NeuroPreneur™ พลิกตำราสู้กับ AI : Part I

ในโลกธุรกิจและการตลาดมีความเปลี่ยนแปลงเป็นพลวัตร หลักการหรือทฤษฎีการตลาดย่อมมีการผันแปลตามกาลเวลา ใครจะเชื่อว่ายอดขาย ทีวีตกต่ำ เพราะผู้บริโภคหันมาดู VDO Content กันทาง Smart Phone จนผู้ผลิตโทรทัศน์ เลิกขายคุณสมบัติและเทคโนโลยีโทรทัศน์ แต่เอามาขายในฐานะ เครื่องประดับภายในบ้าน

ล่าสุดมีน้องที่ทำงานจะไปเรียนปริญญาโท Digital Marketing, ผู้เขียนจึงถามไปว่า เรียนอะไรบ้าง หนึ่งในหลักสูตรก็มี Marketing Management ของปรมาจารย์ Phillips Kotler โอโห้ น้องรู้รึเปล่า First Edition ของ Marketing Management คือ ปี 1984 พี่ไม่ได้บอกว่าหนังสือ Marketing Management นั้นไม่ใช่ว่าไม่ดีใช้การไม่ได้ จาก 4P ก็วิวัฒนาการ เป็น 4C หรือ 7P ในบางองค์กรของบ้านเราในยุคหนึ่ง คำถามที่นึกขึ้นในใจคือ เราจะเรียนรู้ศาสตร์ขององค์ความรู้เก่า ไปแข่งขันกับโลกยุค Disruption ได้อย่างไร ในเมื่อใครๆ ก็มีองค์ความรู้ที่เหมือนๆ กัน

ลองจินตนาการว่าระบบการศึกษาเก่าๆ เรียนจบออกมาแล้วจะไปแข่งขัน กับ AI (Artificial Intelligent) หรือ Robot ได้อย่างไร ในเมื่อเราสามารถใส่องค์ความรู้เก่าๆ เข้าไปให้ Robot ประมวลผลออกมาได้เหมือนกัน หรือ อาจจะทำๆ ได้ดีกว่าที่มนุษย์จะทำได้ เพราะมันไร้ซึ่งอารมณ์ อันเป็นเหตุแห่งความผิดผลาด

ล่าสุดที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ย่านแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร หุ่นยนต์พยาบาลทำงานมาครบ 1 เดือนแล้ว หน้าที่ของเธอ คือลำเลียงเอกสารไปตามเส้นทางที่กำหนด

“ไม่รับเงินเดือน ไม่ประท้วง ไม่ขี้เมาท์” นี่อาจเป็นคุณสมบัติเด่นของหุ่นยนต์ ที่จะเข้ามาแทนที่คน ในหลายๆ กิจการ

แล้วผู้ประกอบการหรือนักการตลาดรุ่นปัจจุบัน จะ Evolve ตัวเองไปกับโลก Disruption ยุคปัจจุบันและอนาคต ด้วยองค์ความรู้อะไร อะไรคือความต่างระหว่าง Data Analytic / Theory / Physical Knowledge ระหว่างคนรุ่นใหม่ กับ AI ในเมื่อสมองคนไม่อาจจะประมวลผมได้แม่นยำเทียบเท่ากับ Robot

แน่นอนจุดเด่นของ AI คือไม่มี Emotional ดังนั้นจุดเด่นของ Marketeer และ Entrepreneur รุ่นใหม่คือเข้าใจ Emotional ของผู้บริโภคได้ดีกว่า AI จึงเป็นที่มาของการศึกษาเรื่อง NeuroMarketing ที่นำเอาศาสตร์ NeuroScience มาวิเคราะห์การทำงานของสมองผ่านเครื่องมือscan MRI จนค้นพบว่า

การใช้ภาพเด็ก จะเป็นที่สนใจและจดจำมากกว่า TEXT ทั่วไป

สื่อโฆษณา ณ จุดขาย ดึงดูดสายตาและความสนใจได้เพิ่มขึ้น

NeuroScience และ Neuro Marketing ถูกนำมาใช้ในแวดวง Research ในยุค Digital

แล้วสำหรับนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ Entrepreneur ในยุค Disruption ล่ะจะใช้องค์ความรู้ใดออกมาแข่งขันกับ โลกที่นับวันจะ Seamless เข้าไปทุกวัน
ล่าสุดผู้เขียนไปเจอ Article นึงใน FORBES ว่าด้วยเรื่อง NeuroPreneur™ โดย Dr. James Nitit Mah ว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (Entrepreneur) ต้องมีความเข้าใจใน Consumer Mind ที่เป็น Default ของ Consumer Algorithm ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต Algorithm of Need and Want เหล่านี้ของมนุษย์ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัยก็ยังคงอยู่ตลอดกาล

ดังนั้นความเข้าใจใน Default เกี่ยวกับ Algorithm เหล่านี้จะกลายเป็นแกนหลักของธุรกิจในอนาคตอย่างมากเลยทีเดียว และนั่นทำให้เขาเสนอเครื่องมือที่เรียกว่า NeuroMerge™