ตอนนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาของ Metaverse หรือ จักรวาลนฤมิต โดยแท้จริงก็ว่าได้ หลังจากบริษัททั่วโลกต่างออกโรงสนับสนุนแนวทางนี้ และกำลังจะทุ่มเทให้กับโปรเจคนี้ อาจเพราะกลัวว่าจะตกขบวนกัน
สำหรับประเทศจีนเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ล่าสุดบริษัท Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีและเทคโนโลยีของจีน เป็นอีกหนึ่งหัวหอกแถวหน้าที่จะตะลุยโปรเจคนี้ให้ได้ โดยคาดว่าจะอยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลจีน เพื่อแข่งขันกับซิลิคอนวัลเลย์ ของสหรัฐอเมริกาที่จริงจังกับเรื่องนี้เช่นกัน แล้ว Tencent จะทำอะไร
Metaverse ของจีนที่อาจแตกต่าง
ไม่นานมานี้ Martin Lau (มาร์ติน เลา) ประธานบริษัท Tencent ออกมากล่าวยอมรับว่า Metaverse ของจีนอาจจะมีแนวทางที่แตกต่างไปจากของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
จุดสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ Metaverse ของพวกเขาจะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งาน เพียงแต่ก็จะอยู่ภายใต้การดูแลตามข้อกำหนดของรัฐบาลจีน ซึ่งก็น่าจะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทำให้รัฐบาลจีนหนุนหลังโปรเจคนี้
การแข่งขันกับ Alibaba
แน่นอนว่า คู่แข่งสำคัญของ Tencent คือ บริษัท Alibaba ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ของจีนที่มุ่งมั่นมากกับการแข่งขันในตลาดของ Metaverse ก็ไม่ยอมที่จะตกขบวนนี้ด้วย ดังนั้นจึงมีการเร่งยื่นขอเครื่องหมายการค้าในนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะมีความเกี่ยวข้องกับ Metaverse ที่จะพัฒนากันต่อไป
ส่วนที่น่าจับตามองมากก็คือ Taobao Metaverse แพลทฟอร์มหลักของบริษัท Alibaba ที่ถูกปั้นจะให้กลายเป็นเสาหลักในการแข่งขัน ตามด้วย DingDing Metaverse ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแชทออนไลน์ของจีน
การเคลื่อนไหวของ Tencent
ด้านบริษัท Tencent ก็ไม่ยอมแพ้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา พวกเขาได้มีการยื่นขอเครื่องหมายการค้าไปมากกว่า 100 รายการ ได้แก่ QQ Metaverse, QQ Music Metaverse และ Kings Metaverse
อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายมองว่า Tencent น่าจะได้เปรียบมากกว่า เพราะพวกเขาอยู่ในธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับ Metaverse อยู่แล้วตั้งแต่แรก และน่าจะได้ประโยชน์ในการใช้งานมากกว่าด้วย นั่นคือกลุ่มของแพลทฟอร์มเกมออนไลน์ ดนตรี สตรีมมิ่ง
แต่จะประมาทก็ไม่ได้ เพราะมีอีกหลาย บริษัทด้านเทคโนโลยีอื่นของจีนที่เริ่มมองหาโอกาสและการขอยื่นเอกสารเพื่อจดเครื่องหมายการค้า เกี่ยวข้องกับ Metaverse แล้วเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Kuaishou และ iQiyi
ในปัจจุบัน Tencent ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส มากกว่า 20 รายการด้วยกัน
โอกาสลงทุน หรือจะเป็นเม่า?
มีการวิเคราะห์กันจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับทิศทางของ Metaverse ว่าอาจเป็นเพียงกลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่งที่ Facebook ชูขึ้นมา รวมถึงการประดิษฐ์คำเพื่อปั่นโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ตามแนวทางการใช้ Metaverse สำหรับต่อยอดธุรกิจและสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ดูเหมือนจะยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควรนัก นอกจากในวงการเกม สตรีมมิ่ง และเทคโนโลยี VR
มีหลายฝ่ายเริ่มมองหาโอกาสที่จะลงทุนและเก็งกำไรในธุรกิจนี้ แต่ต้องระวังให้ดี อย่าได้กลายเป็นเม่าติดดอยครับ
ข้อดีของ Metaverse
อย่างไรก็ตาม ข้อดีมาก ๆ ของเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงนี้ก็คือมันมีโอกาสที่จะช่วยลดความเป็นเจ้าของผูกขาดขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือเป็นกระบวนการ Decentralized ที่ดูเหมือนว่ากำลังได้รับความนิยมจากหลายธุรกิจในโลก หนึ่งในนั้นเช่น คริปโต ที่หลายคนเข้ามาลงทุนในบิทคอยน์ และเหรียญต่าง ๆ ซึ่งหลายคนก็ต้องระวังกันให้ดี
อีกข้อสำคัญคือ มันจะได้มีประโยชน์มากแน่ ๆ สำหรับการ เชื่อมต่อโลกเข้าด้วยกัน ในยุคสมัยที่โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก พลังของการสื่อสารผ่านช่องทางแพลทฟอร์มและช่องทางพิเศษต่าง ๆ ย่อมมีประโยชน์มากขึ้นทุกวันแน่นอน
สรุปแล้ว Tencent เป็นอีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่น่าจะได้ใช้ประโยชน์จากการพัฒนาและเข้าสู่ Metaverse อย่างเต็มตัวแน่ น่าจับตามองอย่างยิ่งครับ
-advanced-new-gaming
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com
