เรื่องพื้นฐานที่ต้องระวังในการลดแลกแจกแถมในช่วง Mega Campaign

  • 61
  •  
  •  
  •  
  •  

การลดแลกแจกแถมในช่วง Mega Campaign มีให้เห็นเป็นเรื่องปรกติ และนับวันจะคาดเดาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะวันที่มีตัวเลขกับลำดับของเดือน เช่น 7.7 8.8 9.9 โดยเฉพาะ 11.11 และ 12.12 จนทำให้หลายธุรกิจพยายามจัดโปรฯทุกครั้งในวันดังกล่าว การจัดโปรโมชั่นแบบนี้ทำให้เราสามารถระบายขายสินค้าได้เยอะกว่าเดิมก็จริง แต่ก็มีบางอย่างที่เราต้องระวังด้วยเช่นกัน

เราสามารถสอดแทรกของฟรีไว้ในทุกอย่างที่เราขายได้เสมอ

และการแจกของฟรีไม่ได้หมายความว่าเราต้องขายขาดทุน เพราะของฟรีที่เราแจกสามารถเป็นสิ่งที่ไม่มีต้นทุนในการผลิตเลยก็ได้เช่นเนื้อหาข้อมูล อีบุ๊ค เพลงสำหรับดาวน์โหลด เป็นต้น เราสามารถแจกของฟรีที่คนอื่นเป็นคนผลิต แทนที่จะเป็นเราที่ต้องเป็นคนผลิตได้ เช่นธุรกิจสายการบินของอเมริกาที่ตั๋วเครื่องบินจะถูกใส่ในซองกระดาษ ซึ่งของกระดาษเป็นของฟรีที่ทางสายการบินไม่ได้เป็นคนผลิตแต่เป็นพวกโฆษณาที่ยอมออกค่าใช้จ่ายในการทำซองกระดาษเพื่อให้โฆษณาปรากฎบนซอง

การแจกของฟรีเพื่อจูงใจให้คนมาซื้อของจากเรา หรืออย่างน้อยให้คนเข้ามาดูว่าเราขายอะไรหรือนำเสนออะไร เช่นการแจกปากกาฟรีที่บูธของเรา จริงๆคนที่มาบูธของเราไม่จำเป็นต้องสนใจในสิ่งที่เรานำเสนอก็ได้ แต่อยากได้ปากกาฟรี ผลคือเราสามารถทำให้คนอื่นเห็นว่าบูธของเรามีคนเข้ามาอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และแน่นอนว่าเราสามารถเปลี่ยนจากปากกาเป็นข้อมูลฟรีให้คนได้หยิบเอาไปอ่านได้ง่ายๆ

 

 

เรื่องที่ไม่ควรทำ ถ้าคิดจะแจกของฟรี

อย่างแรกคือ อย่าใช้วิธีแจกของฟรีเป็นหนทางในการโล๊ะสินค้าที่ขายไม่ออกโดยเด็ดขาด เพราะคนไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เราแจก แถมเป็นภาระของคนรับอีกต่างหาก การยัดเยียดให้คนรับของฟรี ก็ไม่ต่างจากเราเอาของนั้นทิ้งขยะ เพียงแต่การแจกของฟรีแบบนี้เป็นการยืมมือคนอื่นทิ้งแค่นั้นเอง การแจกของที่ลูกค้าหาจากที่ไหนก็ไม่ควรทำเช่นกัน

อีกอย่างที่ไม่ควรทำคือการแจกของฟรีที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ เช่นหากเราจะแจกอีบุ๊คฟรี เราอาจจะต้องขอข้อมูลของคนที่มาลงทะเบียนสนใจในสินค้าและบริการของเราก่อน เหมือนที่มีคนพูดไว้ว่า “ถ้าเราได้อะไรมาฟรีๆ เราน่ะแหละคือสินค้า” หมายความว่าลูกค้าจะได้ของฟรีก็ต่อเมื่อลูกค้าได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจของเรานั่นเอง หากเราแจกของฟรี โดยปล่อยโอกาสในการเก็บข้อมูลของลูกค้า เท่ากับเราตัดโอกาสในการรู้จักลูกค้าคนนั้นในระยะยาวด้วย

 

อย่าลดราคาจนลูกค้าจับทางได้

การลดราคาช่วยให้ลูกค้าอยากซื้อของจากเรามากก็จริง แต่ในระยะยาวแล้วกลับทำร้ายธุรกิจของเรา ลูกค้าจะเอาแต่คอยช่วงลดราคา จนลืมไปว่าของที่เราขายจริงๆราคาเท่าไหร่ อีกทั้งเป็นการทำลายแบรนด์ของเราเองด้วย ฉะนั้นอย่าลดราคาบ่อยเกินไป ควรตั้งราคาเดิมนานพอที่จะให้ลูกค้ารู้ว่าของที่เราขายจริงๆมีมูลค่าอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วลดราคาในจังหวะที่ลูกค้าคาดการณ์ได้ยากว่าจะลดราคาเมื่อไหร่ การลดราคาแบบนี้จะทำให้เราได้ลูกค้าทั้งในช่วงที่เราตั้งราคาปรกติและช่วงที่ลดราคาด้วย ลูกค้าขาประจำที่ซ้อของในราคาปรกติจะยิ่งมาซื้อของในช่วงลดราคา ไม่ใช่ได้ลูกค้าขาจรที่คอยแต่ช่วงลดราคาเท่านั้น

 

 

คำโฆษณาที่มีคำว่า ฟรี มอบให้ฟรี ทดลองใช้ฟรี ฟรีของกำนัล ไม่คิดค่าใช้จ่าย ครึ่งราคา ประหยัด ลดราคา เคาะราคา ลดราคา 24 ชั่วโมง คำพวกนี้ยังใช้ได้ผลดีตลอดมา ขอแค่เราให้ของฟรที่มีมูลค่ากับลูกค้า และลดราคาในจังหวะที่ลูกค้าเดาทางไม่ถูก ก็จะทำให้เราปล่อยโปรโมชั่นได้ผลตอบรับดีครับ

 

แหล่งที่มาส่วนหนึ่งจาก Motivational Marketing โดย Robert Imbriale


  • 61
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th