เอ่ยอำลา Adobe CS ต้อนรับ Adobe Creative Cloud ในไทยอย่างเต็มตัว

  • 23
  •  
  •  
  •  
  •  

ffff image: adobe

ถ้าเอ่ยถึงโปรแกรมตระกูล Adobe คงถือเป็นโปรแกรมอันดับต้นๆ ที่เคยผ่านมือคนทำงานภาพและกราฟฟิคมาแล้วทั้งสิ้น รวมไปถึงบุคคลทั่วไปที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ด้วย และล่าสุดกับ Adobe Creative Cloud (CC) บริการแบบใหม่ที่รวมเอา 29 โปรแกรมมาไว้ในชุดเดียว ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกตัว (เดี๋ยวนี้เขาเรียกเป็น  Apps (Application) แต่ขออนุญาตใช้คำว่าโปรแกรมเพื่อไม่ให้สับสน)

ขอท้าวความกันก่อนว่า ก่อนจะมาเป็น Adobe Creative Cloud เรารู้จัก Adobe ในนามของ Adobe Creative Suite (CS) ซึ่งจ่ายเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้งานโปรแกรมไปได้ตลอด โดยขายแยกเป็นโปรแกรมเดี่ยวๆ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร สำหรับการใช้งานทั่วไป อาจมองได้ว่าไม่คุ้มที่จะจ่าย อีกทั้งการใช้งานโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับงานกราฟฟิคแล้ว โดยมากจะไม่ได้ใช้เพียงโปรแกรมเดียว แต่จะใช้ร่วมกันอย่างน้อย 2 โปรแกรมขึ้นไป อย่างเช่น ช่างภาพอาจจะใช้งาน Lightroom ไปพร้อมกับ Photoshop หรือถ้าเป็นกราฟฟิคดีไซน์ก็มักจะใช้ Photoshop ควบคู่ไปกับ Illustrstor ดังนั้นหากต้องซื้อเพื่อใช้งานอย่างจริงจัง ก็จะต้องลงทุนกันหลายหมื่นเลยทีเดียว หรืออาจจะแตะหลักแสนได้หากใช้งานสี่ถึงห้าโปรแกรมขึ้นไป ปัญหาที่ตามมาคือ การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึ่งโปรแกรมของ Adobe CS นั้นถูกละเมิดลิขสิทธิ์มากเป็นอับสองรองจากโปรแกรม Windows เลยทีเดียว ดังนั้นการเข้ามาของ Adobe CC จะมาทำหน้าที่แทน Adobe CS อย่างถาวร ซึ่งหมายถึงนับจากนี้ไป Adobe จะให้บริการแต่เฉพาะ Adobe CC เท่านั้น จะไม่มีการจำหน่าย Adobe CS อีกต่อไป

cc3

Creative Cloud vs Creative Suite

แต่เดิมที่เป็น Adobe CS หากต้องการซื้อโปรแกรม Adobe สักโปรแกรม ต้องซื้อแยกกล่องทีละโปรแกรม  แต่ Adobe CC นั้นจะมาในรูปแบบ Subscribe หรือการเป็นสมาชิกรายเดือน พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นไปอีกคือ เหมือนเราไปเช่าโปรแกรมเขามาใช้งาน เริ่มต้นที่เดือนละ 300 บาท เป็นระดับราคาที่เราอาจจะไม่ต้องคิดมากหากต้องใช้งานจริงๆ ก็ถือว่าคุ้มอยู่ไม่น้อย โดยมีรูปแบบแพคเกจแยกย่อยหลายประเภท เพื่อที่เราจะสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ค่อนข้างสะดวก อีกทั้งเรายังสามารถซื้อ Adobe Application ในราคาที่ถูกลงกว่าใน Adobe CS และยังมีบริการเสริมอื่นๆจาก Adobe เพิ่มเติมอีกหลายรายการที่เราคำณวนดูแล้วว่าโอเคเลยทีเดียว สำหรับระดับราคาประมาณนี้ เมื่อเทียบกับต้องซื้อแยกเป็นทีละโปรแกรมแบบ CS

5-6-2013-12-52-56-PM

จุดเด่นที่แตกต่างของ Creative Cloud

แม้ตอนแรกจะยังรู้สึกไม่ชินกับรูปแบบการเช่าโปรแกรมมาใช้ แต่ Adobe ก็มีจุดขายในหลายข้อที่ทำให้เราตัดสินใจลอง Creative Cloud นั่นคือบริการใหม่ๆ และสิทธิพิเศษตลอดการใช้งานโปรแกรมในฐานะสมาชิก

– มีบริการ Cloud Storage ตั้งแต่ 20 ถึง 100GB สำหรับเก็บไฟล์ ซึ่งเราสามารถเปิดใช้งานไฟล์ด้วยอุปกรณ์ใดก็ได้

– Sync และ Share ไฟล์ได้โดยอัตโนมัติไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม ซึ่งนั่นจะลดข้อจำกัดในเรื่องสถานที่การทำงาน และยังมั่นใจได้ว่าเป็นไฟล์ที่อัพเดทล่าสุดทุกครั้ง (ในฐานคนใช้งานประจำ ฟีเจอร์นี้ทำให้การทำงานสะดวกขึ้นกว่าเดิมมาก)

– อัพเกรดโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ๆฟรีตลอดการใช้งาน – อัพเดท patch, และ feature ใหม่ๆฟรีตลอดการใช้งาน

– มีการปรับปรุงและแก้ไข plugin อย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีติดขัด

– มีบริการฟอนต์ให้ดาวน์โหลดไปใช้กันฟรีๆกว่า 680 ฟอนต์ (มูลค่าเกือบ $25,000)

– มีการ Support โดยตรงจาก Adobe โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ สำหรับปรึกษา และช่วยแก้ไข้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน และการติดตั้ง – เลือกและเปลี่ยนภาษาได้ตามต้องการ

– สามารถใช้งานได้ทุกโปรแกรมสำหรับการจ่ายเพียงครั้งเดียว

ซึ่งหลังจากได้ลองใช้แล้วก็พบว่ามันทำให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น และที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษนอกจากระบบ Sync คือ เราสามารถใช้งานได้ทุกโปรแกรมของ Adobe จากการจ่ายเพียงครั้งเดียว จุดนี้ก็แล้วแต่บุคคลว่าใช้งานโปรแกรมมากน้อยแค่ไหน ถ้าโดยปกติแล้วใช้ 3-4 โปรแกรมขึ้นไป ก็ค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียว ซึ่งก็ดีตรงที่เขามีการจัดแพคเกจสมาชิกมาให้เหมาะกับการใช้งาน บางคนใช้มาก บางคนใช้น้อย ก็สามารถเลือกให้เหมาะกับตัวเองได้

การเลือกประเภทของ Adobe CC ให้เหมาะกับการใช้งาน

1.Individuals
2.Terms and Business
3.Education

สำหรับบุคคล มีให้เลือก 3 ประเภท
ประเภท 1 Photography  ได้โปรแกรม Photoshop และ Lightroom สามารถใช้งานผ่าน desktop, mobile และ web ได้

ประเภท 2 Single  เลือกหนึ่งโปรแกรมจากรายการ Photoshop, Iilustrator, InDesign, Acrobat Pro DC, Adobe Muse, Dreamweaver, Flash Professional, Adobe Premiere Pro, After Effects, Audition และ InCopy

ประเภท 3 Complete  สามารถเลือกใช้งานได้ทุกโปรแกรม

*แบบ Single และ Complete จะได้รับบริการเพิ่มเติม 3 รายการ
– ProSite portfolio website
– Typekit desktop and web fonts
– 20 GB of cloud storage

individual cc

Terms and Business สำหรับบริษัทหรือธุรกิจ จะได้รับบริการในรูปแบบเดียวกันกับ Individuals และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมดังนี้

– Cloud Storage ขนาด 100GB

– การ Support โดยตรงจาก Adobe โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญ

– ระบบการจัดการ User Account ในแต่ละ License

Education สำหรับการศึกษา  จะได้รับการบริการในรูปแบบเดียวกันกับรูปแบบ Individuals แต่สามารถซื้อได้ในราคาถูกกว่า ทั้งนี้ต้องเป็นสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมกับ Adobe เท่านั้น

ทดลองใช้งาน

หลังจากสมัคร Adobe ID และทำการยืนยันผ่านทางอีเมล์แล้ว เราจะสามารถ Sign In ได้ทันที จากนั้นจึงจะสามารถเลือกแพคเกจที่เราต้องการได้

ccsignin   ทำตามขั้นตอน จนกระทั้งถึงขั้นตอนที่ 4 คือการยืนยันการสั่งซื้อ

cc4

เมื่อทำตามขั้นตอนครบและติดตั้งเรียบร้อยแล้ว Adobe จะพาเรามาสู่สิ่งที่จะทำให้เราตื่นเต้นสุดๆ นั่นคือหน้าต่าง Install โปรแกรมนั่นเอง

cc choices

เราสามารถเลือก Install โปรแกรมได้ตามแพคเกจที่เราเลือก ซึ่งทางเราได้เลือกแพคเกจประเภท Complete หรือแบบบุฟเฟต์ ที่เราจะสามารถเลือกใช้งานโปรแกรมได้ทุกโปรแกรมเท่าที่สเป็คเครื่องเราจะอำนวย อีกทั้งยังสามารถ อัพเดท, ถอนการติดตั้ง หรือกลับมาติดตั้งใหม่อีกครั้งก็ได้

photoshop cc

โฉมหน้า Adobe Photoshop และ Illustrator ในเวอร์ชั่น Creative Cloud 2015

ai cc

 

photoshop cc front

UI ของ  Adobe Photoshop CC หน้าตาจะเหมือนรุ่น CS6

menu แถบเมนูอื่นๆที่น่าสนใจ ภาพซ้ายเป็นแถบจัดการเมนูหน้า Home / ภาพขวาเป็นหน้า Assets ที่สามารถดาวน์โหลด Fonts และเก็บ Files ผ่าน Cloud Storage

หลังจากได้ทดลองเป็นสมาชิกและใช้งาน Adobe Creative Cloud ไปสักระยะ ยังไม่พบปัญหาในการใช้งาน และในความเห็นจากการที่ได้ใช้งานจริง เราคิดว่าการที่ Adobe เปลี่ยนรูปแบบจากการขายผลิตภัณฑ์มาเป็นการให้บริการ ถือเป็นการแก้ปัญหาการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ที่ชาญฉลาดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการผลิตเพื่อนำเอาทุนไปพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ให้เกิดประสิทธิภาพ และมีฟีเจอร์ใหม่ๆให้เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีคุณภาพ แม้ในตอนนี้อาจจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้ 100% แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีในการเป็นต้นแบบให้แก่วงการพัฒนาซอฟต์แวร์

ในฐานะผู้ผลิตและสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ ที่เลือกใช้วิธีการแก้ปัญหาที่อาจะเรียกได้ว่า win-win ทั้ง Adobe และ ผู้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานเองก็จะได้ใช้โปรแกรมที่ดีมีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น Adobe เองก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆล้ำๆออกมารองรับการเติบโตของเทคโนโลยีได้อย่างต่อเนื่อง เราจึงอยากสนับสนุนให้ผู้อ่านทุกท่านเลือกใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แทนการ crack หรือแผ่นผี ซึ่งการใช้ซอฟต์แวร์แท้ไม่เพียงแต่จะถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังช่วยทำให้วงการพัฒนาซอฟต์แวร์เติบโต และสร้างสรรค์โปรแกรมเจ๋งๆเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้อีกด้วย


  • 23
  •  
  •  
  •  
  •