เปิดความลับนวัตกรรมกล่องเครื่องดื่ม 8 เหลี่ยม ที่ซ่อนน้ำขิงพร้อมดื่มไว้ข้างใน ครั้งแรกของไทย

  • 3.2K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในยุคที่วิถีชีวิตไม่ต้องเร่งรีบและเผชิญความเสี่ยงจากโรคระบาดขนาดนี้ ผู้คนอาจใช้เวลาและพิถีพิถันกับการเลือก Everyday Drink เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน…ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ Ready To Drink จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีที่สุดในช่วงเวลานี้ ยิ่งเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ยิ่งกลายเป็นเมนูที่โดดเด่นในสายตาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

ประเด็นนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่จุดไอเดียให้บริษัท นิวคอนเซพท์ โปรดัคท์ จำกัด (NCP)  เลือกต่อยอดความสำเร็จจากเครื่องดื่มขิงผง HOTTA สู่โฉมใหม่ของเครื่องดื่มขิงบรรจุกล่องพร้อมดื่ม HOTTA Ginger Cool รสขิงผสมน้ำผึ้งมานูก้า และ HOTTA Fusion Cool รสขิงผสมน้ำมะนาว กับครั้งแรกของนวัตกรรม Tetra Prisma® Aseptic 250 Edge DreamCap™ 26 ที่บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจรแก่ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ เป็นผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนด้านกระบวนการการผลิตและบรรจุ รวมถึงบรรจุภัณฑ์สินค้าดังกล่าว

แน่นอนว่าในแง่สินค้า ถือว่า HOTTA ได้เปิดมิติใหม่ให้ตลาดเครื่องดื่มขิงในประเทศไทย จากแบบชงร้อนเป็นแบบเย็นชื่นใจพร้อมดื่มที่อยู่ในกล่อง แต่ในมุมบรรจุภัณฑ์ สำหรับเต็ดตรา แพ้คเองนั้น ก็ถือเป็นสิ่งใหม่เช่นกัน เพราะกล่องรุ่น Tetra Prisma Aseptic 250 Edge พร้อมฝาแบบ DreamCap 26 จากดีไซน์ของเต็ดตรา แพ้ค ก็เพิ่งถูกนำเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเช่นกัน โดยประเด็นนี้ Marketing Oops! ได้ฟังไอเดียและคอนเซปต์ที่น่าสนใจจาก คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับกล่อง Tetra Prisma Aseptic Edge นวัตกรรมกล่องทรง 8 เหลี่ยม ที่คิดทุกรายละเอียดมาเพื่อผู้บริโภค จนอดไม่ได้ที่จะถ่ายทอดต่อ ให้ผู้อ่านทุกท่านได้รู้ถึงความน่าสนใจไปพร้อมกัน…

 

 

เมื่อ ‘น้ำขิง’ ถูกใส่ในนวัตกรรมกล่อง กับไอเดียเปลี่ยนเผ็ดร้อน เป็นเย็นอร่อยชื่นใจ

 

 

คุณสุภนัฐ เล่าถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า จากประสบการณ์ที่ยาวนานของเต็ดตรา แพ้ค ทั้งการทำงานในเครือข่ายกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และมากกว่า 40 ปีในประเทศไทย ที่ทำงานร่วมกับลูกค้าในลักษณะพาร์ทเนอร์ทางการค้า ร่วมกันทำความเข้าใจในสินค้าหลากหลายประเภททั้งเครื่องดื่มและอาหาร จึงเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันเพื่อพัฒนา ต่อยอดสินค้า และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งความร่วมมือกับบริษัท NCP จึงไม่ใช่ครั้งแรกในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มสุขภาพ แต่ถือเป็นครั้งแรกในกลุ่มเครื่องดื่มเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของเต็ดตรา แพ้ค หลังจากอยู่เบื้องหลังกลุ่มเครื่องดื่มหลักอย่างนม นมถั่วเหลือง นมทางเลือก และน้ำผลไม้ ในประเทศไทย สะท้อนถึงการมุ่งรักษาคุณประโยชน์ของเครื่องดื่มให้ครบถ้วนมากที่สุดสำหรับผู้บริโภค

“เมื่อพูดถึงน้ำขิง คนส่วนใหญ่จะนึกถึงภาพผง น้ำร้อน ความเผ็ด ต้องอยู่บ้านหรือออฟฟิศถึงจะสะดวกต่อการดื่ม แต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ HOTTA Cool ถือเป็นการพลิกภาพน้ำขิงพร้อมดื่มได้ดี ทั้งยังเสิร์ฟแบบเย็น ยิ่งเย็นยิ่งอร่อย แต่ขณะเดียวกัน คุณประโยชน์ยังคงอยู่จึงถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวอย่างมาก”

 

 

นอกจากความเชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มขิงแบบผงของ NCP ที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนภาพน้ำขิงให้เป็นแบบพร้อมดื่มเช่นนี้ ก็ถือเป็นความท้าทายของเต็ดตรา แพ้ค ในบทบาทผู้ให้บริการและโซลูชันการผลิต ระบบ UHT ระบบปลอดเชื้อที่ไม่ใช้สารกันบูด และปกป้องผลิตภัณฑ์ข้างในเพื่อคงคุณค่าสารอาหาร จนกลายเป็นน้ำขิงบรรจุกล่องพร้อมดื่ม ซึ่งสามารถคงคุณประโยชน์เอาไว้เช่นเดิม และสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายสู่กลุ่ม Younger Gen ให้เข้าถึงเครื่องดื่มสมุนไพรแบบดื่มง่าย อร่อย พกพาสะดวกขึ้น

 

ครั้งแรกในไทย กับกล่อง 8 เหลี่ยม รุ่นใหม่ ดื่มสะดวก

คุณสุภนัฐ อธิบายคอนเซปต์กล่อง Tetra Prisma Aseptic Edge ว่า กล่องทรง เหลี่ยม Tetra Prisma Aseptic เริ่มต้นใช้งานมาตั้งแต่ปี 2011 แต่บรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ยกระดับเป็น Tetra Prisma Aseptic Edge เริ่มต้นใช้งานในช่วงต้นปี 2018 โดยในอดีตเริ่มต้นที่ไซซ์ 330 มล. จนถึง 1,000 มล.

แต่หลังจากทำการวิจัยและค้นคว้าพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้เต็ดตรา แพ้ค พบว่าขนาดกล่องเป็นเรื่องสำคัญ ไม่แพ้แนวคิด On the go ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นก่อนช่วง COVID-19 สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ผู้คนที่เร่งรีบและใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากขึ้น ดังนั้น เต็ดตรา แพ้ค จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถพกพาและดื่มสะดวก จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของกล่องกระดาษที่ต้องการเน้นรูปทรงบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามและสะดวกต่อการพกพา เพื่อดื่มได้โดยไม่รู้สึกอิ่มจนเกินไปเพียง 2-3 ครั้งก็สามารถดื่มได้หมด

 

 

“Tetra Prisma Aseptic Edge มีรูปทรง 8 เหลี่ยม ดีไซน์ที่ออกแบบมาให้รับกับการหยิบจับถือแล้วรู้สึกเข้ามือมากขึ้น โดยถือเป็นกล่องทรง 8 เหลี่ยมเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย และยังนำมาปรับไซซ์เป็น 250 มล. สำหรับน้ำขิง HOTTA Cool จากปกติจะเริ่มต้นที่ไซซ์ 200 มล. นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบสำคัญอย่างฝาที่เรียกว่า DreamCap 26 ซึ่งให้ประสบการณ์ในการดื่มได้ดีขึ้นโดยออกแบบให้มีลักษณะเป็นแอ่งเล็ก ๆ เพื่อทำให้สะดวกในการยกดื่ม”

อย่างไรก็ตาม Tetra Prisma Aseptic Edge เริ่มใช้งานในประเทศจีนและญี่ปุ่น มาแล้ว 1-2 ปี แต่ในประเทศไทยเพิ่งจะถูกนำมาใช้กับน้ำขิง HOTTA Cool โดยเป็นครั้งแรกทั้งในมุมของกล่องทรง เหลี่ยม และความแปลกใหม่ในผลิตภัณฑ์น้ำขิงพร้อมดื่มแบบเย็นเป็นครั้งแรกด้วย

 

กล่องเครื่องดื่มในอุดมคติ กับคอนเซปต์รักษ์สิ่งแวดล้อม

คุณสุภนัฐ เปิดเผยเบื้องลึกกล่องกระดาษของเต็ดตรา แพ้ค ว่า จากการทำวิจัยอยู่เสมอทำให้เต็ดตรา แพ้ค เห็นว่าเทรนด์การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบกำลังมาแรงทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย ผู้บริโภคมองหาประโยชน์และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากแบรนด์

 

 

“แน่นอนว่าประเด็นนี้ดีทั้งต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม แต่เป็นความท้าทายของผู้ผลิตและแบรนด์เป็นอย่างมาก ซึ่งเต็ดตรา แพ้ค ยังคงพยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์เรื่องดังกล่าว และเชื่อว่าเทรนด์การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ รักษ์สิ่งแวดล้อม เน้นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติที่ทดแทนได้ รีไซเคิลได้ จะเป็นเทรนด์ที่อยู่และคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน”

โดยหากย้อนจุดเริ่มต้นบรรจุภัณฑ์ เต็ดตรา แพ้ค ที่ใช้กระดาษเป็นวัสดุหลักของกล่อง ก็เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ทั้งการใช้ทรัพยากรและพลังงาน ซึ่งแม้ว่าจะใช้กระดาษ แต่เต็ดตรา แพ้ค ก็มีหลักการอย่างชัดเจนว่าต้นไม้ที่นำมาทำกล่องกระดาษนั้น จะต้องเป็นต้นไม้จากป่าปลูกทดแทนเชิงพาณิชย์ตามหลักเกณฑ์ขององค์การจัดการด้านป่าไม้ (FSC™) เพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบอย่างยั่งยืนของเต็ดตรา แพ้ค

 

ทำความเข้าใจ…บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป

คุณสุภนัฐ ทำความเข้าใจกับมุมมองที่ว่าบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมักจำกัดอยู่กับสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ราคาแพง ว่า บรรจุภัณฑ์มีความสำคัญมากเพราะเป็นด่านแรกที่ผู้คนจะจับต้องได้ ในขณะที่สินค้าจะอยู่ภายในเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่สามารถมองเห็นได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นขวดแก้ว กล่องพลาสติก หรือกล่องกระดาษ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นด่านแรก ที่แบรนด์ใช้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคก็รับรู้และให้ความสำคัญกับประเด็นของบรรจุภัณฑ์มากขึ้น และเชื่อว่าอนาคตจะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้บริโภคจะใช้ประกอบการตัดสินใจว่าสินค้าที่เลือกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่

ส่วนประเด็นความพรีเมี่ยม ต้องทำความเข้าใจว่าไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ยกตัวอย่างเต็ดตรา แพ้ค ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนาน 60-70 ปี และพิสูจน์แล้วว่าบรรจุภัณฑ์ของเราสามารถจับต้องได้และใช้อยู่ในหลากหลายประเภทของทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

 

ทั้งนี้ คุณสุภนัฐ ยังเล่าถึงหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรว่า ที่รณรงค์ให้พับกล่องเครื่องดื่มของเราก่อนทิ้งลงถังรับจนกลายเป็นนิสัยกันไปแล้ว คำแนะนำในการทิ้งกล่องอย่างถูกต้องมีหลายวิธีตามความสะดวก แต่วิธีที่ถูกต้องคือการแกะแล้วพับแบนเพื่อไม่ให้กินพื้นที่เวลาทิ้ง หรือหากมีเวลาสามารถตัดแกะล้างก่อนพับ จากนั้นก็รวบรวมแล้วนำไปทิ้งตามจุดรับกล่องที่อยู่ในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่ากล่องเครื่องดื่มจะถูกนำไปรีไซเคิลด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง

“กล่องเครื่องดื่ม 1 กล่องสามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด แต่ความเป็นจริงของกล่องเครื่องดื่มในปัจจุบันอาจยังไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ทั้ง 100% ที่ผลิตออกไป ด้วยความตั้งใจของเต็ดตรา แพ้ค จึงร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ผลิตกล่องเครื่องดื่มรายอื่น เพื่อนำกลับมารีไซเคิลให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราในฐานะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ มั่นใจว่ากล่องเต็ดตรา แพ้ค สามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันสถานที่รับกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วก็มีแพร่หลายขึ้น และยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีกมาก”

 

‘พัฒนา – นวัตกรรม’ หัวใจแห่งความสำเร็จของเต็ดตรา แพ้ค

คุณสุภนัฐ เปิดเผยว่า นวัตกรรมคือหัวใจหลักของเต็ดตรา แพ้ค เชื่อว่าเรายังอยู่ในฐานะผู้นำได้เพราะมีนวัตกรรมออกมาอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้น แต่ละปีจึงมีงบประมาณหลายร้อยล้านยูโร ที่บริษัทแม่ใช้กับส่วนงานที่เรียกว่า หน่วยงานการพัฒนาและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ มองหาโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและผู้บริโภค

โดยชื่อของเต็ดตรา แพ้ค เป็นที่รู้จักในมุมของผู้บริโภคคือนวัตกรรมกล่อง UHT ซึ่งเป็นนวัตกรรมความก้าวหน้าด้านการถนอมอาหารแรก ๆ ที่ถือเป็นการคิดค้นสำคัญที่ได้รับการยกย่องในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในศตวรรษที่ 20 ซึ่งรวมถึงกระบวนการผลิตแบบ UHT และกล่อง UHT ที่เรายังคงต่อยอดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างความแข็งแกร่งด้านอาหารปลอดภัย ทั้งการควบคุมอุณหภูมิ ระยะเวลาที่รวดเร็วในการบรรจุ การฆ่าเชื้อ และใช้ระบบปิดเพื่อบรรจุสินค้าลงในบรรจุภัณฑ์ เพื่อรักษาคุณประโยชน์และป้องกันผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใน

 

 

เปิดเป้าหมาย ‘เต็ดตรา แพ้ค’ กับบทบาทองค์กรที่ไม่หยุดพัฒนานวัตกรรม

คุณสุภนัฐ ย้ำว่า เนื่องจากเทรนด์บรรจุภัณฑ์จะต้องล้อไปกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งในปีนี้จะเน้นไปที่บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แบรนด์จึงจำเป็นต้องกลับมาดูว่าบรรจุภัณฑ์ของตนเองมีส่วนร่วมหรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน ซึ่งในมุมของเต็ดตรา แพ้ค ยังคงคิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ส่วนนี้เสมอและให้ความสำคัญกับการค้นหาโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การมองหาบรรจุภัณฑ์กระดาษที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ไม่ต้องใช้กระดาษฟอยล์ เป็นทรัพยากรทดแทนทั้งหมดจากธรรมชาติ เพื่อเป้าหมายบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนของเต็ดตรา แพ้ค ตามแคมเปญการสื่อสารของเรา Go Nature. Go Carton. 

“เต็ดตรา แพ้ค ให้ความสำคัญกับมุมมองผู้บริโภคตลอดเวลา รวมถึงการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้นและรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรามองรวมทั้งวงจรของการผลิตและบรรจุภัณฑ์ แม้แต่การจัดเก็บกล่องเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมถึงการพัฒนาตัวเองสู่หมวดอาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ เพื่อนำตัวเองออกไปสู่ตลาดใหม่ ๆ ในปีนี้อาจมีความร่วมมือเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ออกมา ยกตัวอย่างเช่น น้ำขิง HOTTA Cool ที่มาในรูปแบบกล่องยูเอชทีพร้อมดื่มเป็นครั้งแรก ซึ่งน้ำขิงถือเป็นสินค้าเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่วนใหญ่อาจอยู่ในรูปแบบอื่น แต่ของเราเป็นกล่องเครื่องดื่ม ก็จะเสริมความโดดเด่นได้มากขึ้นในสินค้ากลุ่มเดียวกัน”

#TetraPakThailand #Innovation # ฮอทต้าคูล #ครั้งแรกของน้ำขิงกล่องพร้อมดื่ม


  • 3.2K
  •  
  •  
  •  
  •