นอกจากการชอปปิ้งออนไลน์จะเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล เทรนด์ต่าง ๆ ก็ยังมีความน่าสนใจและเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ล่าสุด จากข้อมูลของ Adobe Digital Economy Index ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ของผู้บริโภคอีคอมเมิร์ซทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ได้รายงานข้อมูลซึ่งอ้างอิงจาก Adobe Analytics ที่รวบรวมสถิติของผู้บริโภคที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ค้าปลีก 1 ล้านครั้ง และสินค้ากว่า 100 ล้านรายการใน 18 หมวดหมู่ พร้อมด้วยข้อมูลจากอีก 100 ประเทศใน 3 ภูมิภาค ผ่านการทำธุรกรรมเพื่อ คาดการณ์การชอปปิ้งออนไลน์ในช่วงปลายปีนี้ (1 พ.ย. – 31 ธ.ค.) โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจ ว่า
– ผู้บริโภคทั่วโลกอาจทำสถิติชอปออนไลน์ ถึง 910,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 30 ล้านล้านบาท) เติบโต 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่ผ่านมา
– “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในหมู่ผู้บริโภค
Adobe ยังคาดการณ์ว่า ยอดใช้จ่ายทั่วโลกตลอดปี 2564 อาจสูงถึง 4.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 135 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของอีคอมเมิร์ซ แต่ในขณะเดียวกัน จากความต้องการชอปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ผู้ค้าปลีกจำนวนไม่น้อยต้องประสบปัญหาด้านซัพพลายเชน เช่น ความหนาแน่นของสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ของท่าเรือ การขนส่งที่ล่าช้า และการผลิตสินค้าในต่างประเทศที่หยุดชะงัก เป็นต้น และยังมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการชอปปิ้งออนไลน์ ดังนี้…
– ตามข้อมูลจากดัชนีเศรษฐกิจดิจิทัล พบว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะลดสูงสุดได้เพียง 22% ในปีนี้ จากเดิมที่เคยลดได้ถึง 27% ในปี 2563 รวมถึงสินค้าอีกหลาย ๆ ประเภทในกลุ่มที่นิยมให้เป็นของขวัญ เช่น คอมพิวเตอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ของเล่น, เครื่องกีฬา, เครื่องแต่งกาย, เฟอร์นิเจอร์
– Buy Now Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง กลายเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโคให้การตอบรับ เพื่อช่วยเพิ่มเงินสดหมุนเวียนสำหรับการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปลายปี ประเด็นนี้สอดคล้องกับรายได้ออนไลน์จาก BNPL ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับปี 2562
โดยจากการสำรวจของ Adobe พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 25% ใช้บริการ BNPL ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยสินค้าที่ผู้บริโภคใช้บริการมากที่สุด คือ หมวดเครื่องแต่งกาย (43%), สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (33%) และของชำ (30%)
– รับสินค้าหน้าร้านแบบไดร์ฟทรู กลายเป็นดาวเด่นอีกครั้ง หลังจากเดือน ธ.ค. 2563 มีการใช้บริการรับสินค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์จากร้านค้าแบบไดร์ฟทรู (Curbside Pickup) ราว 25% ของคำสั่งซื้อออนไลน์ทั้งหมด เนื่องจากผู้บริโภคมองหาวิธีการชอปปิ้งอย่างปลอดภัย แต่ในช่วงเทศกาลปลายปีที่กำลังจะมาถึงคาดว่าปัญหาความล่าช้าในการจัดส่งอาจทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการนี้เพิ่มขึ้น
