เผยเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลปี 2022 คาดการณ์จะบวกเพิ่ม 7% คิดเป็นมูลค่า 26,623 ล้านบาท เหตุปัจจัยจากที่หลายธุรกิจเริ่มกลับมาปกติ

เผยตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล ปี 2022 คาดจะเพิ่มขึ้น +7% คิดเป็นมูลค่า 26,623 ล้านบาท ผลบวกจากสถานการณ์โควิดและการเปิดประเทศ แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น เงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน

หายไปถึง 2 ปี จากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 แต่วันนี้ได้กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งกับงาน งาน DAAT Day 2022 ซึ่งปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ Era of Effectiveness พร้อมกับการอัปเดทตัวเลขงบโฆษณาดิจิทัลในปีนี้

สำหรับครึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งประเทศเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดแล้ว โดยช่วงครึ่งปี มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาลงไปแล้วทั้งสิ้น ครึ่งปีแรกมีมูลค่า 13,009 ล้านบาท และคาดว่าอีกครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 13,614 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขรวมทั้งปีอยู่ที่ 26,623 ล้านบาท และมีการเติบโตอยู่ที่ 7% แต่เป็นการคาดการณ์ที่น้อยกว่าปีก่อน ที่เพิ่มขึ้นถึง 18%

ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล ได้แก่ สถานการณ์โควิดช่วงหลังที่ค่อนข้างดี กับการเปิดประเทศทำให้หลายธุรกิจเริ่มกลับมา เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจการสื่อสาร ธุรกิจอสังหาฯ เป็นต้น แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องระวัง เช่น ภาวะเงินเฟ้อ และค่าน้ำมันที่ส่งผลกระทบกับภาคส่วนอื่นๆ ดังนั้น ควรจับตาปลายปีจะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งเปลี่ยนในทางเพิ่มขึ้นและลดลง โดยเฉพาะการใช้เม็ดเงินช่วงปลายปีไปกับอีคอมเมิร์ซและกิจกรรม Mega sale ต่างๆ

Top 10 อุตสาหกรรมที่ใช้งบฯ โฆษณาสูงสุดในปี 2022

ยานยนต์ มีการใช้เม็ดเงิน 3,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%
เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีการใช้เม็ดเงิน 2,464 ล้านบาท ลดลง 8%
สื่อสาร มีการใช้เม็ดเงิน 2,419 ล้านบาท ลดลง 6%
สกินแคร์ มีการใช้เม็ดเงิน 2,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
ผลิตภัณฑ์จากนม มีการใช้เม็ดเงิน 1,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%
ร้านค้าปลีก มีการใช้เม็ดเงิน 1,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%
ธนาคาร มีการใช้เม็ดเงิน 1,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีการใช้เม็ดเงิน 848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%
ธุรกิจประกัน มีการใช้เม็ดเงิน 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%
อสังหาริมทรัพย์ มีการใช้เม็ดเงิน 717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41%

เจาะลึกในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ในการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล

จะเห็นได้ว่า ‘กลุ่มยานยนต์’ ครองอันดับ 1 ยอดการใช้เงินโฆษณาดิจิทัลมาอย่างยาวนานกว่า 7 ปี สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติกันมากแล้ว และด้วยผลกระทบของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้คนมองเรื่องรถยนต์ทางเลือก นั่นก็คือรถ EV ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในไทย ดังนั้น เมื่อเป็นแรนด์ใหม่ก็ต้องมีการใช้เม็ดเงินในการโฆษณา ดังนั้น จึงคาดการณ์ว่ากลุ่มยานยนต์จะเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจะครองอันดับท็อปไปอีกหลายๆ ปีทีเดียว ซึ่งการลงโฆษณาก็ไม่ได้ลงแค่โซเชียลเพียงอย่างเดียว แต่ ยังลงไปทั้งในเสิร์ช และดิสเพลย์ด้วย ก็เป็นสองแพล็ตฟอร์มที่ใช้ค่อนข้างมากทีเดียว

‘กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์’ มีการดรอปลงเล็กน้อย แต่นั่นเป็นเพราะเกิดการสเปนดิ้งแบบก้าวกระโดดในช่วงโควิดไปแล้ว เพราะในช่วงที่คนไม่ได้ไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ก็จะมีการซื้อสินค้าเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในแบบเก็บไว้ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่

‘สกินแคร์’ ก็เป็นอีกหนึ่งแคทที่เป็นท็อปสเปนเดอร์อย่างสม่ำเสมอ ติด Top 5 มาสี่ถึงห้าปีแล้ว ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่ใช้สร้างมาร์เก็ตติ้งแบบ Full-funnel Communication ซึ่งทำให้เกิดการไดร์ฟเซลล์ไปยังแบรนด์ต่างๆ ได้ดี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการทำโปรโมชั่นค่อนข่งเยอะ อย่างไรก็ตามในช่วงหลักโควิด ก็จะเน้นการใช้เงินแบบสราง awareness มีการใช้เงินที่ครบลูปมากขึ้น แล้วเราก็ยังพบว่าธุรกิจกลุ่มนี้มีสินค้าทีมีความหลากหลาย สร้างโปรดักส์เซกชั่นใหม่ขึ้นมากมาย เช่น กลุ่มสกินแคร์สำหรับผู้ชายก็มี โดยสื่อดิจิทัลเป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุด

‘กลุ่มการสื่อสาร’ พบว่าเริ่มมีการใช้เอสเสทของตัวเองในการทำการสื่อสารมากขึ้น จุดที่น่าสนใจคือการแข่งขันในเรื่อง ‘5G’ ที่แต่ละค่ายแข่งกันดุเดือดมากในช่วง 2-3 ปี

‘กลุ่มเรียลเอสเตท’ มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยเพิ่มขึ้น 41% ผลมาจากการผลักดันโครงการบ้านเดี่ยวแบบราคา 6-10 ล้านบาท และลักซ์ชูรี่คอนโด ปัจจุบันเห็นทิศทางว่ากลุ่มเรียลเอสเตทเน้นการปิดการขายเยอะขึ้น มีการใช้มีเดียเพื่อเก็บข้อมูลผู้บริโภค โดยระยะหลังเริ่มีการไดร์ฟทราฟฟิกไปที่เว็บไซต์ แล้วจบด้วยการให้ข้อมูลที่แพล็ตฟอร์ม ก่อนจะส่งไปที่เซลล์เพื่อทำการปิดการขาย

‘กลุ่มธนาคาร’ และ ‘ธุรกิจประกัน’ จุดนี้ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศค่อนข้างมาก ซึ่งคนเริ่มใช้ชีวิตปกติมากขึ้น โดยที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางเราจะเห็นว่ามีเงินในกระเป๋าเท่าเดิมแต่มีค่าน้อยลง ดังนั้น ผู้คนจึงเริ่มมองหาแหล่งเงินทุนหรือว่าสินเชื่อเพื่อมาใช้ชีวิต ดังนั้น ทั้งสองกลุ่มนี้จึงมีผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น สถาบันการเงินก็เปิดขึ้นมาใหม่หลายเจ้า และก็เริ่มทำการตลาดเก็บข้อมูลผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน

‘กลุ่มวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร’ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 21% โดยความน่าสนใจเป็นสองปัจจัยที่ผลักดัน หนึ่ง คือโลคอลแบรนด์เติบโตทำการตลาดกันเยอะมาก มีการใช้ Influencer Marketing Campaign มีการใช้ Preseter ระดับท็อปๆ เลยทีเดียว อีกปัจจัยก็มาจากนโยบายกัญชาเสรี ทำให้เห็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับกัญชาเยอะมาก แม้จะมีการจำกัดเรื่องของโฆษณาอยู่ก็ตาม แต่ก็เห็นการไปทำการตลาดบนออนไลน์กันเยอะมากทีเดียว ซึ่งน่าจับตาว่าหากรัฐบาลไฟเขียวเรื่องของการโฆษณาได้ ก็น่าจะจับตาเรื่องของเม็ดเงินที่อาจจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น

Top 10 สื่อที่ครองสัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาสูงสุด ปี 2022

Mata (รวมเม็ดเงินทั้งของ Facebook Ad + IG Ad) มูลค่า 8,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%
ยูทูบ มูลค่า 3,875 ล้านบาท ลดลง 8%
วิดีโอออนไลน์ มูลค่า 2,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53%
โซเชียล มูลค่า 2,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%
ครีเอทีฟ มูลค่า 1,804 ล้านบาท ลดลง 9%
ดิสเพลย์ มูลค่า 1,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%
ไลน์ มูลค่า 1,633 ล้านบาท ทรงตัว 0%
เสิร์ช มูลค่า 1,560 ล้านบาท ลดลง 8%
TikTok มูลค่า 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132%
Affiliate Marketing มูลค่า 429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45%

แพล็ตฟอร์มของค่าย Meta ยังคงได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง มีการใช้เม็ดเงินลงโฆษณาเยอะสุด ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มีการรวมทั้งของ Facebook และ Instagram รวมกัน เพราะโดยปกติแล้วก็มักจะซื้อโฆษณารวมกัน ดังนั้น จึงทำให้ครองสัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น

อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือ การเติบโตของสื่อใหม่ในกลุ่ม Online Audio เช่น Spotify, Joox ฯลฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น

TikTok เติบโตได้อย่างน่าสนใจ โดยมีการเพิ่มขึ้นของ audience 42 ล้านบัญชี มีการใช้เวลาบนแพล็ตฟอร์มมากกว่า 100 นาทีต่อคน ล่าสุดยังมีการพัฒนา TikTok Shop ออกมา ทำให้เป็นที่จับตามองของการลงโฆษณาของทั้งแบรนด์และกลุ่ม SME โดยเฉพาะการจับกลยุทธ์สำคัญ Shoppertainment ที่ทำถูกใจแบรนด์และผู้ประกอบการสนใจที่จะลงโฆษณาบนแพล็ตฟอร์มนี้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้สื่อโฆษณาดิจิทัล ยังมีแนวโน้มเติบโต มาจากการตอบโจทย์การทำตลาดให้ทุกด้าน เช่น การใช้สื่อดิจิทัลเพื่อสร้างการรับรู้ เดิมมีสัดส่วนการใช้งบราว 20% แต่ปัจจุบันบางธุรกิจใช้สื่อดิจิทัลเป็นหลักเกือบ 80-100% เนื่องจากเป็นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก เพราะประชากรไทย 77.8% ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำ เฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน วันนี้คนไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัวแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ รีพอร์ตฉบับเต็ม ซึ่งหากใครสนใจจะดาวน์โหลดทั้งหมดสามารถติดต่อกับทาง Digital Advertising Association (Thailand) / DAAT ได้เลย