[FYI] ศิลปินญี่ปุ่นชวนคุณโหยหวนโลกหมุนช้า ค่อยๆ สเก็ตภาพกิจวัตรผู้คนในกรุงโตเกียว

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

sketches5

ไอเดียนี้อาจเป็นตัวพิสูจน์ว่างบประมาณและความคิดสร้างสรรค์เจ๋งๆ อาจไม่ใช่ตัวแปรตามกันเสมอไป RocketNews24 รายงานว่าศิลปินแดนอาทิตย์อุทัยรายหนึ่งต้องการท้าทายอำนาจเทคโนโลยีด้วยการโยนกล้องดิจิตอลทิ้งไป และหันไปหยิบดินสอจับสมุดเพื่อสเก็ตภาพผู้คนในมหานครโตเกียวที่ผ่านเข้าในชีวิตของเขาอย่างละเมียดละไม

ศิลปินจาก hamahouse รายนี้ระบุว่าความต่างอย่างหนึ่งของการสเก็ตภาพกับกล้องดิจิตอล คือคุณจะต้องมีความตั้งใจและเวลายิ่งยวดในการบันทึกช่วงเวลาต่างๆ ให้ละเอียด คุณไม่สามารถปรับสี ปรับเลนส์ แล้วแชะ! เพื่อเก็บช่วงเวลานั้นไว้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

“แน่นอนว่าเทคโนโลยีทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของเราก็ฉาบฉวยและหาความหมายได้ยากขึ้น การสเก็ตภาพสำหรับผมเป็นหนึ่งในขบวนการที่ผมจะสามารถพิจารณาคนที่ผมจะวาดได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จินตนาการว่าพวกเขาเป็นอย่างไร เขาชอบอะไร จากนั้นจึงถ่ายทอดลงในภาพของผม ฉะนั้น สิ่งที่ผมเขียนไม่ได้สะท้อนความจริงแต่สะท้อนจินตภาพของคนๆ นั้นในความรู้สึก” ศิลปินญี่ปุ่นกล่าว

นอกจากจะเป็นไอเดียบรรเจิดแล้ว การสเก็ตภาพยังสามารถหลีกเลี่ยงผลทางกฏหมายได้เนื่องจากหากคุณถ่ายภาพคนแปลกหน้าแล้วอัพโหลดเป็นผลงานของคุณ คุณมีสิทธิถูกฟ้องร้องทางกฏหมายเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ครับ

ผู้เขียน: ส่วนตัวผมเห็นว่ายิ่งโลกเทคโนโลยีหมุนเร็วเท่าไหร่ ไอเดียทวนกระแส (เช่น nostalgia) ก็น่าจะมาแรงมากขึ้นเท่านั้น สังเกตจากปัจจุบันเราต้องการสินค้าและบริการที่สะท้อนความเป็นปัจเจกชนมากขึ้น ขณะที่เทคโนโลยีหลายอย่างกลับพยายามทำให้เรากลายเป็น mass ซะได้ ความพิถีพิถันในผลงานทุกชิ้นเริ่มหายไปและกลายเป็นสัตว์อุตสาหกรรมโรงงานที่มีสายพานโยงไปสู่กระบวนการผลิต ถึงที่สุด เทคโนโลยีอาจเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้บรรลุวัตถุประสงค์เร็วขึ้น แต่ให้ตระหนักว่าเทคโนโลยีเป็นเพียง ‘เครื่องมือ’ หากคุณสูญเสียความเป็นตัวเองและละเลยคุณภาพของผลงานซะแล้ว เทคโนโลยีเยอะแค่ไหนคุณก็คงไม่มีคอนเทนต์อะไรจะใส่ล่ะครับ

sketches1 sketches20 sketches19 sketches17 sketches16 sketches15 sketches14 sketches13 sketches12 sketches11 sketches10 sketches9 sketches8 sketches7 sketches6 sketches5 sketches4 sketches3 sketches2


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง