แน่นอนว่ามาตรการ Stay at Home และ Social Distancing ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนย้ายไปใช้ชีวิตบนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าออนไลน์ เรื่องนี้การันตีโดย “Lazada” กับการเปิดเผยสถิติการซื้อ – ขาย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 โดย คุณภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เล่าว่า…
“ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ เรื่องนี้ทำให้อีคอมเมิร์ซเข้ามาตอบโจทย์ผู้คนได้มากขึ้น เห็นได้จากทั้งจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายที่เพิ่มขึ้นบน Lazada”
– ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคมปีนี้ จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Lazada เพิ่มขึ้นราวเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
– มีจำนวนผู้ขายใหม่ 90,000 ราย ที่เข้าร่วมแพ็กเกจพิเศษ SME Package (สนับสนุนให้เปิดร้านออนไลน์ ยกเว้นค่าธรรมเนียม เป็นต้น)
– ในช่วงดังกล่าว นักชอปใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม Lazada นานขึ้น 30%
– สินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ อุปกรณ์กีฬา – ออกกำลังกาย, ของเล่นเด็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายในบ้าน โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 250-500%
คาดการณ์มูลค่าอีคอมเมิร์ซไทย 2.2 แสนล้านบาท โตขึ้น 35% จากปีก่อน
แม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 ในไทยมีแนวโน้มคลี่คลายและมีการคลายล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นแล้ว แต่ Lazada มองว่า “ไม่ทำให้ความนิยมอีคอมเมิร์ซลดลง” เนื่องจากผู้คนคุ้นชินกับพฤติกรรมออนไลน์แล้ว จึงเชื่อว่าแม้ห้างสรรพสินค้าและร้านค้ากลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว ผู้บริโภคก็ยังใช้ชีวิต New Normal เช่นเดิม
สานต่อเกมรุก “Shoppertainment”
ตามที่ Lazada เคยประกาศกลยุทธ์สู่การเป็น Shoppertainment เพื่อขยายฐานผู้บริโภคให้มากกว่าการเข้ามาซื้อสินค้า โดยสามารถเข้ามาชม Live Streaming และร่วมเล่นเกม พร้อมกับค้นหาดีลสำหรับซื้อสินค้า ทำให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้งออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยนี้ทำให้ Lazada มีผู้ใช้งานรายใหม่ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็น Digital Native ที่คุ้นเคยกับยุคดิจิทัลอยู่แล้ว เข้ามาเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับ KOL บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ตั้งแต่ Lazada เปิดตัวฟีเจอร์ Live Streaming ในปี 2561 เรียกว่า “LazLive” ยังมีฟีเจอร์ “See-Now-Buy-Now” ทำให้กลายเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มเดียวที่มีฟีเจอร์ลักษณะดังกล่าว ทำให้เกิดประสบการณ์ใหม่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะได้พูดคุยไปพร้อมกับการขายและแนะนำสินค้าได้ในครั้งเดียว โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจ คือ…
– ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม มีคอนเทนต์บน LazLive มากกว่า 1,500 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์
– มีจำนวน Live Presenter รายใหม่เพิ่มขึ้น 30%
– เช่นเดียวกับจำนวน Live Content ที่เพิ่มขึ้น 25%
– ทั้งหมดส่งผลให้ Engagement บน LazLive เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน (+13%) และจำนวนการคลิก (+30%)
– สินค้าที่ขายดีผ่าน LazLive คือ หมวดสุขภาพและความงาม, เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าทั่วไป
นอกจากนี้ Lazada ยังใช้กลยุทธ์ดังกลาวมาต่อยอดเป็นกิจกรรมในชื่อ Lazada MID-YEAR SUPER LIVE กับการแข่งขัน Live โดยมีทั้งกิจกรรมจากศิลปินชั้นนำ ร่วม Live ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง จากทั้งผู้ขายและ KOL ราว 800 คน เข้ามาแข่งขันกันเพื่อสร้าง Engagement และเปลี่ยนเป็นยอดขาย ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเรียกน้ำย่อยดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้ เพื่อโปรโมทกิจกรรม Lazada MID-YEAR SUPER SALE อีกด้วย
