แรงงานไทยรั้งท้ายด้านทักษะธุรกิจ การนำเสนอข้อมูล และพัฒนาแอปพลิเคชั่น

เมื่อเร็วๆนี้ Coursera หนึ่งแพลตฟอร์มคอร์สออนไลน์ระดับโลกได้เผยสถิติบน Global Skill Report 2021 เกี่ยวกับระดับทักษะในด้านธุรกิจ ข้อมูล และเทคโนโลยีของแต่ละประเทศ ซึ่งน่าสนใจมาก โดยเฉพาะแรงงานของไทยที่จริงๆแล้วมีศักยภาพแข่งกับประเทศอื่นๆได้ทางเทคโนโลยีและข้อมูล แต่กลับขาดแคลนทักษะด้านธุรกิจ

ทักษะด้านธุรกิจของไทยน่าเป็นห่วง

ไม่น่าเชื่อว่าแรงงานไทยขาดแคลนด้านทักษะทางด้านธุรกิจเมื่อเทียบกับอีกหลายๆประเทศ โดยเฉพาะทักษะทางด้านบัญชีและทรัพยากรมนุษย์ ส่วนทักษะธุรกิจด้านอื่นๆไม่ว่าจะเป็นทักษะการสื่อสาร ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ การเงิน ภาวะผู้นำ การขายและการตลาด ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ถึงจุดที่แข่งขันกับประเทศอื่นได้เลย

เมื่อเทียบกันเพื่อนบ้านในเอเชียอย่างเวียดนามที่โดยรวมแล้ว แรงงานเวียดนามจัดได้ว่าเป็นผู้นำทางด้านทักษะธุรกิจทุกด้าน (เว้นบัญชี) สาเหตุใหญ่เกิดจากเศรษฐกิจของเสียดนามอยู่ในช่วงกำลังเติบโตนับตั้งแตปี 2020 และได้ประโยชน์เต็มๆจากการที่จีนได้เปลี่ยนตำแหน่งของซัพพลายเซนในปีที่ผ่านๆมา

ส่วนแรงงานที่โดดเด่นทางด้านทักษะการเงิน ก็หนีไม่พ้นประเทศมหาอำนาจอย่างจีน ฮ่องกงและสิงคโปร์ที่เป็นฮับการเงินของภูมิภาคอยู่แล้ว ประเทศพวกนี้มีแวดล้อมทางธุรกิจที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเงิน ทำให้มีคนเก่งๆมีชื่อเสียงด้านการเงินเยอะกว่าประเทศอื่นๆในเอเชีย

แรงงานไทยเก่งเลข เก่งจัดการข้อมูล ใช้ Machine Learning เก่ง แต่นำเสนอข้อมูลไม่เก่ง

จาก Global Skill Report 2021 ของ Coursera ก็ตามหัวข้อเลย แรงงานไทยจริงๆแล้วหัวดี มี Data Skill หลายอย่างโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ การจัดการข้อมูล Machine Learning ที่แข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ แต่ขาดทักษะการนำเสนอข้อมูลหรือ Data Visualization เหมือนฟิลิปปินส์ เมียนมาร์

แต่เมื่อมองไปที่ประเทศอื่นอย่างฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน แม้แต่นิวซีแลนต์ แรงงานของประเทศเหล่านี้จัดว่าอยู่แนวหน้าของ Data Science เลย โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่แรงงานของเขานั้นพร้อมมาก เหตุผลคือประเทศพวกนี้ลงทุนเรื่องของ AI อย่างต่ำ 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อแย่งความเป็นผู้นำด้าน AI

ส่วนญี่ปุ่นนั้น ทักษะทางด้านข้อมูลก็โดดเด่น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุ ข้อมูลทางด้านสุขภาพของคนญี่ปุ่นมีอยู่ในระบบเยอะมาก แถมต้นทุนด้านการดูแลคนสูงอายุก็สูง ญี่ปุ่นจึงมีการลงทุนด้าน Digital Transformation กับสาธารณสุขอยู่เยอะ ทำให้ญี่ปุ่นมีแรงงานที่เก่งทักษะข้อมูลอยู่เยอะ

ทักษะ Cloud Computing ไทยโดดเด่นไม่เป็นรองใคร

แต่ก็ยังมีเรื่องให้น่าดีใจ เมื่อทักษะทางด้านเทคโนโลยีอย่าง Cloud Computing นั้น แรงงายไทยไม่ได้เป็นรองใครเลย ทักษะเทคโนโลยีอื่นๆอย่าง Computer Networking, Databases และการพัฒนาเว็บไซต์ (Web Development) นั้น แรงงานไทยจัดว่าแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ มีแต่ทักษะ Mobile Development และ Operating System ที่ไทยยังขาดแคลนอยู่ แต่โดยรวมแล้วแรงงานไทยกำลังมีทักษะด้านเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ทีนี้มาดูประเทศอื่นๆอย่างอินโดนิเซียที่จัดว่าเป็นผู้นำด้าน Cloud Computing ยืนหนึ่งในเอเซียเลย ทั้งนี้เพราะอิโดนิเซียมีการลงทุนด้านนี้เยอะมากไม่ว่าจะมาจาก Ailbaba Cloud, Amazon Web Service ที่ต้องการให้อินโดนิเซียเป็นศูนย์กลางข้อมูล (Data Center) ในปี 2022, Google Cloud Platform ก็เข้ามาในอินโดนิเซียแล้วเมื่อปี 2020

ส่วนญี่ปุ่นที่เป็นผู้นำด้านนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในโรงงานและหุ่นยนต์อยู่แล้ว แถมมีการลงทุนด้าน Quantum Computing ต่อเนื่องมาเรื่อยๆอยู่แล้ว ก็ต้องมีแรงงานที่มีทักษะเทคโนโลยีที่โดดเด่นหลายตัวเช่น Cloud Computing, Computer Networking, Computer Programming, Computer Science Theory และ Web Development ตามมาด้วยแรงงานของสิงคโปร์และเวียดนามที่พัฒนาทักษะเทคโนโลยีตามมาติดๆ

ที่น่าตกใจคือทักษะด้านเทคโนโลยีของแรงงานจีนยังเด่นแค่ Databases กับ Computer Science Theory เท่านั้น ตาม Global Skill Report 2021 ของ Coursera อ้างว่าคะแนนสอบของนักศึกษาจีนระดับปริญญาตรีด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นยังต่ำกว่าคะแนนของนักศึกษาปริญญาตรีของอเมริกาเสียอีก (ถึงจะสูสีกับนักศึกษาอินเดียกับรัสเซียก็ตาม) โดยเฉพาะทักษะด้าน Web Development, Computer Networking และ Cloud Computing

จากการวิเคราะห์ของ Global Skill Report 2021 ทุกวงการของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การศึกษา สาธารณะสุขฯ ฯลฯ ล้วนต้องการแรงงานที่เก่งด้านเทคโนโลยีและข้อมูลทั้งนั้น การที่ไทยขาดแคลนแรงงานที่เก่งด้านธุรกิจสะท้อนให้เห็นว่าแรงงานไทยอาจจะยิดติดกับการเก่งไปในด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป การมีทักษะรอบด้านและประยุกต์ใช้ให้เป็นก็จำเป็นด้วยเช่นกันครับ

แหล่งที่มา Global Skill Report 2021 by Coursera