CJ WORX เผย 5 เทรนด์การตลาด และเอเจนซี ปี 2024 ที่นักการตลาด-โฆษณาต้องปรับตัว

 

ปี 2024 ยังคงเป็นอีกปีแน่นอนที่ สมรภูมิการค้าทั้งบนออนไลน์และออฟไลน์ห่ำหั่นกันอย่างแบบดุเดือดในทุกแพลตฟอร์ม เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้หน่วยเป็นวินาที นั่นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา แบรนด์ไหนดีเด่นโดนใจ ตอบสนองความต้องการลูกค้า แก้ไขปัญหาของพวกเขาได้ ก็ย่อมได้ยอดขายไปครอง

 

 

แม้ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปรวดเร็วเพียงใด แต่ก็พอมีฐานข้อมูลพฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นมาตั้งแต่ปี 2023 แล้วว่า เทรนด์พฤติกรรมปี 2024 เหล่านี้รับรองมาแน่นอน และเป็นอะไรที่นักการตลาด-โฆษณาควรรู้ และต้องปรับตัวให้ไว เพราะนั่นคือ ยอดขายสินค้าและบริการที่เป็นผลลัพธ์ของชัยชนะครั้งนี้นั่นเอง ทั้งหมดนี้ถูกตกผลึกมาจาก คุณชวนา กีรติยุตอมรกุล Managing Director จาก CJ WORX เอเจนซีสัญชาติไทยผู้คร่ำวอดในวงการโฆษณาไทยและนานาชาติมากว่า 14 ปี รวมถึงผสมผสานประสบการณ์ส่วนตัวที่เก็บเกี่ยวมาในวงการตลาดและโฆษณากว่า 20 ปี

“พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป แน่นอนว่า ให้ตลาดของดิจิทัลโตขึ้นอย่างแน่นอน แต่ดิจิทัลเอเจนซีนั้นจะโตด้วยไหม มีหลายปัจจัยและต้องพิสูจน์ตัวเองกันต่อไป เพราะไม่เพียงแต่สู้กันเองกับจำนวนดิจิทัลเอเจนซีที่เกิดขึ้นใหม่มากมายแล้ว ยังต่อสู้กับแพลตฟอร์มที่เข้ามามีอิทธิพลในวงการตลาดและโฆษณาด้วย ดังนั้นจำเป็นต้องวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคให้ขาด และเลือกบริการมาตอบโจทย์แบรนด์ เพื่อเอาชนะใจผู้บริโภคให้ถูกจุด ส่งผลดีทั้ง Value ของแบรนด์ ไปจนสร้างยอดขายได้ด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นดิจิทัลเอเจนซีก็ไม่ตอบโจทย์กับแบรนด์ที่ต้องการ” สิ่งที่คุณชวนาสะท้อนให้เห็นถึงผลของการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม ของผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะกระทบกับเหล่าดิจิทัลเอเจนซี และแบรนด์หากไม่ปรับตัว

ไปดูกันว่า พฤติกรรมที่คุณชวนา วิเคราะห์ว่า เป็น เทรนด์พฤติกรรมปี 2024 ที่นักการตลาด-โฆษณาต้องปรับตัว บทเรียนจาก CJ WORX ดิจิทัลเอเจนซีสัญชาติไทย

1. แบรนด์ที่มองหาทีมงานที่เป็นมากกว่าเอเจนซีโฆษณาเท่านั้น

2. ผู้บริโภคที่อยากมีประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์ เพราะเราให้คุณค่าในสิ่งเดียวกัน

3. เอเจนซี ใช้ DATA ในการคิดสร้างสรรค์งานครีเอทีฟมากขึ้น

4. เอเจนซีและแบรนด์ในการใช้ DATA ในการต่อยอดสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์อินไซต์ของผู้บริโภค

5. แบรนด์ เอเจนซี และผู้บริโภค ที่ต้องการเห็นความยั่งยืนของธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ CSR

 

1. แบรนด์ที่มองหาทีมงานที่เป็นมากกว่าเอเจนซีโฆษณาเท่านั้น

ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ลูกเค้าเข้ามาแบบตั้งแต่ต้นทางเลย อาทิ บางรายยังไม่มีแบรนด์ , ไม่มี Marketing Fundamental หรือพื้นฐานด้านมาร์เก็ตติ้งก็มี หรือไม่มีช่องทางการขายก็มี ซึ่งคุณชวนาเล่าว่า การที่ลูกค้ามาบรีฟงานครีเอทีฟ โดยที่ยังไม่มีอะไรที่เป็นพื้นฐานสำคัญของ Marketing มันดูอันตรายไป เพราะว่า หนัง 1 เรื่อง หรือ ครีเอทีฟแคมเปญ 1 เรื่อง ไม่ได้ตอบโจทย์ ทางธุรกิจได้ทั้งหมด

“เราอยากทำให้ลูกค้ามี Fundamental ทางธุรกิจที่ดีด้วย CJ WORX GROUP จึงเปิดยูนิตใหม่ ที่เป็น Partnership กับลูกค้า แบบ “High Touch” นั่นคือ ร่วมหัวจมท้าย สร้างพื้นฐานด้านการตลาดที่ดีให้กับลูกค้าไปด้วย ตั้งแต่ต้นทางของการทำธุรกิจ เพราะเราเชื่อว่า เอเจนซีที่มี “Skin In The Game” ไปกับลูกค้า ตั้งแต่วันแรก คือ Agency ที่ลูกค้าสมัยนี้มองหา”

ไม่เพียงเท่านี้ ในฐานะเอเจนซีแถวหน้าของไทย ยังเห็นว่า จริงๆ มันก็ตรงกับเทรนด์ ปี 2024 ก็คือ  GIG Economy ซึ่งเป็น เทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนะ ตั้งแต่ช่วงโควิด ที่ทุกคน Work Remotely หรือทำงานจากระยะไกลโดยที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศได้ จึงทำให้ การทำงานมันยืดหยุ่นมากขึ้น การจ้างงานก็ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นประจำ และนั่งที่ออฟฟิศอีกต่อไป ซึ่ง ลูกค้าหลายๆ เจ้า จึงเลือกที่จะหามือที่ดีที่สุด มาทำงานที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยไม่ได้จำเป็นต้องจ้างพนักงานประจำแบบ Full Time อีกต่อไป  

“ ดังนั้น CJ WORX GROUP จึงตอบโจทย์การเป็น Marketing Consultancy ทำงานเสมือนหนึ่งเป็นทีมลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านทีมการตลาด ในปีนี้ CJ WORX จึงพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ด้วยการให้บริการแบบครบวงจร เป็นมากกว่าครีเอตชิ้นงานโฆษณา หรือทำแคมเปญให้แบรนด์ แต่เป็นการให้บริการคำปรึกษาผสมผสานด้าน Marketing กับ Communication วิเคราะห์ วางแผนการตลาดแบบครบวงจร ตั้งแต่การช่วยวางแผนการออกผลิตภัณฑ์ , หาช่องทางการขาย สื่อโฆษณาและแคมเปญ เพื่อส่งเสริมยอดขาย ถือเป็นการให้คำปรึกษาแบบครบวงจร ไม่ใช่แค่สร้างสรรค์งานโฆษณารายแคมเปญแล้วจบไป ทั้งหมดนี้คือ ความต้องการของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และถือว่า เป็นบริการที่จะทำให้ดิจิทัลเอเจนซีอยู่รอด”

เพราะ 1,800 ล้านวิวจากคลิปที่สร้างสรรค์ให้แบรนด์ สำหรับ คุณชวนา ยืนยันว่า ก็ไม่มีความหมาย และไม่ภูมิใจ เท่ากับผลงานนั้นสร้างยอดขายให้แบรนด์ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 2023 ได้เริ่มให้บริการคำปรึกษากับแบรนด์แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้เทรนด์นี้จะมาแรงยิ่งขึ้น

 

2. ผู้บริโภคที่อยากมีประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์ เพราะเราให้คุณค่าในสิ่งเดียวกัน  

“แบรนด์นี้คิดเหมือนเราเลย” คือ สิ่งที่ทำให้เราต่าง ต่อให้สินค้าบริการจะเหมือนกันมากแค่ไหน ท่ามกลางสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นมีมากมายในท้องตลาดปัจจุบัน แต่ทำไมต้องเป็นแบรนด์นี้เท่านั้น ก็เพราะการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ เป็นการสร้างความแตกต่าง นำมาซึ่งคุณค่าของแบรนด์

คุณชวนา เห็นว่า เป็นหน้าที่ของเอเจนซีโฆษณาที่นำ Customer Experience คืนกลับมาให้อยู่ในแผนกลยุทธ์การตลาดภาพรวมของแต่ละแบรนด์ ท่ามกลางกระแสที่ทุกวันนี้มุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มมากจนลืมนึกถึงการวางแผนการตลาดในภาพรวมที่เหมาะสม

“การสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆจากแบรนด์ว่า มีความสำคัญช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้บริโภคดีขึ้นอย่างไร ตอบโจทย์มากน้อยแค่ไหน ทั้งหมดนี้กลับหายไปในชิ้นงานโฆษณาช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งนี้จะกลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้งในปีนี้ เพราะเมื่อสินค้าและบริการเกิดขึ้นมากมายจนเลือกไม่ถูก ใครที่มีประสบการณ์กับผู้บริโภคมากที่สุด ชนะใจด้วยประสบการณ์ที่ดีที่พวกเขาได้สัมผัสมากที่สุด ย่อมได้ความจงรักภักดีกับแบรนด์ อันนำมาซึ่งยอดขายและ Brand Value ที่ประเมินค่ามิได้”

 

 3. เอเจนซีใช้ DATA ในการคิดสร้างสรรค์งานครีเอทีฟมากขึ้น

ชิ้นงานโฆษณาของเอเจนซีโฆษณาในต่างประเทศฝั่งตะวันตก อย่างสหรัฐอเมริกา ได้นำ DATA ที่เป็น ​”Real Insight” ของผู้บริโภคมาครีเอตงานสร้างสรรค์ DATA Driven Creativity คุณชวนา เล่าว่า ได้ไปดูงานโฆษณาที่สหรัฐฯเมื่อปลายปี 2023 หลายๆชิ้นงานส่วนใหญ่เป็นการนำข้อมูล Data มาครีเอตต่อยอดผ่านการสร้าง Story Telling สร้าง Association กับผู้บริโภคได้อย่างดี

“แคมเปญล่าสุดที่ CJ WORX ได้นำ DATA มาคิดงานครีเอทีฟ อย่างแคมเปญ INGMA (อิงมา) หนูน้อยหน้าตาน่ารัก แต่เป็นใบหน้าที่ล้วนนำมาจากใบหน้าผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกในไทยทั้งหมด นำ DATA มาประมวลผลเป็นใบหน้าของน้องอิงมา นอกจากนี้ยังมีการนำ DATA ที่เป็นสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในแต่ละพื้นที่ นำไปอยู่ในข้อความในป้ายโฆษณาที่ติดตั้งอยู่ตามแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อสื่อสารให้ผู้พบเห็นรับรู้ถึงพิษภัย และป้องกันโรคไข้เลือดออกในพื้นที่พักอาศัยของตัวเอง”

 

4. เอเจนซีและแบรนด์ในการใช้ DATA ในการต่อยอดสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์อินไซต์ของผู้บริโภค

“เอเจนซีโฆษณาที่มีหน้าที่ช่วยคัดสรร DATA ที่มีประโยชน์จากแบรนด์ มาครีเอตงานโฆษณาหรือต่อยอดในเชิงการตลาดได้อีกมากมาย ซึ่งบางครั้งแบรนด์จมอยู่กับข้อมูลมากมาย เหมือนเส้นผมบังภูเขา จนไม่ทราบว่า ข้อมูลที่มีนั้น เหมือนกับสมบัติล้ำค่าที่นำมาต่อยอดได้ เพราะนั่นคือ อินไซต์ของผู้บริโภคที่แบรนด์จะไปพิชิตใจให้ได้นั่นเอง” MD​ จาก CJ WORX มองการใช้ DATA ต่อยอดที่จะเกิดในปี 2024 มากขึ้น

คุณชวนา อธิบายต่อไปว่า การให้บริการ DATA For Performance Full Funnel ที่เป็นการนำข้อมูลของลูกค้าที่มีอยู่ มาวิเคราะห์ ต่อยอด ทำเป็นชิ้นงานโฆษณาหรือแคมเปญ หรือแม้แต่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากอินไซต์ DATA ที่แบรนด์มีอยู่แล้ว โดย CJ WORX Group มีบริษัทในเครือคือ The Red Carbon ที่เปรียบเหมือนเข็มทิศของการทำงานครีเอทีฟที่มี Data เป็นตัวนำทางงานครีเอทีฟด้วย

“มีแบรนด์มอเตอร์ไซค์แบรนด์หนึ่ง พบข้อมูลว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มการซื้อมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มากขึ้นทุกปี ดังนั้นชิ้นงานโฆษณาที่นำ DATA มาสร้างสรรค์เพื่อให้กระบวนการซื้อสินค้าและบริการ ก็ควรพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง  ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย เพื่อสร้างพละกำลังในการควบคุมบิ๊กไบค์ให้ทรงตัวอยู่ได้” คุณชวนา อธิบายถึงประสบการณ์ที่เคยทำนำ DATA มาสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์

ทั้งหมดคือ สิ่งที่ผู้บริหารของ CJ WORX GROUP อยากให้วงการโฆษณาก้าวพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ ไม่ใช่เพียงการสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาครีเอทีฟเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการนำ DATA มาสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาให้ อยู่ในทุกๆที่ของการมองเห็นของลูกค้า จนนำมาต่อยอด สร้าง Value ให้กับแบรนด์ สร้างยอดขาย จุดนี่เองคือ การสร้างความแตกต่างให้เอเจนซีโฆษณายังมีตัวตนอยู่ในโลกที่แพลตฟอร์มกำลังมาแรง

 

5. แบรนด์ เอเจนซี และผู้บริโภค ที่ต้องการเห็นความยั่งยืนของธุรกิจ ที่ไม่ใช่แค่ CSR

“Sustainability” เป็นสิ่งที่หลายแบรนด์ต่างพูดถึง แต่ในมุมองของ MD เอเจนซีโฆษณาแถวหน้าของไทย มองลึกกว่านั้นว่า ปี 2024 เทรนด์นี้มาแรงแน่ แต่ต้องตีโจทย์กว้างกว่าเดิม มากกว่าเรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่เป็นความยั่งยืนที่ได้รับผลดีทุกฝ่าย ทั้งแบรนด์ ทั้งลูกค้า ลูกค้าของลูกค้า และ Stakeholders หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกกลุ่มใน Value Chain โดยเรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในเรื่องความ ยั่งยืนทั้งหมด

คุณชวนา ถ่ายทอดประสบการณ์แคมเปญ Sustainability ที่ได้ประสบการณ์ดีๆมาว่า มีแบรนด์หนึ่งอยากส่งเสริมการรักการอ่าน ให้กับเด็กนักเรียน แจกคูปองทานอาหารเมนูฟรี เมื่อเด็กๆอ่านหนังสือจบ 1 เล่ม ก็แจกคูปอง 1 ใบ ไม่ใช่แค่การอ่านที่ได้ตามเป้าหมาย แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่คือ ความภาคภูมิใจของเด็กตัวเล็กๆว่า ได้เอาคูปองนี้ไปเลี้ยงอาหารพ่อแม่และน้องของเขาด้วยน้ำพักน้ำแรงเขาเองได้ ขณะเดียวกันร้านอาหารก็ได้ยอดขาย จากเมนูอื่นๆที่สั่งเพิ่มเติม พฤติกรรมของการเห็นความยั่งยืนแบบนี้คือ สิ่งที่กำลังเป็นเทรนด์มาแน่ในปีนี้ ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ทุกฝ่ายแฮปปี้ เพราะได้ประโยชน์

“ CJ WORX อยากทำงานแบบนี้ อยากขับเคลื่อนประเทศแบบนี้ ไม่ใช่งานโฆษณา แต่คืองานที่จะทำให้ คน สังคม และสภาพแวดล้อมดีขึ้นด้วยไปพร้อมกัน ”

ทั้งหมดนี้คือ เทรนด์พฤติกรรมปี 2024 ที่นักการตลาด-โฆษณาต้องปรับตัว บทเรียนจาก CJ WORX ดิจิทัลเอเจนซีสัญชาติไทย ซึ่งหากแบรนด์และเอเจนซีโฆษณาทั้งหลายรับรู้ และมีสินค้าและบริการตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะมีแบรนด์เพิ่มขึ้นอีกมากเพียงใด หรือมีแพลตฟอร์มหรือAi ที่จะคอยดิสรัปเอเจนซีโฆษณามากเพียงใด ก็ไม่สามารถทำลายคุณค่าแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่ต่อยอดจากมันสมองของมนุษย์ได้นั่นเอง