เมื่อ Content ยุคนี้ต้องคิดถึง Lifestyle ในการอ่าน

  • 44
  •  
  •  
  •  
  •  

ในยุคที่การทำ content marketing กำลังเฟื่องฟูอย่างมากและทุกคนหันมาทำ Content กันไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตามด้วยการที่ต้องสร้าง Content เหล่านี้ไปแย่งความสนใจผู้บริโภคกลับมา ด้วยการที่ผู้บริโภคต้องการอะไรก็ตามที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการตัวเองได้ ไม่ชอบอะไรก็ตามที่มารบกวนความสนใจในตอนนั้นอยู่ เพราะฉะนั้นสารที่นักการตลาดจะส่งไปต้องไม่ไปรบกวนและดึงความสนใจผู้บริโภคมาด้วย หรือเข้ากับเนื้อหาและช่วงเวลาเหล่านั้นที่ผู้บริโภคกำลังเสพเนื้อหาเหล่านั้นอยู่

Screen Shot 2560-07-12 at 11.05.31 AM

การเข้าใจเนื้อหาที่กำลังทำว่าเหมาะกับช่องทางที่จะเข้าไปอยู่หรือถ้าเป็นโฆษณาจะเข้าไปแนบเนียนกับเนือ้หาที่กำลังแสดงผลอยู่นั้นกำลังเป็นเรื่องที่นักการตลาดและคนทำครีเอทีฟกำลังสนใจอยู่ในตอนนี้ แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังมีความน่าสนใจเช่นกัน คือเนื้อหาดังกล่าวมีความเหมาะสมกับพฤติกรรมการดูเนื้อหาต่าง ๆ ในสมัยนี้หรือไม่ ด้วยการที่วิดีโอยุคนี้มาแรงกับพฤติกรรมที่นักการตลาดเชื่อจากการบอก ๆ ต่อกันมาว่าผู้บริโภคมีความสนใจน้อยกว่า 8 วินาที ทำให้ทุก ๆ คนพยายามจะทำวิดีโอที่มีความยาวแบบสั้น กระชับ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเอาไว้ หรือมองในอีกแง่มุมหนึ่งคือทำการยัดเยียดเนื้อหาลงมาในเวลาที่จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่รำคาญนั้นเอง แต่หารู้ไหมว่าด้วยระยะเวลาน้อยแค่ไหน ถ้าเนทื้อหามันไม่ใข่ก็ยังไม่ได้ประโยชน์นั้นอยู่ดี สิ่งหนึ่งที่นักการตลาดต้องเข้าใจคือ ผู้บริโภคต้องการเนื้อหาที่ใช่กับตัวเอง พร้อมกับระยะเวลาต่าง ๆ ที่เหมาะสมในการดูด้วย ซึ่งในต่างประเทศเองยังมีงานวิจัยที่บอกว่า ถ้าเนื้อหาใช่ผู้บริโภคจะดูวิดีโอ 2 นาที มากกว่าวิดีโอที่มีความยาว 15 วินาทีที่ไม่ได้ตรงความต้องการ ทั้งนี้การเข้าใจว่าเนื้อหาอย่างไรที่ใช่ พร้อมสร้างความยาวที่ใช่กับพฤติกรรมการดูนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ

phone-918633_640

การเข้าใจพฤติกรรมการเสพเนื้อหาในยุคนี้ว่ามีพฤติกรรมแบบไหนนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญรองลงมาจากการทำเนื้อหาที่ใช่ ซึ่งจากการวิจัยของ Facebook พบว่าผู้บริโภคนั้นมีการบริโภคเนื้อหาอยู่ 3 แบบดังนี้ คือ

1. On the go : พฤติกรรมนี้คือการที่ผู้บริโภคมีเวลาไม่มาก หรืออยู่ในระว่างการเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ได้มีความตั้งใจดูส่วนใหญ่ ทำให้วิดีโอเหล่านี้ควรมีความยาวไม่เกิน 15 วินาที เพราะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่ผู้บริโภคสามารถถือในมือแล้วเดินไปดูไปในระยะเวลาสั้น ๆ ได้ โดยไม่รบกวนสมาธิในการเดินทาง ซึ่งเนือ้หาเหล่านี้ต้องมีความสั้นกระชับ มีความสนุกที่ทำให้นิ้วของผู้บริโภคหยุดดูและสร้างความสนใจตรงกับผู้บริโภคได้ด้วย โดยต้องบอกข้อความที่ต้องการสื่อทั้งหมดให้ได้ภายใน 15 วินาที เทคนิคในวิดีโอเหล่านี้คือต้องไม่ให้ข้อมูลที่ต้องทำให้ผู้บริโภคต้องมาคิด หรือต้องพิจารณาตัดสินใจ เพราะผู้บริโภคจะไม่มีเวลาคิดเหรือตัดสินใจในตอนนี้ ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดและครีเอทีฟทำได้คือการสร้างวิดีโอที่สนุกที่ทำให้ผู้บริโภคจำแบรนด์ได้ รู้จักว่าแบรนด์ทำอะไร เพื่อที่จะดึงดูดให้เกิดความสนใจไปยังเนื้อหาต่อไปได้

2. Laying out :  พฤติกรรมนี้คือการที่ผู้บริโภคมีเวลาว่าง ต้องการผ่อนคลาย หรือมีเวลาต้องการหนีจากอะไรที่เครียด ๆ มีความต้องการที่จะดูวิดีโอในระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้วิดีโอนี้ควรมีความยาวไม่เกิน 30 วินาที เป็นวิดีโอที่ง่าย ๆ มีข้อมูลพอทำให้มีความสนใจ คิดและสนุกไปด้วยได้ ไม่ได้เป็นวิดีโอที่ต้องการความเข้าใจมาก ๆ หรือ ต้องใช้สมาธิสูงในการดู ลองนึกถึงวิดีโอทำอาหาร หรือคลิปสนุก ๆ จากทางบ้าน ที่ทำให้เราดูได้ตอนผ่อนคลายต่าง ๆ ขึ้นมา วิดีโอเหล่านี้จะเหมาะกับการพักสายตาจากงาน หรือเวลาที่อยู่ในร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือขณะเอนหลังในท่านั่งที่เก้าอี้ต่าง ๆ ขึ้นมา การทำวิดีโอเหล่านี้จะต้องมีความพอดีที่ข้อมูลและความสนุกต้องสมดุลกัน เพราะไม่ควรให้เกิดการคิดในข้อมูลต่าง ๆ มาก และต้องดึงดูดให้อยู่กับคลิปได้ด้วย

3. Intention : พฤติกรรมที่ผู้บริโภคนั่งจ้องหน้าจอเลย ซึ่งวิดีโอแบบนี้เป็นวิดีโอที่ผู้บริโภคต้องการที่จะดู ค้นหามาเพื่อศึกษา และใช้สมาธิอย่างมากในการดู ทำให้วิดีโอเหล่านี้ต้องมีข้อมูลที่ทำให้เห็นขั้นตอน สอนให้รู้ และทำให้คิดหรือข้อมูลจำนวนมากได้ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่ผู้บริโภคต้องการอย่างมากได้ ซึ่งวิดีโอเหล่านี้มักจะเป็นวิดีโอที่ทำให้เกิดการมาเป็นลูกค้าได้ทันทีถ้าตอบโจทย์ หรือเป็นวิดีโอที่จะทำให้ผู้บริโภคกลายมาเป็นคนติดตามแบรนด์ได้ ถ้าวิดีโอเหล่านี้ตอบความต้องการของผู้บริโภคได้ขึ้นมา โดยมากวิดีโอในรูปแบบนี้จะมีความยาวตั้งแต่ 1 นาทีขึ้นไปจนถึง 3-4 นาทีได้ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งข้อดีที่มีระยะเวลายาวแบบนี้ ทำให้สามารถสร้างสรรค์เรื่องการเตรียมข้อมูลที่จะใส่เหล่านี้ทำได้ง่ายขึ้น แต่ความยากคือการที่จะต้องรักษาคนดูเหล่านี้ให้ดูจนจบได้

ทั้งนี้การเข้าใจพฤติกรรมทั้ง 3 แบบนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะในยุคที่ผู้บริโภคดูเนื้อหาผ่านมือถือนี้ จะทำให้สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่ถูกต้อง สามารถส่งไปยังที่ถูกที่ และสำคัญถูกช่วงเวลาในการดูได้ ทำให้ประสิทธิภาพการสร้างสรรค์วิดีโอนั้นจะมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นก่อนจะทำวิดีโอครั้งถัดไปจงลองคิดว่าวิดีโอนั้นจะเข้าไปตอบสนองการดูแบบไหนของผู้บริโภค


  • 44
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ