ว่ายฝ่าวิกฤติธุรกิจ: เมื่อคลื่นยักษ์ถาโถม เราจะเอาตัวรอดแบบปลาชนิดไหน?

  • 135
  •  
  •  
  •  
  •  

เผลอแปปเดียวตอนนี้เข้าโค้งสุดท้ายของปีแบบที่หลายๆคนไม่ทันตั้งตัว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปีนี้สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเรามากที่สุดทั้งในชีวิตประจำวันและในเชิงธุรกิจ โควิด 19 ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนทั้งโลกแบบกะทันหันจนรับมือกันแทบไม่ทัน ในระยะสั้นเราได้เห็นการต่อสู้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆมากมายเพื่อให้ธุรกิจรอดจนถึงวันที่การระบาดสิ้นสุดลง มาถึงตอนนี้สิ่งที่ต้องคิดกันต่อไม่ใช่แค่การวางแผนรับมือระยะสั้นอีกต่อไป แต่เป็นการวางทิศทางให้กับธุรกิจในระยะยาว Head100 company ในฐานะนักการตลาดและนักสร้างแบรนด์ขอหยิบประเด็นที่น่าสนใจของการเอาตัวรอดผ่านเรื่องราวของปลา 4 ชนิด มาเติมแรงบันดาลใจให้ทุกธุรกิจฝ่าวิกฤตินี้ไปได้อย่างสวยงาม

ว่ายฝ่าวิกฤติ: เมื่อคลื่นยักษ์ถาโถม เหล่าปลาในมหาสมุทรเอาตัวรอดกันอย่างไร
ว่ายฝ่าวิกฤติ: เมื่อคลื่นยักษ์ถาโถม เหล่าปลาในมหาสมุทรเอาตัวรอดกันอย่างไร

เมื่อคลื่นโควิดซัดมา เหล่าปลาเอาตัวรอดกันอย่างไร

การเอาตัวรอดในวิกฤติครั้งนี้แน่นอนว่าทุกองค์กรไม่สามารถใช้กลยุทธ์เดียวกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันได้ เนื่องจากผลกระทบของแต่ละองค์กรแตกต่างกันเราจึงเห็นวิธีเอาตัวรอดในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพแบบง่ายๆ องค์กรต่างๆอาจเปรียบได้กับปลาในมหาสมุทรที่เมื่อคลื่นยักษ์พัดเข้ามาอย่างถาโถม ปลาแต่ละชนิดก็มีวิธีการเอาตัวรอดที่แตกต่างกัน ดังนั้นคำถามที่ดีไม่ใช่ปลาตัวไหนที่จะรอดจากวิกฤติครั้งนี้ แต่ปลาแต่ละตัวจะเอาตัวรอดด้วยวิธีแบบไหนคือสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า แล้วคุณล่ะคิดว่าตัวเองเป็นปลาประเภทไหน…

1. Rescale แบบโลมา คลื่นยิ่งสูงยิ่งไปได้ไกล

ในวิกฤตกาลครั้งนี้แน่นอนว่ามีธุรกิจนับไม่ถ้วนที่ได้รับผลกระทบจนบาดเจ็บสาหัส แต่ในทางกลับกันยังมีหลายธุรกิจที่โควิดไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบเชิงลบ แต่ยิ่งเป็นโอกาสส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้ดีกว่าในสถานการณ์ปกติ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน เช่น เครื่องเกมส์ Nintendo switch ที่ขายดีจนขาดตลาดในหลายประเทศ หรือ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรีย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เปรียบได้กับโลมาที่ถึงคลื่นจะมาแรงเพียงใดก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อสิ่งมีชีวิตที่รักการโต้คลื่นเป็นชีวิตจิตใจ ในทางกลับกันเมื่อคลื่นมา ยิ่งส่งเสริมให้โลมาว่ายน้ำได้ไกลและเร็วกว่าเดิม

Rescale แบบโลมา คลื่นยิ่งสูงยิ่งไปได้ไกล

ต่อยอดอย่างโลมา

ถึงกระแสน้ำจะเป็นใจแค่ไหน แต่ถ้าไม่ว่ายต่อยังไงก็ไร้ประโยชน์ ตรงกับสำนวนที่เราคุ้นหูกันดีว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก ธุรกิจที่รุ่งเรืองในช่วงวิกฤติก็ไม่ควรหยุดนิ่งเพียงเพราะทุกอย่างเป็นใจเช่นกัน ในทางกลับกันควรต่อยอดเพื่อให้สิ่งที่ดีอยู่แล้วไปได้ไกลกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น Zoom แพลตฟอร์มให้บริการประชุมออนไลน์ระดับโลกที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงล็อคดาวน์ จากผู้ใช้งานประจำ 10 คนต่อวันพุ่งเป็น 300 คนต่อวันภายในไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในเวลาอันสั้น Zoom จึงยังมีข้อบกพร่องบางประการที่ทำให้การใช้งานติดขัด โดยปัญหาหลักคือความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน แต่ Zoom ไม่ปล่อยให้ปัญหานี้สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้บริโภคนาน รีบปรับปรุงระบบอย่างเร่งด่วนโดยเน้นที่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นยังลงทุนกับระบบเพื่อยกระดับประสบการณ์ให้การประชุมออนไลน์ผ่านโลกเสมือนจริงสะดวกและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย เช่น จับมือกับ Oracle พัฒนาระบบ Cloud เก็บข้อมูล รองรับการใช้งานใหม่ๆ อีกทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นด้านวีดีโออีกมากมาย โดยปัจจุบันผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Zoom มีมากมายหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ การศึกษา หรือการใช้งานทั่วไปของผู้บริโภคในยุคหลังโควิด และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกในอนาคต

2. Rethink แบบแซลมอน ว่ายทวนน้ำ โตสวนกระแส

วิกฤตกาลครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในรูปแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่บางทีโซลูชั่นเดิมๆที่เคยใช้แล้วประสบความสำเร็จในอดีต นำมาปัดฝุ่นใหม่แล้วไม่เห็นผลอย่างที่คิด เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ การคิดสิ่งใหม่ คิดให้แตกต่างดูจะเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว โดยในช่วงวิกฤติเราได้เห็นรูปแบบของธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย หลายองค์กรหลุดออกจากกรอบเดิมๆ กล้าทำในสิ่งที่ธุรกิจประเภทเดียวกันไม่มีใครทำเพื่อเปลี่ยนวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส เหมือนอย่างปลาแซลมอนที่บางทีต้องว่ายทวนน้ำสวนกับปลาตัวอื่นๆเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย เพราะถ้ายังฝืนตามน้ำวางไข่กลางแม่น้ำใหญ่ อนาคตของแซลมอนรุ่นใหม่ไม่มีทางเกิดแน่นอน อย่างคำที่ว่าไอเดียที่ดีที่สุดมักจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงสุดๆนั่นเอง

Rethink แบบแซลมอน ว่ายทวนน้ำ โตสวนกระแส

แตกต่างอย่างแซลมอน

นาทีนี้ถ้าโซลูชั่นเดิมๆใช้ไม่ได้ผล สิ่งที่ดีที่สุดคือการคิดให้แตกต่างอย่างแซลมอน ในเมื่อคลื่นซัดจนเรามองเห็นหนทางที่จะไปต่อไม่ชัด ต้องลองคิดต่างหาวิธีว่ายสวนทาง ตัวอย่างเช่น ธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงจากการล็อคดาวน์ ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเจ็บหนักสาหัสแม้กระทั่งพระราชวังในสหราชอาณาจักรเองก็ไม่เว้น ในเมื่อนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมพระราชวังไม่ได้ ก็ยกบรรยากาศและกลิ่นอายของพระราชวังเสิร์ฟให้ถึงที่ซะเลย โดยพระราชวัง บัคคิงแฮมได้วางจำหน่ายจินสูตรพิเศษภายใต้แบรนด์ Buckingham Palace Gin พร้อมระบุวิธีผสมค็อกเทลสูตรลับที่ควีนอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสวยทุกวันให้ทุกคนได้ดื่มด่ำ ความพิเศษคือวัตถุดิบที่ใช้ล้วนมาจากธรรมชาติภายในพระราชวังทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ เครื่องเทศ หรือสมุนไพร จนเกิดเป็นจินที่รสชาติมีเอกลักษณ์ลงตัวและมีกลิ่นอายของพระราชวังบัคกิงแฮมชัดเจนที่สุด ทันทีที่วางจำหน่ายก็มียอดสั่งซื้อถล่มทลายจนคิวการผลิตยาวหลายเดือนเลยทีเดียว

3. Resilience แบบปลาไหล เอาตัวรอดได้เสมอ

ในสถานการณ์ที่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้ามาอย่างหนักเช่นนี้ เราได้เห็นการต่อสู้ของธุรกิจต่างๆในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อเอาตัวรอด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่ได้รับผลกระทบทันทีจนแทบตั้งตัวไม่ทัน หรือองค์กรที่อาจจะรุ่งในช่วงแรกๆแต่เจอปัญหาให้ต้องแผ่วลงในช่วงต่อมา อาจมีความไม่แน่นอนมากมายเข้ามาท้าทายให้ต้องรับมือตลอด แต่องค์กรเหล่านี้ก็หาวิธีแก้ไขให้ธุรกิจปัจจุบันที่ทำอยู่รอดมาได้อย่างสวยงาม เช่นการปรับตัวให้เข้ากับยุค New normal หากจะเปรียบกับปลา องค์กรเหล่านี้เปรียบได้กับปลาไหลที่ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอย่างไร ถึงแม้จะมีช่วงขาขึ้นขาลง แต่ก็สามารถดิ้นหลุดจากอุปสรรคนั้นๆได้ทุกครั้ง อย่างสำนวนคลาสสิคของไทย ‘ลื่นเหมือนปลาไหล’ นั่นเอง

Resilience แบบปลาไหล เอาตัวรอดได้เสมอ

ตอบโต้ให้ไหลลื่นเหมือนปลาไหล

ไม่ว่าเหตุการณ์จะมีขึ้นมีลงบ้าง หรืออุปสรรคจะเข้ามาท้าทายแค่ไหน เราแค่ต้องตั้งสติและหาไอเดียดิ้นให้หลุดเหมือนปลาไหลเพื่อพาให้ธุรกิจปัจจุบันอยู่รอด ตัวอย่างเช่น บริษัท Yum China Holding เจ้าของร้านฟาสต์ฟูดชื่อดังอย่าง KFC และ Pizza Hut ในประเทศจีนที่ประสบปัญหาสาขาจำนวนมากไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังยากต่อการควบคุม บริษัทจึงต้องปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็วเพื่อเอาตัวรอด ในเมื่อลูกค้าไม่เข้าก็ต้องไปหาลูกค้าถึงที่ โดย KFC มุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าองค์กร เปิดบริการพิเศษให้พนักงานสามารถสร้างสรรค์เมนูได้ตามงบประมาณที่จำกัดในแต่ละวัน และ Pizza Hut เปิดบริการส่งตรงวัตถุดิบสดๆพร้อมวิธีปรุงอย่างละเอียดถึงบ้าน ช่วยให้ยอดขายสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้ในช่วงวิกฤตกาลครั้งนี้

4. Reallocate แบบทูน่า เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

ส่วนการเอาตัวรอดรูปแบบสุดท้าย คือการเอาตัวรอดของกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาด เมื่อกิจการบางอย่างเดินทางมาถึงทางตันจนไม่เห็นหนทางที่จะไปต่อได้ในอนาคต องค์กรอาจต้องยอมตัดใจลดทอนหรือล้มเลิกธุรกิจที่ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลักดันให้ไปต่อ เพื่อท้ายที่สุดแล้วจะได้โฟกัสกับโอกาสใหม่ๆที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตต่อไปในอนาคตได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับปลาทูน่า ที่มีความพิเศษคือเป็นปลาที่มักย้ายถิ่นฐานบ่อย เมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิที่ไม่เป็นใจ ทูน่ายอมตัดใจละทิ้งถิ่นที่อยู่เพื่อตามหาน่านน้ำใหม่เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีกว่า

Reallocate แบบทูน่า เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

ตัดทอนเพื่อเติบโตอย่างทูน่า

เมื่อธุรกิจที่ทำอยู่มองไม่เห็นหนทางที่จะเติบโตต่อได้ บางครั้งองค์กรก็ต้องยอมตัดทอนให้ความสำคัญกับธุรกิจดังกล่าวลดลง เปลี่ยนโฟกัสอย่างทูน่าที่ยอมย้ายถิ่นฐานเพื่อว่ายไปยังที่ๆเติบโตได้ดีกว่า ตัวอย่างธุรกิจที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็นธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้ กลุ่มธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลักอย่างสายการบินก็ต้องพบกับศึกหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงบริษัทสายการบิน 2 สัญชาติชื่อดังอย่าง นกสกู๊ต ด้วยเช่นกัน เมื่อผลประกอบการถดถอยลงเรื่อยๆประจวบเหมาะกับช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้หนทางข้างหน้ายิ่งมีแต่ความยากลำบาก นกสกู๊ตจึงถือโอกาสโบกมือลาน่านฟ้าอย่างเป็นทางการ ปิดตำนานสายการบินระหว่างประเทศราคาประหยัด ส่วนบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินกิจการสายการบิน นกแอร์ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของนกสกู๊ตก็ได้โอกาสกลับมาโฟกัสการบริหารงานของนกแอร์อย่างเต็มตัวอีกครั้ง เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติกาลครั้งนี้

เรื่องราวของปลาทั้ง 4 ตัว ทิ้งข้อคิดที่น่าสนใจให้เราอย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าจะเป็นปลาชนิดไหน จะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ไม่สามารถรอดจากวิกฤตินี้ไปได้เลยถ้าไม่ปรับตัว หากโลมาไม่ว่ายเพื่อให้ไปได้ไกล คลื่นที่ช่วยพัดให้สูงขึ้นก็ไร้ประโยชน์ หากแซลมอนไม่ว่ายทวนน้ำอาจถูกกระแสน้ำพัดจนไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ หากปลาไหลไม่ตอบโต้อย่างไหลลื่นคงไม่สามารถเอาตัวรอดได้ทุกครั้ง และสุดท้ายหากทูน่าไม่ตัดใจย้ายถิ่นฐานคงไม่เจอแหล่งน้ำใหม่ที่ดีกว่า เหมาะแก่การเจริญเติบโตอย่างแท้จริง ธุรกิจเองก็เช่นกัน ไม่ว่าผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะเป็นผลดีหรือผลเสีย หากรอให้เวลาผ่านไปเฉยๆไม่ทำการปรับตัวอาจไม่สามารถผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ไปได้อย่างสวยงาม


  • 135
  •  
  •  
  •  
  •