เปิดเคสกรณีศึกษาเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ยิงตรงใจกลุ่มเป้าหมายนับล้านจนเรียกยอดชมเกินล้านวิวได้สบายเหมือนเดินไปปากซอย นั่นคือฟังก์ชั่น “Home Screen ads” โซลูชั่นโฆษณาดิจิทัลทรงพลังจาก panda ads ซึ่งกำลังได้รับความสนใจท่ามกลางเครื่องมือการตลาดออนไลน์มากมายที่เกลื่อนตลาดในขณะนี้
เคสนี้เป็นของ “Coca-Cola” ซึ่งเริ่มทำแคมเปญ Enjoy your meal with “COKE” เพื่อเพิ่ม Brand Awareness ให้กับแคมเปญ ใน foodpanda เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฟังก์ชั่น Home Screen ads สามารถสร้าง Impressions ให้กับแคมเปญได้มากถึง 1.8 ล้านวิว โดยนอกจากเครื่องดื่มอย่าง “Coca-Cola” ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ Home Screen ads ช่วยทำยอด Impression จากการโปรโมทแคมเปญจนสร้าง conversion ในการพาลูกค้าที่สนใจแคมเปญไปยัง Official Website ของแบรนด์ได้
ถามว่าทำไมเคสเหล่านี้จึงน่าสนใจ คำตอบคือเพราะวันนี้นักการตลาดจำเป็นต้องให้ความระวังและตั้งใจเลือกเครื่องมือที่มักการันตีว่าได้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการสื่อสารและการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ภาวะนี้เป็นผลจากตลาดการโฆษณาดิจิทัลที่ขยายตัวอย่างคึกคัก ซึ่งในช่วงเวลาที่คาดกันว่าการใช้จ่ายออนไลน์จะเพิ่มขึ้นถึงระดับสถิติใหม่ ฟีเจอร์โฆษณาล่าสุดจาก panda ads กำลังจะกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกม ช่วยให้นักการตลาดได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในการเข้าถึงคนนับล้านได้ดีขึ้น
อิมแพคคลุมทุก Journey
Home Screen ads ถูกเรียกเป็นอาวุธใหม่จาก panda ads โดยเป็นภาคต่อจากความเคลื่อนไหวในปี 2564 ที่ foodpanda แพลตฟอร์มส่งอาหาร ของกินและของใช้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้พัฒนาโซลูชั่นโฆษณาขึ้น (Adtech) ในแอปพลิเคชั่น foodpanda โดยใช้ชื่อว่า panda ads เพื่อเพิ่มโอกาสในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้ธุรกิจของพาร์ทเนอร์ ซึ่งเมื่อ panda ads เป็น 1st party data ของ foodpanda ที่มีฐานลูกค้าหลายล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พลังของ panda ads จึงอยู่ที่ความสามารถตอบสนองเป้าหมายทางการตลาดได้แบบ Full-Funnel ครอบคลุมทุก Customer Journey ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ (Awareness) การพิจารณาสินค้าหรือบริการ (Consideration) ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ (Conversion)
พลังของ Home Screen ads สำคัญมากในช่วงเวลานี้ที่ Digital Advertising หรือ “โฆษณาออนไลน์” มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง อ้างอิงสถิติจาก Statista พบว่าเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีสะดุด โดยในปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสูงถึง 219,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.8 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ราว 6.18%
หากกรองเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะเติบโตมากถึง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 8.5% เหตุผลหลักของการเติบโตของตลาดโฆษณาออนไลน์ มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2567 ประเทศไทยมีสัดส่วนคนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตถึง 88%
ในอีกด้าน คนไทยยังใช้เวลาเล่นอินเทอร์เน็ตมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก เฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวัน และใช้เวลาในโลกออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน เป็นอันดับที่ 5 ของโลก ทั้งหมดนี้ทำให้ได้ข้อสรุปว่า Digital Advertising เป็นอาวุธสำคัญของทุกแบรนด์ในการสื่อสารถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย โดยแซงทุกแพลตฟอร์มเมื่อเทียบกับ Traditional Advertising อย่าง Printed Media, Broadcasting Media, Out-of-Home media และ In-store Media
ผลที่เกิดขึ้นในวันนี้คือธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ต่างหันมาลงทุนกับโฆษณาออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพราะโฆษณาออนไลน์มีข้อได้เปรียบไม่ต่ำกว่า 3 ด้าน คือสามารถสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้สูงสุด โดยวิเคราะห์จากข้อมูลในแพลตฟอร์มดิจิทัล ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนที่ถูกกว่าแต่ประสิทธิภาพสูงกว่า เพราะการทำโฆษณาออนไลน์ใช้ Production Scale ที่เล็กลง แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและรวดเร็วกว่า และที่สำคัญคือความยืดหยุ่นและความสร้างสรรค์ ที่ทำให้แบรนด์สามารถปรับแต่งรูปแบบการโฆษณาให้เหมาะสมกับเป้าหมาย Sentiment หรือแคมเปญได้ตลอดเวลา
สำหรับปี 2567 ดาวรุ่งอย่าง panda ads ได้เปิดโซลูชั่นโฆษณาออนไลน์รูปแบบใหม่ชื่อ “Home Screen ads” โดยมุ่งใช้พื้นที่โฆษณาบน “หน้าหลัก” ของแอปพลิเคชัน foodpanda เพื่อให้แคมเปญทางการตลาดมีประสิทธิภาพและครบรอบด้าน โดยบริการ Home Screen ads ที่จะปรากฏตั้งแต่หน้า Home ก่อนที่จะเลื่อนลงด้านล่าง นับว่าเป็นจุดที่ดึงดูดสายตาผู้ใช้งานได้มากที่สุดเพิ่มอัตราการเข้าถึงโฆษณานำไปสู่การสร้าง Conversion ให้สินค้าและบริการได้มากยิ่งขึ้น
4 พลัง Home Screen ads
พลังของฟีเจอร์ Home Screen ads นั้นไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งเตะตา ดึงดูดความสนใจและเพิ่มการเข้าถึงให้สูงสุดเท่านั้น แต่ยังมีอีก 4 คุณสมบัติที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจ โดยเฉพาะความสามารถในการกำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากรเฉพาะ
ซึ่งเพิ่มการมองเห็นที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ และให้ความยืดหยุ่นเพื่อประสิทธิภาพ
ในส่วนแรก ความสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงของ Home Screen ads นั้นสามารถทำได้ทั้งสถานที่ ความสนใจ พฤติกรรม หรือประเภทร้านอาหาร โดยกลุ่มเป้าหมายจะสามารถมองเห็นโฆษณาบนหน้าบน Home Screen ซึ่งเป็น Touch Point แรก ทั้งยังสามารถช่วยสร้าง Impression ให้กับแบรนด์ได้มากกว่าหนึ่งล้านวิว
สำหรับส่วนที่ 2 Home Screen ads สามารถเพิ่มโอกาสการมองเห็นสู่การตัดสินใจซื้อ เพราะนอกจาก Impression แล้ว Home Screen ads ยังเป็นอีกช่องทางสำคัญที่นำไปสู่ Call-to-Action แม้จะไม่ได้ตัดสินใจซื้อ
โดยทันที แต่แบรนด์หรือแคมเปญของแบรนด์ได้เข้าไปอยู่ในใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อรอการพิจารณาแล้ว
ส่วนที่ 3 จะพบว่า Home Screen ads ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ โดยสามารถดู Performance เพื่อติดตามผลและปรับเปลี่ยนรูปแบบของโฆษณาให้เหมาะสมกับแคมเปญ สินค้า เทรนด์ หรือความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นข้อดีอีกอย่างของฟังก์ชั่น Home Screen ads ที่สามารถปรับโฆษณาได้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนที่ 4 ยิ่งสุดยอด คือการวัดผลได้ โดยพาร์ตเนอร์ของ panda ads สามารถดู ROI ในการลงทุนกับ Home Screen ads เพื่อให้ธุรกิจและแบรนด์มั่นใจได้ว่าโฆษณาเหล่านั้นคุ้มค่ากับการลงทุน สร้างผลลัพธ์ให้ธุรกิจโดยรวมได้
ด้วย 4 ความสามารถนี้ “Coca-Cola” สามารถใช้ Home Screen ads ของ panda ads กับแคมเปญ Enjoy your meal with “COKE” จนสามารถเพิ่ม Brand Awareness และโปรโมทร้านพาร์ทเนอร์ของ “Coca-Cola” ใน foodpanda เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยผลงานความสำเร็จของฟังก์ชั่น Home Screen ads คือความสามารถสร้าง Impressions ให้กับแคมเปญได้มากถึง 1.8 ล้านวิว
และอีกหนึ่งแคมเปญคือแบรนด์กลุ่มธนาคารอย่าง SCB โดยในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา SCB สามารถโกยยอด Impressions จากการโปรโมทแคมเปญบัตรเดบิต SCB Mastercard ผ่าน Home screen ads ที่ 1 ล้านวิว และสร้าง Conversion ในการพาลูกค้าที่สนใจแคมเปญไปยัง Official Website ของ SCB ได้
อย่าเพิ่งเชื่อศักยภาพของ Home Screen ads จาก panda ads จนกว่าจะได้ลองด้วยตัวเอง
ใครอยากติดอาวุธใหม่ให้กับธุรกิจและแบรนด์ ลองสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.foodpanda.co.th/th/contents/pandaads หรือ ติดต่อที่ ads_partnerships@foodpanda.co.th
