คอนเทนท์แปลกใหม่และมีความแตกต่าง ถือเป็นจุดเด่นในการดึงดูดคนดู และก็ได้สร้างความสำเร็จให้กับ LINE TV ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จากการนำคอนเทนท์มาออกอากาศบนมือถือ ครึ่งปีหลัง LINE TV เดินหน้าปั้น “LINE TV Originals”เต็มกำลัง ประเดิมออนแอร์เรื่องแรก GGEZ (จีจีอีซี่) เกรียนเมพเทพศาสตร์ซีรีส์เกี่ยวกับอีสปอร์ตเรื่องแรกในประเทศไทย เพื่อเป้าหมายขึ้นสู่เบอร์ 1 ออนไลน์วีดีโอประเทศไทยให้ได้ หลังจากสร้างสถิติเติบโต 100% เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
LINE TV ที่ล่าสุดประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรเลือดใหม่มาแรงอย่าง “Bearcave Studio” (แบร์เคฟ สตูดิโอ) เปิดตัวซีรีส์ 4 เรื่องรวด เจาะกลุ่มผู้ชมยุคดิจิทัลทุกเพศทุกวัย ประเดิมเรื่องแรกด้วยซีรีส์อีสปอร์ต “GGEZ (จีจีอีซี่) เกรียนเมพเทพศาสตร์” เอาใจเหล่าเกมเมอร์ เตรียมให้ได้ชมเฉพาะบน LINE TV เท่านั้น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันพุธนี้ (4 ก.ค. นี้) เวลา 20.00 น.
หลังจากซีรีส์ดัง “I HATE YOU I LOVE YOU” ที่กระแสตอบรับจากโซเชียลถล่มทลายเมื่อสองปีที่แล้ว และจากกระแสตอบรับทั้งยอดวิวในครึ่งปีแรก 2018 ของ LINE TV ที่เติบโตขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2017 LINE TV จึงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ กับ Bearcave Studio สร้างสรรค์ซีรีส์อีก 3 เรื่องเป็นลำดับถัดไป ต่อจาก GGEZ ที่กำลังจะออนแอร์ในตอนนี้
คุณพัลภา มาโนช หัวหน้าธุรกิจ LINE TV LINE ประเทศไทย กล่าวว่า LINE TV มีคอนเทนท์หลักๆ 3 ส่วน คือ มิวสิคคอนเทนท์ รีรันคอนเทนท์ และออริจินัลคอนเทนท์ ที่ผ่านมายอดเติบโตและยอดดาวน์โหลดของ user มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเทียบจากสถิติที่ผ่านมา
ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกนี้มียอดวิวเติบโตสูงกว่า 50% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2017 คอนเทนท์แม่เหล็ก มีทั้ง LINE TV Originals อย่าง The Collector คนประกอบผี และ Drag Race Thailand รวมถึงทีวีรีรัน ที่มีทั้งละครบุพเพสันนิวาส และรายการวาไรตี้ The Face Thailand Season 4 All Stars
“ดังนั้นจึงเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องพัฒนาคอนเทนท์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมยุคดิจิทัลให้มากที่สุด พบว่าคอนเทนท์ที่คนไทยชอบมากที่สุดได้แก่ ซีรีส์ และเอนเตอร์เทนเมนท์ ความสำเร็จของ LINE TV Originals ที่มีผลตอบรับจากผู้ชมเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด มาจากความแปลกใหม่ของคอนเทนท์ ความหลากหลายไม่เหมือนใคร รวมทั้งกลยุทธ์ผนึกกับพันธมิตรในการสร้างคอนเทนท์ ทำให้ LINE TV Originals ช่วยสร้างความจดจำ และสร้างความแข็งแกร่งให้แพลทฟอร์ม LINE TV”
จากสถิติคนไทยใช้เวลาเฉลี่ยกับ LINE TV 176 นาทีต่อวัน และมีจำนวนยอดดาวโหลดของแอพ 20 ล้านครั้ง ทำให้กับ LINE TV กลายเป็นคอนเทนท์รีรันอันดับ 1 ของปีที่แล้ว เมื่อนึกถึงทีวีรีรัน จะนึกถึง LINE TV เป็นอันดับแรก
“ในแง่ของคอนเทนท์บิซิเนส หนึ่งในเซอร์วิสที่เราโฟกัส คือ LINE TV ที่เป็นเรียลทีวีแพลตฟอร์ม ซึ่งแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ที่ทีมงานจะเป็นผู้เลือกคอนเทนท์ user ทั่วไปไม่สามารถอัพโหลดคอนเทนท์ได้ ทำให้มาพร้อมกับคุณภาพคอนเทนท์ ที่พยายามมุ่งเน้นมาตลอดระยะเวลาที่เปิดเซอร์วิสมาเมื่อ 4 ปีแล้ว” คุณพัลภากล่าวและว่า สิ่งสำคัญหลัก คือ เรื่องของคอนเทนท์ที่ต้องมีการคัดสรร ต้องพิถีพิถันค่อนข้างมาก เพื่อคัดเลือกรายการที่จะมารีรันบนทีวี
“โดยมีเป้าหมายหลักคือ หวังขึ้นสู่การเป็นเป็นแพลทฟอร์มอันดับ 1 ในประเทศไทย”
หัวใจของ LINE TV คือ LINE TV Originals นั่นก็คือ คอนเทนท์ที่ดูได้บน LINE TV ที่เดียว มีการร่วมลงทุนร่วมผลิตกับพาร์ทเนอร์ รวมถึงการว่าจ้างผลิตในหลาย Business Model จนกลายมาเป็น LINE TV Originals
“เชื่อว่าในครึ่งปีหลังนี้ เราจะมี Line up ที่แน่นหนามากๆ และน่าจะเป็นอีกช่วงเวลาที่ดีมากของ LINE TV ที่จะมาช่วยสร้างกระแสดีๆ จากคอนเทนท์ต่างๆ ที่เรามีอยู่ อาทิ 4 คอนเทนท์หลักๆ ที่เป็น highlight ของ LINE จะร่วมสร้างกับคีย์สำคัญอย่าง Bearcave Studio”
แพลทฟอร์มบวกคอนเทนท์
จากการขยายฐานผู้ชม และสร้างทางเลือกของคอนเทนท์ที่แปลกใหม่และหลากหลาย LINE TV ได้ร่วมกับ Bearcave Studio สร้างคอนเทนท์ประเภทซีรีส์ ซึ่งเรื่องแรก GGEZ (8 ตอน) จะเริ่มออนแอร์วันนี้ เรื่องที่ 2 ก็คือ เพราะรักมันซับซ้อน It’s Complicated เริ่ม ส.ค. นี้ (8 ตอน) เรื่องที่ 3 Hipster or Loser เริ่ม ก.ย. นี้ (10 ตอน-เปิดกล้องไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว) และ เรื่องที่ 4 The Deadline เริ่ม ต.ค.นี้ (8 ตอน)
ซึ่งจะเห็นว่าคอนเทนท์ทั้งหมด จะมีช่วงเวลาที่คาบเกี่ยว เปิดกล้อง 3 เรื่องในเวลาเดียวกัน เป็นการนำเสนอต่อเนื่องเรียกว่ายังไม่ทันจบ ก็จะมีเรื่องใหม่มาให้ดูติดตามต่อเนื่องแบบไม่ให้ user ลุกไปไหนกันเลย
คุณเปรมวิชช์ สีห์ชาติวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร Bearcave Studio กล่าวว่า Bearcave เป็นสตูดิโอผลิตซีรีส์ออนไลน์หน้าใหม่ แต่มีประสบการณ์คุ้นเคยกับสตาร์ตอัพอุตสาหกรรมคอนเทนต์ทั้ง Ookbee Comics, Storylog, Fictionlog, Joylada รวมทั้งแพลตฟอร์มอื่นๆ ใน Ookbee U
การเล็งเห็นคอนเทนท์ดีๆมากมายในกลุ่มนักเขียน นักอ่าน ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ จะทำให้ Bearcave สามารถนําเสนอซีรีส์ที่ตอบโจทย์คนดูได้ดีขึ้น รวมทั้งเป็นการนํา User-Generated Content (UGC) มาพัฒนาต่อยอด เป็นซีรีส์ในรูปแบบ Professional-Generated Content (PGC) ได้ด้วย
ถือเป็นก้าวสำคัญของ Bearcave ที่เน้นกลยุทธ์สร้างคอนเทนท์ที่แข็งแรง ร่วมกับ LINE TV ที่เป็นมีเดียและแพลทฟอร์มที่มีคุณภาพ
“เรื่องที่จะได้ชมก่อนคือ GGEZ เพราะตอนนี้เทรนด์ของอีสปอร์ตกำลังมาแรงมาก ถูกบรรจุในเอเชียนเกมส์ 2018 ที่กำลังมาถึงเร็วๆ นี้ด้วย GGEZ เป็นศัพท์ของเกมเมอร์ ถือเป็น Good Game ทุกวันนี้เรื่องเกมมัน beyond จากกลุ่มเด็กวัยรุ่น มาเป็นทุกเพศทุกวัยเริ่มเล่นจริงจัง ทุกคนเริ่มเปิดมากขึ้น ผู้ใหญ่ก็เปิดใจ ก้าวข้ามจากเกมเป็นกีฬาแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวนี้รางวัลนักกีฬาแข่งเกม อาจจะมากกว่าผู้เล่นเอ็นบีเอบางคนไปแล้วถือเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก เราอยากถ่ายทอดอีสปอร์ตเป็นซีรีส์ในสไตล์คอมเมดี้ ดูแล้วรับรองฮากระจายทุก EP”
คุณแพร-พัลภา เสริมว่า LINE TV กับ Bearcave มีความใกล้ชิดและคล้ายกันในหลายๆ เรื่อง ทั้งในเรื่องของการเป็นแพลตฟอร์ม การเป็นมีเดียเหมือนกัน มีช่องทางเข้าถึง user ใกล้เคียงกัน และมีอิทธิพลต่อ user ค่อนข้างมากเหมือนกัน สามารถที่จะทำงานร่วมกันในการขยายกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ LINE TV มองถึง รวมทั้ง Bearcave เอง ก็มีศักยภาพในการสร้างคอนเทนท์ได้ดีมากๆ
จึงเป็น 2 เหตุผลที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายทำงานร่วมกันในครึ่งปีหลังนี้
ส่วนคุณปีโป้-เปรมวิชช์ กล่าวว่า การจับมือกับ LINE TV ที่เป็นรีรันทีวี No.1 ในไทย คอนเทนท์ที่ร่วมผลิตน่าจะ Distribute อย่างมีประสิทธิภาพโดย LINE TV ซึ่งเป็นเจตนาที่เราอยากทำอะไรใหม่ๆ เพราะเราก็เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เหมือนกัน
“เราก็อยากทำซีรีส์ที่เราเองก็อยากดู จึงมีความเป็นวัยรุ่น ส่วนในมุมของบิซิเนส ทุกเรื่องจะถูก Crossover กลับไปในแพลทฟอร์มของ Ookbee U ทั้งหมด เช่น GGEZ ก็จะไปเป็นการ์ตูนลงใน Ookbee Comics หรือเป็นรูปแบบนิยายลงใน Fictionlog หรือนิยายแชทใน Joylada ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในการเสพคอนเทนท์ ดูซีรีส์แล้วยังไปอ่านการ์ตูน หรืออ่านนิยายต่อได้ และก็ Cross มาซีรีส์ได้”
ส่วนในแง่ของการดีลกับพาร์ทเนอร์ LINE TV ก็พยายามหาจุดมองมุมใหม่ๆ เพื่อนำเสนอคอนเทนท์ให้กับ user เช่น เรื่อง GGEZ ซึ่งเป็นเรื่องของอีสปอร์ต อะไรคือคอนเทนท์อีสปอร์ตอันแรกบน LINE TV ที่ต้องการสร้างขึ้นมาจริงๆ นอกจากเป็นแค่รายการรีรัน
“คนดู LINE TV จะคุ้นภาพของซีรีส์มากกว่ารายการทั่วไป การนำเสนอกับ user เรื่องของอีสปอร์ตในมุมของซีรีส์ จึงน่าจะเป็นออฟชั่นที่ดีของ LINE TV ส่วน Insight Consumer ที่ดูคอนเทนท์บน LINE TV อันดับ 1 จะเป็นซีรีส์ 2 เป็นเอนเตอร์เทนเมนท์ (รายการ) 3 เป็นมิวสิค (ที่จะค่อนข้างเน้นครึ่งปีหลังนี้) ส่วนซีรีส์ออนไลน์ ผู้ผลิต ที่มีดีมานด์ ที่อยากทำ แต่ไม่อยากออนทีวี เราอาจจะเป็นช่องทางเฟิร์สวันสำหรับคอนเทนท์เหล่านี้ เช่น เรื่องไลฟ์สไตล์ กีฬา หรือแอนิเมชั่น ซึ่ง LINE TV ก็มีแพลนเยอะมาก ทั้งนี้ Original Content เราจะมีพาร์ทเนอร์มากกว่า 20 ราย ส่วนของ Bearcave เองจะเป็นการ Co-Invest ในสัดส่วนเท่าๆ กัน” คุณพัลภากล่าว
LINE TV เริ่มจะแมส
ทั้งนี้ LINE TV จะมีกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 15-35 ปี และจะขยายเป็น 15-45 ปี ในสัดส่วนผู้หญิง 60 ผู้ชาย 40 ผู้รับชมในเขตต่างจังหวัดจะเป็นหัวเมืองและกรุงเทพฯ ในสัดส่วน 50:50 ซึ่งจะเห็นว่า เริ่มมีสัดส่วนเพศที่เริ่มใกล้เคียงกัน จากเดิม LINE TV จะติดภาพของกลุ่มวัยรุ่น แต่ปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น แมสมากขึ้น
ซึ่งคาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะเริ่มกว้างขึ้นจาก Original Content จากแมสทาร์เก็ต ฐานกลุ่มอายุจะกว้างขึ้น ช่วงอายุน่าไปถึงที่ช่วงอายุ 45 ปี จากจุดแข็งในการนำคอนเทนท์ที่เป็นกระแสมานำเสนอมากขึ้น รวมทั้งการมองหาความแปลกใหม่ให้กับ user ตลอดเวลา
“ช่วงไพร์มไทม์ของ LINE TV จะอยู่ในช่วงสองทุ่มเป็นต้นไป ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงเหมือนทางฝั่งทีวี ส่วน Original Content เติบโต 100% จากปี 2017 ที่ผ่านมา ปีนี้ทั้งปีจะมีประมาณ 30 คอนเทนท์ สัดส่วนที่ On ไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรกมีแค่ 30% เท่านั้น”
“ส่วนในครึ่งปีหลัง LINE TV จะใส่เกียร์เดินหน้าในอีก 70% ที่เหลือ ทั้งนี้ ทีวีรีรันยังคงเป็นจุดเด่นของ LINE TV ในเรื่องของการสร้างยอดวิวเหมือนกัน ซึ่งเราคาดหวังว่า Original Content จะเทียบเท่าทีวีรีรันได้ในแง่ศักยภาพ ซึ่งสัดส่วนของทีวีรีรันตอนนี้น่าจะประมาณ 60% ต้องบอกว่า LINE TV แบ่งเป็นคอนเทนท์ทีวีรีรันและ Original Content” คุณพัลภาสรุป
