Idea ไม่ใช่ไอเสียที่จะปล่อยออกมาง่ายๆ หลายคนคงอยากคิด idea ให้ออก จะได้เอามาเพิ่มคุณค่า (value added) ให้กับสิ่งที่ทำอยู่ อยากแตกต่าง อยากนอกกรอบ มันเท่ว่างั้นเถอะ แต่ความคิดครีเอทีฟพวกนี้มันก็ไม่ได้เบ่งออกมาง่ายเหมือนขี้ คิดกี่ทีๆ ก็ตัน ยิ่งคิดยิ่งเครียด
ข้อห้ามที่ต้องจำใส่ใจไว้คืออย่าคิดแค่ idea ปลายทาง แบบไม่มีที่มาที่ไป รับรองหาทางออกไม่เจอ มันต้องเริ่มต้นจาก concept อืมม…ถ้าให้อธิบายเชิงวิชาการอย่างที่เคยสอนในมหาวิทยาลัยคงต้องร่ายยาวหลาย ชม. งั้นแบบลัดแล้วกัน ลองนึกถึงเวลาถามเพื่อนๆ ว่าอยากกินอะไร จะได้เลือกร้านถูก ถ้าเจอคำตอบว่า ‘อะไรก็ได้’ แทบไปต่อไม่ถูกเลยใช่มั้ย
งั้นลองไล่ถามดูว่าชอบอาหารแนวไหนล่ะ แนวแซ่บ แนวเหลา แนวฟาสต์ฟู้ด หรือแนวซดร้อนๆ ถ้าเลือกแนวซด ทีนี้ก็หาไอเดียได้ง่ายละ จะชาบู จิ้มจุ่ม สุกี้ โจ๊ก หรือข้าวต้ม ดังนั้น concept ที่หลายคนแปลว่าแนวคิด ลองใช้เป็นว่า…แนว(ให้)คิด ให้คิดหา idea ได้ง่ายขึ้น
ส่วนโต๊ะทำงานนั้นคือสถานที่อันตรายสุดต่อความคิดสร้างสรรค์ คือถ้าจมปลักอยู่กับที่เดิมๆ ใช้ชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวัน คงหาแรงบันดาลใจมากระตุ้นให้ปิ๊ง idea ออกมาได้ยาก เสมือนมีวิถีชีวิต routine มาเป็นกรอบกั้นไม่ให้คิดนอกกรอบ
ฉะนั้นถ้าไอเดียตัน ให้หยุดคิดเลย ห้ามฝืนคิดต่อเด็ดขาด สมองจะล้าซะเปล่า ลองออกไปหาที่ใหม่ๆ ฮิตสุดก็คงเป็นห้องน้ำ หรือผับชิลล์ๆ อย่างผมชอบอินดี้นั่งคิดงานบนรถเมล์ หรือในโรงหนัง เบื้องหลังมีว่าถ้าสายตาเราเห็นอะไรหลากหลายในเวลาสั้นๆ ขณะที่ในหัวเรามี concept พอมีอะไรบางอย่างผ่านตาแล้ว match กับแนวคิดที่มีอยู่ในหัว ณ วินาทีที่ idea ผุดออกมานั้น มันคือการ ‘ปิ๊ง’ (ฟีลเดียวกับอาร์คีมีดีสลงอ่างจนน้ำล้น แล้วแหกปากร้องว่า…ยูเรก้า นั่นเอง)
เทียบได้ประมาณ The Incubation Effect ที่ Graham Wallas นักจิตวิทยาชาวอังกฤษนำเสนอเอาไว้ตั้งแต่ปี 1926 ใครที่เคยเรียนวิชาครีเอทีฟมาน่าจะคุ้นตาบ้าง คงไม่ต้องสนทฤษฎีอะไรนัก ไอเดียครีเอทีฟทั้งหลายมันก็คือความว่างเปล่ารายล้อมรอบตัว จากสิ่งที่เหมือนว่าจะด้อยค่าไร้ราคาราวขี้ หากเรารู้จักปรุงแต่งให้มันแตกต่างจากของคนอื่นๆ ต่อให้คุณไม่ได้ทำงานเป็นครีเอทีฟ แต่อย่างน้อยก็คิดอย่างครีเอทีฟเป็น
เขียนโดย กิตติกร อนุเธียร
Expertise: Creative & Content
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com