Domino’s Pizza จัดเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีแคมเปญการตลาดแปลกใหม่ให้เราได้ตื่นเต้นเสมอ ล่าสุดแบรนด์แปลงโฉมหน้าการจัดส่งพิซซ่าซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจที่ดูธรรมดาทั่วไปให้กลายเป็นไวรัลบนอินเตอร์เน็ต
ล่าสุด Domino’s Pizza ร่วมมือกับเอเจนซี่ CP+B พัฒนาแอพพลิเคชั่น Domino’s Tracker ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถติดตามออเดอร์พิซซ่าของตัวเองได้และสร้าง “เหตุการณ์” เพื่อนเตือนว่าพิซซ่ากำลังมาส่งแล้ว ตัวอย่างเช่น เมื่อพิซซ่าของคุณถูกส่งเข้าเตาอบแล้ว คุณสามารถตั้งให้เครื่องเล่นเพลงในบ้านคุณเล่นเพลงขึ้นมาได้ หรือเมื่อพิซซ่าออกมาส่งแล้วคุณอาจตั้งให้ไฟหน้าบ้านสว่างหรือทีวีเปิดเอง คุณสามารถสร้างกิจกรรมมากมายตราบที่กิจกรรมเหล่านั้นเชื่อมต่อออนไลน์อยู่
ขั้นตอนที่คุณสามารถสร้างกิจกรรมได้มี 4 ขั้นตอนคือ
1.ออร์เดอร์ถูกเตรียมพร้อมแล้ว
2.ออร์เดอร์เข้าเตาอบแล้ว
3.ออร์เดอร์ถูกส่งออกไปแล้ว
4.ออร์เดอร์มารออยู่หน้าประตูบ้านแล้ว
เทคนิคการตลาดที่ Domino’s Pizza ใช้คือการ Personalised Marketing ซึ่งเป็นเทคนิคสร้างความประทับใจร่วมกับเทคโนโลยีบนโลกออนไลน์ได้ดีที่สุด เพราะโลกธุรกิจทุกวันนี้ทำให้สินค้าและบริการทุกแบบเหมือนๆ กันไปหมด ผู้บริโภครู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ด้วยการ Personalised ทำให้สินค้าและบริการเข้ากับตัวผู้บริโภคได้อย่างพอดิบพอดี
เทคนิคนี้ถือเป็นขั้นสุดที่ดีกว่าของ Targeted Marketing คือไม่เพียงสร้างสินค้าและบริการที่เล็งเป้าหมายเฉพาะแต่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภค “ปรุงแต่ง” บริการที่ตนเองต้องการได้ด้วยตัวเอง ด้วยความยุ่งยากในการสร้างบริการจึงจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์มาช่วยเหลือในการสร้างข้อความส่วนบุคคล สร้างหน้าเพจให้ผู้ใช้เข้ามาปรับแต่งบริการของตัวเองมากกว่าการพัฒนาโปรแกรมเน้นขายของ
ตัวอย่างการใช้งาน Domino’s Tracker แบบใหม่
ธุรกิจแบบไหนที่น่าใช้เทคนิค Personalisation
คีย์หลักของเทคนิคนี้คือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (trust) ให้แก่ผู้บริโภค ดังนั้นธุรกิจที่จะได้รับผลดีมากคือธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือมากตามไปด้วย เช่น
Internet marketing
นอกจากเว็บไซต์ต่างๆ ของคุณจะออกแบบตามสไตล์ของผู้บริโภคแล้ว ข้อมูล ภาพ และเสียงต่างๆ สามารถออกแบบให้ปรับแต่งไปตามประวัติการใช้งานของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น Landing Page สามารถกำหนดให้ปรับเปลี่ยนตามความสนใจ ที่อยู่ และประวัติการซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้ ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้มีดังนี้
1.ชื่อของลูกค้า
2.ช่องทางการใช้งาน (เช่น สมาร์ทโฟน หรือ พีซี)
3.ข้อมูลการใช้งานและการเข้าชมล่าสุดของลูกค้า
Direct mail
คุณจะสร้างความประทับใจได้ดีมากหากขึ้นต้นจดหมายด้วยชื่อ “สวัสดีคุณ XXX” นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้ข้อมูลต่างๆ ของผู้บริโภคเพื่อกำหนดสินค้าที่จะปรากฏบนเมล์และไฮไลท์ว่าอะไรควรมาให้เห็นก่อนหลัง และหากพัฒนาโปรแกรมเฉพาะคุณยังสามารถวัดผลการคลิกผ่านเมล์เพื่อนำมาปรับปรุงจดหมายโฆษณาภายหลังได้ด้วย
Social media marketing
วิธีการ Personalised ได้ผลดีเยี่ยมสำหรับโซเชียลมีเดียเพราะลูกค้าทุกคนอยากเป็นคนพิเศษบนโลกโซเชียล ตอบคำถามพวกเขาแล้วตามด้วยชื่อจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราทำการบ้านมาดี นอกจากนั้นการเก็บสถิติออร์เดอร์ สินค้าที่เขาชื่นชอบ และโพสต์ที่กดไลค์ก็ช่วยให้คุณมีข้อมูลในการแนะนำสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เทคนิคการ Personalisation จะไม่สามารถทำได้เลยหากคุณไม่เคยสำรวจความต้องการและนิสัยใจคอของลูกค้าอย่างจริงจังเพราะแม้คุณจะมีเครื่องมือช่วยเข้าถึงพวกเขาแต่ก็ไม่รู้ว่าสินค้า บริการหรือคอนเทนต์แบบไหนที่พวกเขาต้องการและคุณควรนำเข้ามาเป็นตัวเลือก
Source