โลกยุคใหม่ที่หลายธุรกิจกำลังถูก Disrupt ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ใหญ่แค่ไหนก็ไปต่อไม่ได้ถ้าไม่ปรับตัวและเปิดกว้าง ความร่วมมือระหว่าง LINE TV กับช่อง 3 ถือเป็น Case ชัดเจนที่ตอกย้ำว่า ธุรกิจยุคนี้ไม่สามารถโตได้ตามลำพัง แต่การมีพันธมิตรและ Business Model ใหม่ๆ ต่างหาก ที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอด
ความร่วมมือระหว่าง Line กับช่อง 3 ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการ Cross Industry ระหว่างธุรกิจสื่อกับดิจิตอลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เป็นทั้ง On Line to Offline และย้อนกลับมาเป็น Offline to Online ได้อีกครั้ง
สถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมทีวีของบ้านเราประสบภาวะขาดทุน เพราะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของพฤติกรรมผู้รับสารที่เปลี่ยนไป ผู้คนเสพข่าวและรายการผ่านโมบายมากขึ้น สะดวกขึ้น anywhere, anytime ดูเมื่อไร ที่ไหนก็ได้ ขณะที่ตัวเลขของผู้รับชมทีวีก็ลดลงเรื่อยๆ จากโลกเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเกินกว่าจะจินตนาการ ปรกฏการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวันแทบจะตามไม่ทัน อานุภาพของเทคโนโลยีสามารถทลายกำแพงระหว่างโลกเสมือนกับโลกแห่งความจริงได้อย่างราบคาบ
ต่างคนต่างขยายฐาน
ความร่วมมือดังกล่าวระหว่างบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) โดยคุณประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บีอีซีเวิลด์ “Ch3Thailand” เจ้าแห่งคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ชั้นนำของไทย กับ LINE ในนามของ LINE TV ที่เป็นทั้งออนไลน์และโมบายในฟากของโลกดิจิตัล เพื่อเปิดช่องทางใหม่ในการรับชมข่าวสารของช่อง 3 ผ่านโลกออนไลน์ สนองตอบความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่พลาดที่จะรับชมรายการต่างๆ ของช่อง 3 และเป็นการเพิ่มฐานผู้ชมช่อง 3 ทั้งละคร รายการข่าว วาไรตี้ และเพลงประกอบละครผ่าน LINE TV ใน LINE STATION “CH3 THAILAND”
ขณะที่ LINE ก็จะได้ฐานคนดูของช่อง 3 เข้ามา แน่นอนคอนเทนต์ก็จะเข้ามามากขึ้น ส่วนช่อง 3 เมื่อได้ LINE เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ เท่ากับเป็นการกระจายคอนเทนต์ของช่อง 3 เอง ผ่านช่องทางอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งเข้าถึงกลุ่มคนดูมากขึ้น ก็น่าจะมีรายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เพราะคอนเทนต์ที่มีอยู่แล้ว และยังเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์เองด้วย
การ Cross Platform ของทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างทีวีกับโมบาย นอกจากจะเป็นการรักษาฐานคนดูเดิมเพิ่มช่องทางใหม่ ยังเป็นการดึงคนที่จะหนีไปหาโมบายให้กลับมาดูช่อง 3 ได้อีกด้วย ซึ่งคอนเทนต์ 3 หมวดของช่อง 3 ประกอบด้วย ละคร, ข่าว และเพลงประกอบละคร ซึ่งข่าวทั้งหมด 17 รายการจะครบใน LINE TV วันที่ 1 มีนาคมนี้ ส่วนละครก็จะนำมาออกอากาศใน 48 ชั่วโมง รวมทั้ง Exclusive Content ที่จะมีขึ้นใน LIVE TV อีกด้วย
คุณอริยะ พนมยงค์ Managing Director LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เชื่อว่าหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นได้ในการนำเอา 2 โลกมาเจอกัน LINE TV อยู่กับคนไทยมา 3 ปี ส่วนช่อง 3 มีอายุ 47 ปี กำลังจะกลายเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทรงพลัง LINE TV ถือเป็น TV Re-Run Platform เบอร์ 1 ของประเทศไทย ส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่รับชมทีวี ใน 1 วันจะใช้เวลาไปถึง 176 นาทีถือเป็น Longform ของละครกับรายการบันเทิงรูปแบบยาวคล้ายๆ กับช่องทีวี คือ 1 คน 1 วันจะดูเนื้อหาเหล่านี้ใน LINE TV ยาวนานมาก
“ส่วนจุดแข็งของช่อง 3 คือ ละคร และนี่คือจุดเริ่มต้นในปรากฏการณ์ที่ช่อง 3 กับ LINE TV จะทำร่วมกันและมีอีกหลายเรื่องที่เราอยากทำกับช่อง 3 มีหลายเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป” คุณอริยะกล่าว
คุณอาภัททรา ศฤงคารินกุล Chief Technology & New Media Business Officer (CTNO) กล่าวว่า ในยุคดิจิตัลทรานฟอร์ม ทางช่อง 3 เห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทุกคนเข้าถึงโลกออนไลน์และเข้าถึงคอนเทนต์ที่หลากหลาย ผ่านหลายช่องทางของการรับชมและ LINE TV ก็เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยม แฟนๆ ช่องจะ 3 ไม่พลาดในการรับชมและเพิ่มจำนวนผู้ชมของช่อง 3 ด้วยคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งจะขยายกลุ่มผู้ชมใหม่ให้รู้จักช่อง 3 มากขึ้น
“วันนี้เป็นวันพิเศษวันที่ปรากฏการณ์เมฆสีรุ้งทอดตัวลงมา แสงแดดที่ทอแสงส่องมายังโลก สะท้อนกับละอองไอน้ำเกิดแปรเปลี่ยนเป็นสายรุ้งที่งดงามสมกับที่เรียกว่า Iridescence Day ผู้ผลิตคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จับมือกับเจ้าของแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านวิดีโอชั้นนำของโลก เรามั่นใจที่จะเติบโตร่วมกับพันธมิตรที่ธุรกิจที่แข็งแรง ไปสู่การสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้ชม วันนี้ช่อง 3 มีอายุ 47 ปี มีละครที่สร้างมามากกว่า 1,000 เรื่อง 20,000 กว่าชั่วโมง มีนักแสดง ผู้ผลิตรายการ ทีมผลิตรายการที่สร้างละครคุณภาพ ทีมข่าว มีผู้ประกาศข่าวเป็นที่เชื่อถือของสังคม วันนี้เราจะขยายฐานผู้ชมช่อง 3 ไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่กลุ่มมิลเลเนียม มีอายุน้อยลงซึ่งเป็นกลุ่มใน LINE TV”คุณอาภัททรากล่าว
การใช้กลยุทธร่วมของ online กับ offline
คุณสุธิดา มาไลยพันธุ์ Head Digital Business, BECi Corporation Limited กล่าวว่า BECi ซึ่งเป็นผู้ดูแล Ch3 Thailand สื่อออนไลน์ของช่อง 3 ผ่านเว็บไซต์และสังคมออนไลน์ เตรียมให้บริการคอนเทนต์ละคร และรายการย้อนหลังให้กับแฟนของ LINE TV ได้ชมกันตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไปเริ่มจากละคร เงินปากผี, ชั่วโมงต้องมนต์ และจะเพิ่มละครหลังข่าว ละครเย็น ละครก่อนข่าว และเพลงดังจากละครทางช่อง 3 และ LINE TV ด้วย
คุณกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ Content Business Director, LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเวลาในการรับชม LINE TV จะเฉลี่ยอยู่ที่ 176 นาทีต่อวัน หรือ 2 ใน 3 ของการรับชมฟรีทีวี จะเห็นว่าพฤติกรรมของผู้ชมกำลังเปลี่ยนไป ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้จะนำแบรนด์ไปสู่อีกระดับของการโฆษณา เป็นแพลตฟอร์มของของโฆษณาแบบเดิมและโฆษณาแบบออนไลน์ และเป็นครั้งแรกที่ขยายการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในเนื้อหาละครและข่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับผู้ใช้ออนไลน์ โดยจะมีการขยายโอกาสและวิธีการทำงานร่วมกันในอนาคต ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และผู้ลงโฆษณา
“ในแง่มาร์เก็ตติ้งการเผยแพร่คอนเทนต์บนออนไลน์แพลตฟอร์มสามารถทำได้ทั้งการลงโฆษณาผ่าน LINE สติ้กเกอร์ประกอบละคร ดารา หรือการทำการตลาดร่วมกันภายใต้ตลาดผู้ใช้โมบายถึง 40 ล้านคน จุดเริ่มต้นในปีนี้คือการ Co-Production ร่วมกัน โดยจะมีคอนเทนต์ดีๆ ออกมามากขึ้น รวมทั้งพาร์ทเนอร์ชิฟอื่นๆ ที่กำลังคุยกันอยู่”
ความร่วมมือครั้งสำคัญของทีวีและโมบาย 2 ยักษ์ใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็นการนำเสนอ Digital Ad Solution ด้าน VDO Ads Solution ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในยุคเทคโนโลยี ซึ่งภาพและเสียงสามารถชมได้ตลอดเวลาผ่าน Application มือถือและเว็บไซต์
