‘HP’ เปิดแนวรุกตลาดพริ้นเตอร์ แก้ทุก Pain Point พิมพ์ได้แบบไม่ต้องคิดถึงต้นทุน ส่ง Ink Tank เจาะกลุ่ม SME-Consumer

หลังจากแข็งแกร่งในตลาดลูกค้ากลุ่มองค์กรมานาน ถึงเวลา ‘HP’ เปิดเกมรุกตลาดพริ้นเตอร์รอบใหม่ โดยโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้า SME และ Consumer ด้วยจุดขาย ‘แบรนด์ที่เข้าถึงง่าย’ ที่มาพร้อมกับ ‘ความคุ้มค่า’ ซึ่งมี HP Ink Tank Wireless 415 เป็นหนึ่งในเรือธงสำคัญในการบุกครั้งนี้

ปัจจุบันตลาดพริ้นเตอร์ของ HP วางกลยุทธ์ Product Portfolio ไว้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

• กลุ่มแรก คือ กลุ่ม Core ที่เน้นพริ้นเตอร์สำหรับใช้งานพื้นฐานสำหรับการใช้งานในบ้านประเภท Home Use และผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) มีไฮไลท์สำคัญ คือ เครื่องพิมพ์แบบ All-in-one ที่เล็กที่สุดในโลก สามารถใช้งานได้หลากหลายภายในเครื่องเดียว ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยล้ำที่มีให้เลือกถึง 4 สี สามารถวางในบ้านแล้วดูลงตัวสวยงาม และอีกหนึ่งเครื่องพิมพ์แบบ Ink Tank ที่ตอบโจทย์งานพิมพ์ที่มากขึ้น คุณภาพสูง ต้นทุนต่ำ พร้อมด้วยความสะดวกสบายตอบโจทย์ไลฟสไตล์ไร้สายของคนทำงานยุคใหม่ ด้วยคุณสมบัติเด่นคือ Wifi Direct ให้สามารถเชื่อมต่อการใช้งานเครื่องพิมพ์ได้โดยตรงกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือและแท็บเล็ตได้ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น HP Smart

• กลุ่มที่สอง คือ กลุ่ม Growth เป็นกลุ่มพริ้นเตอร์สำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงใหญ่ ซึ่ง HP ได้พัฒนาเครื่องพิมพ์ให้ตอบโจทย์การใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดลิขสิทธิ์เฉพาะของ HP นั่นคือ PageWide Technology ที่เป็นการผสานจุดเด่นของเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet และ Laser ไว้ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับงานพิมพ์งาน A3 และ A4 ทั้งสีและขาวดำที่มาพร้อมความเร็วในการพิมพ์ ให้คุณภาพสูง ต้นทุนถูก ประหยัดไฟถึง 50% ด้วยอัตราการพิมพ์เร็วถึง 80 แผ่นต่อนาที

• กลุ่มที่สาม คือ กลุ่ม Future ซึ่ง HP ถือเป็นผู้นำของนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ระดับโลกที่โดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ภายใต้แนวคิด Keep Reinventing ของ HP โดยในกลุ่มนี้จะเป็นเครื่องพิมพ์ประเภท3D Printing ที่รองรับการพิมพ์ เพื่อใช้ในการผลิตต้นแบบและชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานได้จริง เบื้องต้นได้มีการนำใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และในอนาคตจะขยายสู่อุตสาหกรรม Healthcare ด้านอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ และล่าสุดองค์กรนาซ่าได้เลือกเครื่องพิมพ์ของ HP เพื่อใช้บนสถานีอวกาศอีกด้วย

“การเติบโตของตลาดพริ้นเตอร์ในแต่ละกลุ่มมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มแรก เพราะ SME มีจำนวนมากขึ้น และที่ผ่านมายังไม่มีผู้เล่นในตลาดรายใดที่สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นโอกาสของเรา ด้วยความโดดเด่นของสินค้าเราที่มีหลากหลายครบทุกการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายทุกรูปแบบ ทำให้ HP ต้องการรุกตลาดนี้มากขึ้น เพื่อเสริมพอร์ตธุรกิจให้แข็งแรง” วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ ผู้จัดการธุรกิจการพิมพ์ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าว

ชู ‘แบรนด์ที่เข้าถึงง่าย–มีความคุ้มค่า’ เป็นจุดขาย

อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งที่มีมานานในกลุ่มลูกค้าองค์กร บวกกับการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ผ่าน ทำให้ผู้บริโภคมอง ‘HP’ เป็นแบรนด์พรีเมียมที่ดูมีราคาสูง ดังนั้น การเปิดแนวรุกครั้งนี้ ทาง HP จึงต้องการเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคใหม่ โดยนำเสนอว่า HP เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย มีความคุ้มค่า และมีราคาจับต้องได้

มุมมองใหม่นี้ ถูกนำเสนอผ่านโปรดักท์ใหม่ที่เปิดตัวเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะพริ้นเตอร์ในตระกูล HP Ink Tank series ซึ่งหนึ่งในพระเอก ก็คือ HP Ink Tank Wireless 415 ที่มาพร้อมความโดดเด่นของการเข้ามาแก้ทุก Pain Point ของผู้ใช้พริ้นเตอร์ที่ต้องการงานพิมพ์ในปริมาณมาก ๆ ในราคาต้นทุนที่ต่ำลง สรุปง่าย ๆ คือ ‘พิมพ์งานได้แบบไม่ต้องกังวลถึงต้นทุนต่อแผ่น’  ตอบโจทย์กลุ่ม SME , กลุ่ม Consumer เช่น นักเรียน , นักศึกษา และฟรีแลนซ์

วรานิษฐ์ เล่าว่า การพัฒนา HP Ink Tank Wireless 415 มาจาก insight ของลูกค้า เพื่อแก้ Pain point ใน 3 ประเด็นหลัก  ได้แก่

1. การใช้งานของลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่า โดย HP Ink Tank Wireless 415 สามารถพิมพ์สีได้สูงถึง 8,000แผ่น จากหนึ่งชุดพิมพ์ 3 สี หรือพิมพ์ขาวดําได้ถึง 6,000 แผ่น

โดย HP Ink Tank Wireless 415 ยังรองรับการใช้งานหมึกพิมพ์แท้มาตรฐานของ HP ดังนั้นงานพิมพ์ที่ออกมาจึงมีคุณภาพสูง ตัวหนังสือคมชัด กันน้ำและทนต่อการจาง ที่สำคัญ ด้วยระบบหมึก Spill Free นวัตกรรมที่ HP คิดค้นขึ้นมา ซึ่งแม้จะคว่ำขวดหมึก น้ำหมึกก็ไม่ไหลออกมา และเมื่อเสียบขวดเข้าไปที่ช่องเติมหมึก น้ำหมึกจะไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติ ทำให้เติมหมึกได้ง่ายแบบไม่ต้องกังวลเรื่องหมึกหกเลอะเทอะ

2. ใช้งานง่าย ด้วยฟังก์ชั่น Wi-Fi Direct ให้สามารถเชื่อมต่อการใช้งานสั่งพิมพ์หรือสแกนได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่าน Router ทำให้สั่งพิมพ์ได้ทุกที่ทุกเวลา หรือสั่งพิมพ์ผ่านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ ผ่านแอพพลิเคชั่น HP Smart
3. รับประกัน 2 ปี และการให้บริการรับซ่อมถึงที่บ้าน หรือ On-site service เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า SME และลูกค้าในต่างจังหวัด เนื่องจากลูกค้าในตลาดนี้ต้องการความสะดวกสบาย คล่องตัว และลดความยุ่งยากในการส่งเครื่องเข้าศูนย์

httpv://www.youtube.com/watch?v=A3fTh1pn520

“แบรนด์ HP มีจุดเด่นเรื่องความคุ้มค่า และลูกค้าพริ้นเตอร์ส่วนใหญ่จะมองค่าใช้จ่ายในระยะยาวและบริการหลังการขาย มากกว่าการพิจารณาจากราคาเครื่องที่ซื้อในวันแรกอย่างเดียว และสำหรับ HP Ink Tank Wireless 415 วางขายที่ราคาเพียง 5,590 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับคุณภาพ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ บวกบริการที่ให้ ถือได้ว่าเป็นราคาที่แข่งขันกับคู่แข่งได้ ซึ่งผลตอบรับที่ผ่านมาจากการวางตลาดมากว่าหนึ่งปี พบว่า สามารถทำยอดขายในสินค้ากลุ่มนี้ได้ถึง 3-4 เท่า”

เดินหน้าการตลาด 360 องศา เสริมแบรนด์และยอดขาย

การทำการตลาดแบบ 360 องศา เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจสำหรับการเพิ่มความแข็งแรงให้กับพอร์ตธุรกิจในครั้งนี้ โดยทาง HP ได้เพิ่มกิจกรรมสื่อสารการตลาดที่เน้น Localization และลงไปถึงพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์โฆษณา ที่ใช้นักแสดงไทยและภาษาไทย แทนที่จะใช้ภาพยนตร์โฆษณาจากต่างประเทศ และล่าสุดได้มีการทำโฆษณาทางวิทยุเป็นภาษาท้องถิ่นอีกด้วย

รวมไปถึงได้มีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย โดยตอนนี้มีอยู่ราว 2,800-3,000 รายทั่วประเทศ ให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภคถึงโปรดักท์ของ HP ที่มีความคุ้มค่า ใช้งานง่าย และราคาไม่ได้สูงอย่างที่คิด ซึ่งทั้งหมดได้รับผลตอบที่ดีมากจากลูกค้า

นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ ซึ่งปีนี้โฟกัสพื้นที่ในต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนรูปแบบกิจกรรมนั้น จะตระเวนไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูล ตลอดจนให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองใช้งานจริง  พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้กับเจ้าหน้าที่ของ HP ที่ไปร่วมโรดโชว์ด้วย

กิจกรรมดังกล่าว ได้เริ่มที่ภาคอีสาน ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และจะทยอยจัดไปทั่วทุกภาคของประเทศ

“ลูกค้ามองเราเป็นแบรนด์พรีเมียม และคิดว่าต้องราคาสูงแน่เลย เราถึงจัดโรดโชว์ให้ลูกค้าได้รู้ ได้สัมผัสสินค้าและทดลองใช้เลย เพื่อทำให้รู้ว่า HP คุณภาพเป็นอย่างไร ที่สำคัญ คือ เมื่อเราออกไปเราจะได้ feedback จากลูกค้ากลับมา เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าต่อไป”

การเปิดแนวรุกรอบใหม่ในตลาดพริ้นเตอร์ครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมพอร์ตธุรกิจกลุ่ม SME และ Consumer ให้มีการเติบโตยิ่งขึ้น หลังจากครองความเป็นเบอร์ 1ในตลาดลูกค้าองค์กร ซึ่งนอกจากกลุ่มนี้แล้ว ก็เตรียมจะขยายสู่ตลาดใหม่ ๆ  อาทิเช่น กลุ่มไลฟ์สไตล์ ที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยที่ผ่านมาทาง HP ได้มีการออกโปรดักท์สำหรับกลุ่มนี้แล้ว ได้แก่ HP AMP พริ้นเตอร์ที่มาพร้อมกับลำโพงภายในตัว และยังมีโปรดักท์อีกหลายตัวเตรียมอีกหลายทยอยออกมา

ทั้งหมด ทาง HP คาดหวังว่า จะทำให้พอร์ตในกลุ่มธุรกิจพริ้นเตอร์มีความแข็งแรง และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดที่ไม่เคยหยุดนิ่งของ HP