จริงๆ!!! IDC ชี้ธนาคารต่างๆ ยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการให้บริการ

  • 15
  •  
  •  
  •  
  •  

shutterstock_461419735

ปัจจุบันการทำธุรกรรมทางการเงินกำลังย้ายรูปแบบเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการโอนเงิน จากเดิมที่ต้องไปที่ธนาคารหรือตู้ ATM แต่ตอนนี้สามารถโอนเงินได้ผ่านระบบออนไลน์ทั้งในคอมพิวเตอร์และบนสมาร์ทโฟน ไปจนถึงการใช้จ่ายบัตรเครดิตด้วยสมาร์ทโฟน

ซึ่งจากการจัดงานการประชุมที่ประเทศจีน IDC ยังชี้ว่า ธุรกิจธนาคารยังมีความต้องการเทคโนโลยีทางด้าน FinTech อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความปลอดภัย (Security) เป็นเรื่องที่ธนาคารให้ความสำคัญสูงที่สุด นอกจากนี้ธนาคารยังมีความต้องการนำเทคโนโลยีของระบบไอทีด้านการป้องกันการหลอกลวง (Fraud), ระบบคลาวด์ (Cloud Computing), ระบบจัดเก็บข้อมูลมหาศาล (Big Data), BlockChain และ AI (Artificial Intelligence)

จากข้อมูลของ IDC พบว่าธนาคารในจีนมีการลงทุนด้าน IT เพิ่มขึ้น จาก 9.2 หมื่นล้านหยวนหรือราว 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2559 เป็น 1.3 แสนล้านหยวนหรือราว 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 เนื่องจากเป็นประเทศและตลาดขนาดใหญ่การปรับตัวครั้งนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ ให้ต้องปรับตัวตาม ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

172010_dbpix-icbc-tmagArticle

ซึ่งธนาคารในจีนเตรียมการลงทุนในส่วนของการพัฒนาระบบการป้องกันการหลอกลวง (Fraud) มากกว่า 1 หมื่นล้านหยวนในอีก 3 ปีข้างหน้า และสำหรับระบบคลาวด์ (Cloud Computing) ธนาคารจีนเคยลงทุนถึง 3.5 พันล้านหยวนในปี 2016 ขณะที่ตลาดบริการด้านคลาวด์มีมูลค่าถึง 1.28 พันล้านหยวน

ด้านระบบจัดเก็บข้อมูลมหาศาล (Big Data) ธนาคารจีนอยู่ในช่วงของแผนเร่งพัฒนา 5 ปี (2016-2020) และจะลงทุนถึง 1 หมื่นล้านหยวนในปี 2020 นอกจากนี้ธนาคารจีนเตรียมการศึกษาเทคโนโลยี BlockChain เพื่อรองรับการขยายตัวในด้านธุรกรรมทางการเงิน โดยกำลังศึกษาถึงระบบความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมทางการเงิน ขณะที่เทคโนโลยี AI คาดว่าธนาคารจีนน่าจะลงทุนในระดับ 3.7 พันหยวนในปี 2020

shutterstock_252335677

 

Source: ChinaDaily


  • 15
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา