กลยุทธ์ที่ดีนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง กลยุทธ์ไม่ใช่เพียงแผนการที่สวยงามบนกระดาษ แต่คือ “ทิศทางร่วม” ที่ทำให้องค์กรทั้งระบบสามารถเคลื่อนไปข้างหน้าในจังหวะเดียวกันได้อย่างมีเป้าหมาย หากต้องการทำความเข้าใจว่าเหตุใดบางองค์กรจึงมี “กลยุทธ์ที่ดี” ขณะที่อีกหลายแห่งประสบปัญหา จำเป็นต้องมองให้ลึกลงไปถึงโครงสร้าง ความเข้าใจ และวัฒนธรรมภายในองค์กร รวมถึงมองกว้างไปถึงปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้อง
ทำไมกลยุทธ์ถึงไม่ง่าย และทำไมถึงสำคัญ
ตัวเลขที่น่าตกใจแสดงให้เห็นว่าองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำกลยุทธ์ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากสถิติพบว่า 90% ขององค์กรล้มเหลวในการนำกลยุทธ์ไปใช้จริง, 50% ของผู้บริหารใช้เวลา “0 ชั่วโมง” ต่อเดือนกับการวางกลยุทธ์ และมีเพียง 5% ของพนักงานที่เข้าใจกลยุทธ์ของบริษัท นอกจากนี้ 61% ของผู้บริหารยอมรับว่าองค์กรของตนมีปัญหาในการเชื่อมต่อระหว่างการวางกลยุทธ์กับการปฏิบัติจริง และมีเพียง 17% เท่านั้นที่มองว่า “การนำกลยุทธ์ไปใช้” คือเรื่องกลยุทธ์
ความล้มเหลวในการวางกลยุทธ์สามารถนำไปสู่ความสูญเสีย เช่น Nokia เคยพลาดโอกาสในตลาดมือถือจากการมุ่งเน้นตลาดบนและมองข้ามความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค หรือ Cisco ขาดการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในปี 2011 จนต้องปลดพนักงานกว่า 6,500 คน เพื่อที่จะสร้างกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพ มี 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อคุณภาพของกลยุทธ์โดยตรง ซึ่งองค์กรสามารถตรวจสอบและพัฒนาได้ คือ
- ความสามารถ (Competence) : ทีมงานรู้หรือไม่ว่า “กลยุทธ์” คืออะไร? หลายองค์กรสับสนระหว่าง “แผนงาน” กับ “กลยุทธ์” ที่แท้จริง การพัฒนา Competence ที่ดีควรครอบคลุมถึง
- การอบรมและอัปสกิลด้านกลยุทธ์อย่างเหมาะสมกับจังหวะเวลาและบริบท
- การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนและตอบโจทย์
- การสรรหาและวางคนที่เหมาะสมในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทางองค์กร
- ความรับผิดชอบ (Accountability) กลยุทธ์จะไม่มีทางกลายเป็นความจริง ถ้าไม่มีคนรับผิดชอบ การวัดผลกลยุทธ์ที่ดีควร:
- มีเป้าหมายชัดเจนว่า “เราต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร”
- มีตัวชี้วัดความคืบหน้า และนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจ
- มีความถี่ในการวัดผลและการประชุมทบทวนที่เหมาะสม
- ภาวะผู้นำ (Leadership) ผู้นำไม่ใช่แค่ผู้สั่ง แต่ต้องเป็นผู้ฟัง ผู้ให้กำลังใจ และผู้ปรับแผนตามสถานการณ์
ผู้นำที่ดีควรมี:
- วัฒนธรรมการนำที่เอื้อให้ทีมเติบโตและสร้างสรรค์
- ความสามารถในการถามคำถามที่ถูกต้องและท้าทายทีมให้คิดเชิงกลยุทธ์
- การรับฟังข้อมูลอย่างลึกซึ้ง และการตัดสินใจที่ใช้ข้อมูลอย่างรอบด้าน
- ความเข้าใจตลาด (Market Understanding) ยิ่งเราเข้าใจตลาดมากเท่าใด กลยุทธ์ยิ่งมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น จุดที่ควรตรวจสอบ:
- เราใช้ข้อมูลเชิงลึกจากศูนย์กลางและขอบของตลาดครบถ้วนหรือไม่?
- โมเดลที่ใช้วิเคราะห์ตลาดมีอคติหรือไม่ และเปิดโอกาสให้ข้อมูลใหม่เข้ามาอย่างไร?
- มีการทำงานแบบข้ามสายงานเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองหรือไม่?
- ข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์ (Insights & Experience) ไม่ใช่แค่มีข้อมูล แต่ต้องรู้ว่าข้อมูลไหน “สำคัญ” ต่อการตัดสินใจ แนวทางที่แนะนำ:
- สร้างสมดุลระหว่างข้อมูลเชิงปริมาณ (thin data) และข้อมูลเชิงคุณภาพ (thick data)
- เริ่มจากคำถามว่า “เรากำลังจะตัดสินใจเรื่องอะไร?” แล้วค่อยเลือกใช้ข้อมูลให้เหมาะสม
- มีระบบคัดกรองและอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงอคติ
- วัฒนธรรมองค์กรต้องพร้อมที่จะ “เรียนรู้สิ่งใหม่ และเปลี่ยนเมื่อจำเป็น”
กลยุทธ์ไม่ใช่แค่แบบฟอร์มหรือแผนการที่สร้างอย่างสวยงาม แต่คือผลสะสมของทักษะ ความเข้าใจ วัฒนธรรม การวัดผล และความเป็นผู้นำจากทั่วทั้งองค์กร หากเราต้องการสร้าง “กลยุทธ์ที่ดี” ไม่ใช่แค่ต้องรู้ “จะวางแผนอย่างไร” แต่ต้องมั่นใจว่าองค์กรของเรานั้น “พร้อมจะคิดกลยุทธ์อย่างแท้จริง”