หลายคนคงคิดเหมือนกันว่า เราเสียเวลาไปมากกับการอยู่บนท้องถนน โดยเฉพาะบนถนนที่มีการจราจรคับคั่ง หรือการเดินทางที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ถ้าสามารถใช้เวลาในส่วนนี้ได้อย่างสนุกสนาน หรือสามารถใช้เวลาในส่วนนี้ไปกับการประชุมทีมงานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ดีในอนาคต น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ที่สำคัญแบรนด์ต่างๆ ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน หากสามารถใช้เวลาที่อยู่บนรถ ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคกำลังต้องการน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการโฆษณาบนบิลบอร์ด
นั่นจึงทำให้ Holoride สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี เตรียมพัฒนาเทคโนโลยี VR ให้สามารถใช้งานได้ บนรถยนต์ โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ทางด้านความบันเทิงภายในรถยนต์ โดยเฉพาะระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเตรียมพัฒนาเพื่อให้สอดรับกับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนในรถยนต์สามารถใช้เทคโนโลยี VR ได้ในขณะเดินทาง โดยที่ยังคงมองเห็นภาพการขับขี่ของรถยนต์
โดยผู้คนสามารถใช้ VR ไปกับการเล่นเกม การศึกษาหรือการประชุมผ่าน Metaverse ซึ่ง Holoride ได้แยกตัวออกจาก Audi ในปี 2019 และร่วมมือกับ TerraNet บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ของสวีเดนเพื่อสร้างเซ็นเซอร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นในการประมวลผลสภาพแวดล้อมของยานพาหนะอย่างรวดเร็ว นั่นจึงไม่แปลกที่ชุด VR แรกจะถูกนำมาใช้กับ Audi SUV ก่อน และจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มแบบเปิดที่อนุญาตให้ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายใช้ระบบความบันเทิงรูปแบบนี้ได้ โดย Holoride มีเป้าหมายในการสร้างรายได้จากการสูญเสียช่วงเวลาบนท้องถนน
ไม่เพียงเท่านี้ Holoride ยังชี้ว่าอุปกรณ์ VR ที่ติดตั้งในรถยนต์จะช่วยให้อาการเมารถทุเลาลงได้ และจะช่วยให้ทุกคนมีโอกาสขับขี่และเดินทางด้วยรถยนต์ได้อย่างสนุกสนานโดยไม่ต้องกังวลกับอาการเมารถอีกต่อไป
Source: CNN
