ตามที่ กสทช. ได้จัดให้วันนี้ เป็นวันยื่นคำขอรับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ 1800 MHz ณ สำนักงาน กสทช. ปรากฎว่ามี 2 บริษัทที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตฯ คลื่น 1800 MHz คือ ดีแทค ไตรเน็ต (DTN) และ แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ขณะที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อวานนี้ว่าจะไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ เนื่องจากมั่นใจว่ามีคลื่นความถี่เพียงพอต่อการให้บริการ
กลับมาที่ความเคลื่อนไหวของ 2 ราย ที่ยื่นเข้าประมูลคลื่น 1800 MHz
DTN ส่งทีมตัวแทน ยื่นเอกสารตั้งแต่ 10.18 น.
สำหรับทีมงานของ DTN ที่เดินทางไปยัง กสทช. ได้แก่ นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานรัฐกิจสัมพันธ์, ดร.รวีพันธ์ พิทักษ์ชาติวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานกฎหมาย และนายเลิศรัตน์ รตะนานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายประสานงานภาครัฐ พร้อมด้วย นายสิรวิชญ์ กลับดี ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจองค์กร จาก dtac ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก DTN เพื่อยื่นเอกสารเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ที่สำนักงาน กสทช. โดยได้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ตามขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อขอรับการพิจารณาเข้าร่วมประมูลตามที่สำนักงาน กสทช. จะจัดประมูลขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคมนี้
AWN ยืนยัน ประมูลแต่ 1800 MHz ไม่สน 900 MHz
ทางฟากบริษัท AWN ในเครือ AIS ได้เดินทางมายื่นเอกสารฯ ในช่วง 13.09 น. โดยนายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร AIS เปิดเผยรายละเอียดว่า บริษัทได้พิจารณาหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการประมูล และได้ตัดสินใจให้ AWN ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz ตามประกาศ กสทช.ซึ่งบริษัทพร้อมปฎิบัติตามขั้นตอนการขอรับใบอนุญาต และรักษาข้อมูลสารสนเทศเป็นความลับ นับแต่วันยื่นคำขอใบอนุญาตจนถึงวันที่ กสทช.ประกาศผลการประมูล แต่จะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz
ส่วนการที่บริษัทเข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHz เนื่องจากมองเห็นอนาคตการเติบโตของตลาดโทรคมนาคม โดยบริษัทจะมีโอกาสในการใช้คลื่นความถี่ไปพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อให้บริการลูกค้า อาทิ ประชาชนทั้งประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะมีนวัตกรรมไปพัฒนาอุตสาหกรรม และธุรกิจต่างๆ ให้เกิดขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ ส่งผลให้ประเทศมีความก้าวหน้ามั่นคง และที่สำคัญเป็นแรงขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป