“Libra” สกุลเงินดิจิทัลจาก Facebook ยังคงถูกจับตาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดในการนำเงินดิจิทัลมาใช้ซื้อขายสินค้าและบริการจริงแทนเงินจริงสกุลต่างๆ ทั่วโลก จนสถาบันการเงินต่างๆ ทั่วโลกต้องหันมาศึกษาความเป็นไปได้และความปลอดภัย รวมไปถึงผลกระทบระยะยาวหากมีการออกมาใช้งานจริง โดยมีการประกาศชัดเจนถึงการเปิดใช้งานจริงในช่วงกลางปี 2020
ซึ่ง Facebook เองก็มีการรวบรวมพันธมิตรไว้ทั่วโลกในรูปของ “สมาคม Libra (Libra Association)” โดยเฉพาะบริษัทด้านการชำระเงินระดับโลกอย่าง VISA, MasterCard, PayPal, Stripe, eBay เป็นต้น ทว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้มีหรือที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผู้ที่มีเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นเงินสกุลที่ทั่วโลกใช้อ้างอิงจะยอมอยู่นิ่งๆ
Mark Zuckerberg ถูกเรียกเข้าพบต่อสภาคองเกรสเพื่อชี้แจงถึงการสร้าง Libra และการดำเนินการ ดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐจะไม่สนับสนุนรูปแบบดังกล่าว แถมผู้สมัครท้าชิงประธานาธิบดีหลายรายก็เริ่มมอง Facebook ในแง่ร้าย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อหนึ่งในพันธมิตรที่เหนียวแน่นของ Facebook อย่าง PayPal ที่มีอดีตผู้บริหารมานั่งดูแลสมาคม Libra ก็ประกาศถอนตัว
ซึ่งสมาคม Libra ก็พร้อมที่จะเดินหน้าตามแผนต่อไป แต่เรื่องดันไม่จบเมื่อการถอนตัวของ PayPal เป็นการจุดชนวนความไม่เชื่อมั่นต่อเงินดิจิทัลสกุล Libra เมื่อพันธมิตรรายใหญ่ด้าน Payment ต่างตบเท้าทะยอยกับบ๊ายบาย Libra ซะอย่างงั้น ไม่ว่าจะเป็น eBay, Stripe, MasterCard, VISA และ Mercado Pago
โดยโฆษกของ Stripe ชี้ว่า Stripe มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโครงการที่ให้การค้าออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้คนทั่วโลกได้สะดวกมากขึ้น โดย Stripe ยังคงสามารถทำงานร่วมกับสมาคม Libra ในอนาคตข้างหน้า (กล่าวคล้ายๆ กับที่ PayPal กล่าวก่อนหน้านี้)
ด้าน VISA เองก็ชี้ว่า โฆษกของวีซ่ากล่าวว่า VISA จะยังคงประเมินผลถึงภาพรวมความสามารถของสมาคม Libra ทางด้านกฎระเบียบ VISA เชื่อมั่นว่าเครือข่ายบล็อกเชนที่มีการควบคุมอย่างดี จะช่วยให้การชำระเงินดิจิทัลมีความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสโดยเฉพาะในตลาดประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา
ถึงกระนั้นสมาคม Libra ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยจำนวนสมาชิกที่เหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น PayU บริษัทด้านการชำระเงิน (Payment) ที่เหลืออยู่ รวมถึง Uber, Lyft และ Spotify ยังคงให้การสนับสนุนการดำเนินการของสมาคม Libra อยู่
งานนี้ต้องจับตาให้ดี เพราะผู้เล่นรายใหญ่ด้าน Payment ระดับโลกเริ่มทะยอยตบเท้าออกมาแล้ว นั่นคือการส่งสัญญาณสั่นคลอนความเชื่อมั่นในการชำระเงินของ Libra หรือไม่ หรือบริษัทเหล่านั้นมองเห็นความเสี่ยงที่จะมี แต่อย่าลืมว่าการชำระผ่านเงินดิจิทัลอยู่บนเทคโนโลยีบล็อคเชนที่เรียกได้ว่า เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยที่สุดในยุคนี้
ท่าดูจากพันธมิตรที่เหลืออยู่บอกเลยว่า Libra สู้ต่อแน่นอน แต่หากเกิดจุดหักเหอะไรบางอย่างเช่น นโยบายภาครัฐที่ออกมาควบคุมและกีดกัน Libra หรือพันธมิตรที่เหลืออยู่ทะยอยกันบ๊ายบาย โครงการ Libra ก็อาจสั่นคลอนได้ อย่างน้อยยังมีเวลาให้ตัดสินใจอีกอย่างน้อย 8-9 เดือนต่อจากนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป
Source: CNBC, Cryptopolitan, The Wall Street Journal
