
ปี 2025 อุตสาหกรรมวิดีโอเกมกำลังตั้งคำถามกับปัญญาประดิษฐ์ท่ามกลางยุคที่เอไออยู่ในทุกส่วนของชีวิตประจำวัน แต่เหมือนว่าหลายคนจะไม่ชอบให้มันอยู่ในเกมนัก บทวิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดของ The Verge และความเคลื่อนไหวจากค่ายเกมยักษ์ใหญ่ทั่วโลก Generative AI นำมาทั้งโอกาสมหาศาล และวิกฤตศรัทธาที่ไม่อาจมองข้าม
สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในปี 2025 คือการที่ Generative AI ถูกนำมาใช้งานจริงในสเกลระดับอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่โปรเจกต์โชว์เคสเล็กๆ อีกต่อไป บริษัทยักษ์ใหญ่และสตูดิโอ AAA เริ่มนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์หลัก โดยเฉพาะในงานที่ต้องทำซ้ำๆ และกินเวลานาน เช่น การเขียนโค้ดพื้นฐาน, การสร้างพื้นผิววัตถุ และการออกแบบเลย์เอาต์ของฉาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่บีบคั้น ต้นทุนการสร้างเกมที่พุ่งสูง
Andrew Wilson ซีอีโอของ Electronic Arts (EA) มองว่า AI จะช่วยให้ผู้เล่นสร้างคอนเทนต์ได้เอง ซึ่งในปี 2025 นี้ เราเริ่มเห็นเครื่องมือเหล่านั้นตกถึงมือผู้พัฒนาเกมรายย่อยและผู้เล่นมากขึ้น ทำให้กำแพงของการสร้างสรรค์เกมเริ่มทลายลง
เทคโนโลยีอย่าง NVIDIA ACE (Avatar Cloud Engine) และความร่วมมือระหว่าง Microsoft กับ Inworld AI ได้ยกระดับตัวละครในเกมให้หลุดพ้นจาก ‘สคริปต์ที่ตายตัว’ สู่การเป็นตัวละครที่มีพลวัต เราจะไม่ได้เห็นแค่ NPC ที่ตอบสนองตามคำสั่ง แต่เป็น NPC ที่มีความทรงจำ มีอารมณ์ และสามารถ ‘ด้นสด’ บทสนทนาตามบริบทของผู้เล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สิ่งนี้สร้างความตื่นเต้นในแง่ของ Immersive Experience แต่ในขณะเดียวกัน ก็สร้างความท้าทายให้นักออกแบบเกม (Game Designers) ว่าจะควบคุมเนื้อหา (Narrative Control) อย่างไร ไม่ให้ AI พูดจาออกนอกลู่นอกทางจนทำลายแก่นเรื่องที่วางไว้
รอยร้าวในอุตสาหกรรม เมื่อมนุษย์รู้สึกไม่ปลอดภัย
เหรียญย่อมมีสองด้าน การถาโถมเข้ามาของ Gen AI ในปี 2025 ได้สร้างรอยร้าวที่ลึกขึ้นระหว่าง ‘นายทุน’ และ ‘แรงงานสร้างสรรค์’
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดคือสถานการณ์ของ นักพากย์ และ นักแสดง Motion Capture การประท้วงของสหภาพ SAG-AFTRA ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปีก่อนหน้า ยังคงเป็นประเด็นสำคัญในปีนี้ เมื่อนักแสดงต้องการหลักประกันว่า ‘เสียง’ และ ‘รูปลักษณ์’ ของตนจะไม่ถูกนำไปโคลนนิ่งหรือสร้างใหม่ด้วย AI โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องการเลิกจ้าง (Layoffs) ยังเข้มข้นต่อเนื่อง การที่ AI สามารถทำงาน Concept Art หรือเขียนบทสนทนาพื้นฐานได้ ทำให้ตำแหน่งงานระดับ Junior หรือสัญญาจ้างชั่วคราวมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ แม้ผู้บริหารจะบอกว่า AI มาเพื่อช่วยไม่ใช่แทนที่ แต่ตัวเลขการจ้างงานกลับสวนทางกับคำกล่าวอ้างนั้น
ลิขสิทธิ์และจริยธรรม สนามรบทางกฎหมาย
อีกหนึ่งสมรภูมิที่ดุเดือดในปี 2025 คือเรื่องของ ลิขสิทธิ์ในขณะที่บริษัทอย่าง Nintendo ยังระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำ Gen AI มาใช้เนื่องจากความกังวลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา แต่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งกลับเดินหน้าด้วยความเร็วสูง คำถามที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนทางกฎหมายคือ “ข้อมูลที่นำมาเทรน AI เหล่านั้น มาจากไหน?”
ศิลปินและนักพัฒนาเกมอิสระจำนวนมากเริ่มลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องผลงานของตนจากการถูก AI นำข้อมูลไปใช้ การฟ้องร้องและการร่างกฎหมายใหม่ๆ เพื่อควบคุม AI ในวิดีโอเกมจึงเป็นข่าวรายวันที่เราจะได้เห็นตลอดทั้งปีนี้
ปี 2025 จึงเป็นปีที่อุตสาหกรรมต้องตอบคำถามสำคัญที่สุด ‘อะไรคือคุณค่าของเกม?’ หลายฝ่ายมองว่าหากปล่อยให้ AI สร้างทุกอย่าง ตั้งแต่โค้ด กราฟิก ไปจนถึงบทสนทนา เราอาจจะได้เกมที่มีปริมาณมหาศาล แต่ขาดจิตวิญญาณที่เกิดจากรสมือมนุษย์ ความท้าทายของผู้พัฒนาในปีนี้จึงเป็นการหาจุดสมดุล ที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือทุ่นแรง โดยยังคงรักษา ‘หัวใจ’ ของงานศิลปะที่เรียกว่าวิดีโอเกมเอาไว้ได้
Source: The Verge
