุตสาหกรรมบันเทิงแบบที่มหกรรมกีฬาอื่นๆไม่สามารถทำได้ แต่มหกรรม FIFA World Cup หรือ “ฟุตบอลโลก” ที่จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปีนั้นเรียกได้ว่าเป็นมหกรรมกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก และเป็นอีกหนึ่ง Event ที่แบรนด์นำมาใช้ในการสื่อสารการตลาดไปถึงบรรดา Audience ทั่วโลกได้
หากนำฟุตบอลโลกมาเปรียบเทียบกับการแข่งขัน Super Bowl จะทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำนวนผู้ชมฟุตบอลโลกนั้นมีจำนวนมหาศาลขนาดไหน โดยข้อมูลจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เปิดเผยว่าจำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อแมตช์ของฟุตบอลโลกเมื่อปี 2018 ที่ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพนั้นอยู่ที่ราวแมตช์ละ 191 ล้านคน ซึ่งเรียกได้ว่ามากกว่ายอดผู้ชมถ่ายทอดสดเกม Super Bowl ที่มีรวมแล้วราว 150 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ชมในสหรัฐเกือบ 100 ล้านคน และผู้ชมจากทั่วโลกอีก 30-50 ล้านคน
ยังไม่ต้องพูดถึงนัดชิงฟุตบอลโลกโดยสถิติเกมที่ทีมชาติ “ฝรั่งเศส” เข้าชิงกับทีมชาติ “โครเอเชีย” เมื่อปี 2018 นั้นยอดผู้ชมถ่ายทอดสดทางทีวีมากถึง 517 ล้านคน ขณะที่การรายงานสดเกมการแข่งขันนั้นเข้าถึงคนทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคนเลยทีเดียว
เมื่อมองไปที่จำนวนผู้ชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกแล้วนำไปเทียบกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกก็มีความแตกต่างกันมากเช่นกัน โดยในปี 2018 ที่ผ่านมามีผู้ชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกอย่างน้อย 1 นาที ผ่านทางทีวีและช่องทางออนไลน์จำนวนมากถึง 3,560 ล้านคน ขณะที่มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมามีผู้ชมรวมเพียง 3,050 ล้านคน ขณะที่ โอลิมปิก ฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อปี 2022 นั้นมีผู้ชมเพียง 2,010 ล้านคน
ไม่เฉพาะฟุตบอลโลกที่รัสเซียเมื่อปี 2018 เท่านั้นที่มีจำนวนผู้ชมจำนวนมหาศาล แต่ฟุตบอลโลกที่ประเทศบราซิล เมื่อปี 2014 ก็สามารถทำตัวเลขผู้ชมได้ในระดับเดียวกัน เช่นเดียวกับฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ เมื่อปี 2010 ด้วยเช่นกัน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ฟุตบอลโลกเป็นที่นิยมก็คือ “ฟุตบอล” เป็นกีฬาที่เข้าถึงได้ง่ายและได้รับความนิยมสูงไปทั่วโลกจากลีกฟุตบอลชั้นนำในหลายๆประเทศ และสำหรับฟุตบอลโลก ที่ประเทศกาตาร์ ในปี 2022 นี้แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการได้สิทธิเจ้าภาพของกาตาร์ ที่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะส่งผลกระทบกับจำนวนผู้ชมถ่ายทอดสดหรือไม่ แต่จากผลสำรวจหลายต่อหลายสำนักก็พบว่า จะมีแฟนฟุตบอลจำนวนหลายร้อยล้านคนที่จะเปิดทีวีและสื่อดิจิทัลทุกช่องทางเพื่อชมมหกรรมกีฬาฟุตบอลครั้งนี้อย่างแน่นอนนับตั้งแต่เสียงนกหวีดเขี่ยลูกเริ่มเล่นในเกมแรก ไปจนถึงเสียงนกหวีดหมดเวลาในเกมนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ธันวาคมนี้
