การมี “ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย” ผู้กำกับโฆษณาเบอร์หนึ่งของเมืองไทย และเป็นอีกบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจที่มีอิมแพ็คท์ต่อคนรุ่นใหม่ยุคนี้มากที่สุดคนหนึ่ง ทั้งมานั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัวโครงการ และยังมาในบทบาทของ Influencer น่าจะเป็นสิ่งที่สื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และส่งเสริมในเรื่อง Brand Attitude ของ “Park Origin” แพลตฟอร์มการอยู่อาศัยแบบใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น
จากการทำการบ้านมาด้วยความตั้งใจ ทำให้ทางแบรนด์ Park Origin จึงเข้าใจและทราบถึงความต้องการพื้นฐานของคนเมืองยุคใหม่ ทั้งในเรื่องพฤติกรรมและ “ทัศนคติ” ของคนรุ่นใหม่ยุคนี้ ที่มีแนวโน้มเริ่มให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งหลัก นั่นคือ เทคโนโลยี สังคม และธรรมชาติ
แนวคิดที่ว่าดังกล่าวทางแบรนด์จึงมองว่า ในฐานะของผู้พัฒนาโครงการเอง หากคิดจะการทำแต่ที่พักอาศัยแล้วขายเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้อีกต่อไป แต่ต้องมองลึกถึงการสร้าง Environment ที่อยู่อาศัยที่ดี คือต้องมีการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้ “Park Origin” จึงตั้งเป้าเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่ลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์แพลตฟอร์มที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและคิดเผื่อโลก
httpv://youtu.be/jlCpQMEAHv0
ภายใต้คอนเซปท์ “A Perfect Living Platform” ซึ่งเป็นการสร้าง model หรือรูปแบบการอยู่อาศัยแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยผสาน เทคโนโลยี สังคม และธรรมชาติที่ลงตัว โดยที่ทุกคน ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งโหยหาสิ่งเหล่านี้จากภายนอก เพราะ 3 สิ่งนี้ได้อยู่ใน Platform นี้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์
การนำเสนอแนวคิดใหม่ดังกล่าว จะเห็นได้ตั้งแต่ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ของ Park Origin ที่ผู้กำกับ ต่อ ธนญชัย ที่เลือกจะนำเสนอการสื่อสารแนวใหม่ โดยแทนที่จะนำเสนอแต่จุดขายจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบบเดิมๆ กลับนำเรื่องราวที่กระตุกต่อมความคิดทุกคนให้คิดถึงความรับผิดชอบสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ทรัพยากรคุ้มค่า เพื่อบอกว่าทุกคนควรมี “จิตสำนึก” และ “ความรับผิดชอบ” สิ่งรอบตัวมากขึ้น
ย้อนกลับไปถึงเรื่องพฤติกรรมและความต้องการของคนเมืองในยุคปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตของเราทุกวันนี้มักมี 3 สิ่งที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ คือ “เทคโนโลยี” หรือนวัตกรรมลํ้าสมัยที่ทำให้การใช้ชีวิตง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น การได้สังสรรค์ แวดล้อมด้วย “สังคม” ดีๆ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และที่สำคัญคือการได้กลับคืนสู่ “ธรรมชาติ” ต้นกำเนิดแห่งมนุษย์สัมผัสความสงบท่ามกลางพื้นที่สีเขียว และหลบหลีกซ่อนตัวจากความวุ่นวายจากเมือง
Park Origin ยังนำแนวคิดดังกล่าวยังสะท้อนกลับไปถึงแนวทางการพัฒนาแบรนด์ ด้วยนิยาม “ A Perfect Living” แพลตฟอร์มใหม่ที่เกิดจากการมองด้วยแนวคิดเน้น “คุณค่า” มากกว่า “คุ้มค่า” เพื่อตอบสนองความต้องการที่ทำให้มนุษย์เกิดความเจริญทางความคิดที่มองไกลกว่าแค่ตัวเอง แต่กระตือรือร้นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น แม้ว่าจะอยู่ในยุคเทคโนโลยีนำ
จึงได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบใหม่ บน 3 ทำเลศักยภาพในกลางกรุงเทพฯ ได้แก่ Park Origin Phayathai, Park Origin Thonglor และ Park Origin Phorm Phong ด้วยโจทย์คิดจาก 3 แกนหลักดังกล่าว
โดย 3 แกนสำคัญดังกล่าว Park Origin เชื่อว่าจะช่วยเติมเต็ม “ชีวิตสมบูรณ์แบบ” ของลูกบ้าน ได้ดังนี้
Technology Transformation
Synergize Technology for Living Efficiency
ในแง่ที่อยู่อาศัย “นวัตกรรม” เป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยที่ทำให้การใช้ชีวิตของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม โดย“Park Origin” จึงนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “Home Automation” การควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านผ่านเพียงปลายนิ้วสัมผัส “Smart Mirror” เทคโนโลยีกระจกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับโลก IoT สามารถแสดงผลได้หลากหลาย “Facilities Intelligence” ให้คุณควบคุมการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ผ่านแอพพลิเคชั่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ “Cashless Society” เพื่อการทำธุรกรรมที่สะดวก ปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดอีกต่อไป
One Sphere Complex
Unlock Your Style in All Dimensions
เพราะมนุษย์ต้องการสังคมเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตและเติมเต็มความต้องการ การพัฒนาคอมมูนิตี้สำหรับแบรนด์ “Park Origin” บน 3 ทำเลใจกลางเมือง ONE THONGLOR, ONE PHAYATHAI และ ONE 24 จึงถูกออกแบบอย่างแตกต่าง (NICHE STYLE) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในย่านนั้น และจะปลดล็อคทุกมิติการใช้ชีวิตบนพื้นที่ที่เป็น “มากกว่าที่อยู่อาศัย” ด้วยรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส (MIXED-USE) ที่มอบบริการครบวงจร (One-Stop Services) โดย PLATFORM นี้จะประกอบด้วย คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, ร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมจากทั่วมุมโลก, ร้านกาแฟชั้นนำ, Co-Living Space & Co-Working Space ระดับเวิล์ดคลาส ที่ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์, Kid’s Institution รองรับกลุ่มแฟมมิลิ่, โรงแรมระดับนานาชาติ, อาคารสำนักงาน และ Serviced Apartment
Nature Essence
Rediscover the Soul of Nature
ในยุค 4.0 ที่ “เทคโนโลยี” เป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ แต่ “ธรรมชาติ” ก็ยังเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เช่นกัน เพราะมนุษย์กำเนิดจากธรรมชาติ ดังนั้น มนุษย์ยุคปัจจุบัน และอนาคต จึงจำเป็นต้องใช้ชีวิตร่วมกับเทคโนโลยี และธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน อย่างสมดุล
“Park Origin” จึงได้ออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์ที่ทันสมัย ด้วยอาคารรูปแบบใหม่ แนวคิด “Vertical Garden” ซึ่งเป็นสวนป่าคอนกรีต ให้เป็นแหล่งอ็อกซิเจนแห่งใหม่สำหรับคนเมือง ด้วยดีไซน์โดดเด่น แตกต่าง ด้วยรูปทรงอาคารที่คล้ายภูเขา มีพื้นที่สีเขียวเล่นระดับเเป็นขั้นบันไดถึง 1,500 ขั้น ให้เรารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่บนไหล่เขา สามารถออกมารับวิว สูดกลิ่นธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นได้จากตัวห้อง นอกจากนี้ เรายังออกแบบ Landscape ใช้พื้นที่อย่างมีคุณค่า โดยนักออกแบบชั้นนำ เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ใหญ่ในพื้นที่เดิมใว้ เพื่อรักษาธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่ใว้ให้กับผู้อยู่อาศัย
แต่สิ่งที่ Park Origin ค้นหายังไม่จบสิ้น เพราะทางแบรนด์ยังได้ค้นพบกลุ่มลูกค้าสำคัญของตัวเอง จากการศึกษาพฤติกรรมทำให้ทราบว่า มีทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ ที่น่าจะตอบโจทย์กับไลฟสไตล์บน 3 แพลตฟอร์มของแบรนด์ บนโลเคชันใจกลางเมืองเหล่านี้ ได้แก่
เผ่าพันธุ์ MOBILITOR
เป็นคนที่รักอิสระ ชอบความท้าทาย ชอบผจญภัย ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบกิจกรรมแนว extreme ใช้ชีวิตแนวเส้นรถไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อหลายเส้นทางอย่างไร้ขีดจำกัด สนุกกับการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ แต่ในบางมุม…ก็ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ปล่อยใจไปกับธรรมชาติรอบตัว
เผ่าพันธุ์ LIFESTYLENISTA
เป็นคนรุ่นใหม่ที่ฉลาดเลือกในการใช้ชีวิตบนทำเลที่ “หล่อ” ที่สุด ชอบใช้ชีวิตแบบ New Yorker ชอบไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ชอบความซ้ำซาก จำเจ สนุกกับการใชชีวิต ทั้งกลางวัน และกลางคืน เป็นคนชอบสังคม ชอบอยู่ใกล้แหล่งอาหาร การกิน สถานบันเทิง ชอบเสพงานศิลป์ ตามสตูดิโอ บาร์ฮิปๆ และแกลลอรี่ แต่ในบางมุม…ก็ชอบหลบหลีกความวุ่นวาย ซ่อนตัวภายใต้ร่มเงาแห่งธรรมชาติ
เผ่าพันธุ์ TREND ADDICT
เป็นผู้นำเทรนด์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เป็นคนมีรสนิยม ชอบแบรนด์เนม ช้อปตามห้างสรรพสินค้าระดับเวิล์ดคลาส พิถีพิถันในการเลือกสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวเอง หลงใหลในสีสันวัฒนธรรมที่หลากหลาย ชอบลิ้มลองอาหารหลากหลายสไตล์ จากทั่วทุกมุมโลก ปลดล็อคพลังความคิดสร้างสรรค์ ตามคาเฟ่ ดีไซน์เก๋ แต่ในบางมุม…ก็ถอดสีสันของตัวเอง เพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติ ปลดปล่อยพันธนาการ ผ่อนคลาย แช่กายในออนเซน
3 ทำเลที่มากกว่าใจกลางเมือง
PARK ORIGIN…ORIGINATE YOUR PERFECT LIFE
นอกจากการทำงานเพื่อตอบโจทย์กับพฤติกรรมผู้อยู่อาศัย อีกสิ่งที่ลูกบ้านของ Park Origin ยังได้มากขึ้น คือการคัดเลือกทำเลศักยภาพที่ไม่ได้แค่อยู่ใจกลางเมือง แต่ยังอำนวยความสะดวก ด้วยสามารถเชื่อมต่อทุกการเดินทาง จากการเลือกสรร 3 ทำเลศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น
Park Origin Phayathai
เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องเดินทางบ่อย ไม่ว่าจะทำงาน หรือท่องเที่ยว ด้วยจุด INTERCHANGE เชื่อมต่อ BTS พญาไท และ Airport Rail Link เพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ พร้อมเชื่อมต่อถึง 3 สนามบิน ทำให้การเดินทางทั้งใน และต่างประเทศ
httpv://youtu.be/8A2JFS3Vyac
ด้วยแนวคิดที่ต้องการสร้างสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานด้วยธรรมชาติให้เกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ ทีมนักออกแบบชั้นนำที่ได้มาร่วมงานกับทางออริจิ้น จึงเกิดความที่ในการจำลองภูเขาและแนวสวนแนวตั้งเล่นระดับตั้งแต่ชั้นล่างสุด จนขึ้นไปสู่ชั้นบนสุด นี่คือหนึ่งในความทะเยอทะยาน ของการออกแบบที่พักอาศัย
ด้วยการออกแบบตามแนวคิดเสมือนกันปีนเขาที่ไล่ตั้งแต่ Base Camp ที่บริเวณชั้นล่างก็เป็นสวนพักผ่อน ไล่ขึ้นมาถึงชั้น11 Cascade Pool ชั้นสระว่ายน้ำที่มีน้ำตกจำลองสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่น Healing Terrace บนชั้น15 ลานพักผ่อนที่ประดับไปด้วยดอกไม้และพืชสมุนไพร ,The tree Cabin ลานพักผ่อนจำลองบ้านต้นไม้จนเกิดเป็นจุดชมวิวที่แปลกตาบนชั้น 17 , ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆก็จะเป็น Flower Field สวนดอกไม้ประดับพร้อมจุดนั่งเล่นพักผ่อนมากมาย ,จนพบกับ Starry Sky lounge ซึ่งเปรียบเสมือนการให้รางวัลกับตัวเองที่อยู่บนชั้นบนสุดของโครงการ
โครงการ ONE PHAYATHAI
Mixed Use ONE PHAYATHAI มาในคอนเซปต์ ‘’ONE STEP JOURNEY’’ คือ รูปแบบ Mixed Use แหล่งรวม Lifestyle ใหม่ ที่มีครบทุกการใช้ชีวิตในโครงการ เพียง 1 ก้าว จากส่วนคอนโดฯ ที่พักอาศัย ซึ่งภายในโครงการประกอบด้วย Premium Retail, Office ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ Service Office, รวมถึง Hotel ที่จะมาเปิดให้บริการภายในโครงการ นอกจากนี้ยัง รวมถึงบริเวณด้านบนอาคาร ก็จะมี ROOF TOP BAR & RESTAURANT ให้บริการด้วย
Park Origin Thonglor
ทองหล่อคือย่านสุดฮิปที่ไม่เคยหลับใหล เปรียบเสมือนนิวยอร์กฉบับย่อ ที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะช้อป ชิม ชิลล์ หรือแม้แต่เสพงานอาร์ท บนทำเลที่ไม่เคยหลับไหล ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและมีสังคมนอกบ้าน
โครงการส่วนพักอาศัยนั้นถูกออกแบบให้จัดเรียงเป็น 3 อาคาร โดยมีการจัดวางทิศทางและองศาของแต่ละอาคารให้ไม่ให้บังทัศนียภาพของกันและกัน ที่น่าชื่นชมก็คือโครงการตัดสินใจอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุกว่า 60 ปี ที่อยู่มาตั้งแต่ที่ดินเดิมนั้นไว้ ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สีเขียวที่กว่า 2 ไร่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้บนถนนทองหล่อ
โครงการ ONE THONGLOR ซึ่งเป็น Community Mall อยู่ด้านหน้าโครงการ PARK Origin Thonglor
NICHE STYLE COMMUNITY มาใน คอนเซปต์ MEETING POINT ที่แตกต่างจาก Community Mall ทั่วไป เหมือนเป็นอีกหนึ่งจุดนัดพบใหม่ ใจกลาง ทองหล่อ ซึ่งเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ HI CLASS ที่นอกจากจะประกอบไปด้วย SUPER PREMIUM SHOP & RESTAURANT แล้ว Highlight หลัก ของ ONE THONGLOR ที่อยู่ใจกลาง ‘ทองหล่อ’ ในพื้นที่ดิน ARENA 10 เดิมนั้น ยังเป็นที่ให้คุณสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางของ COMMUNITY Mall เป็น “MEETING POINT‘’ หรือ LIFESTYLE AREA ที่รองรับ การใช้ชีวิตอย่างมีระดับ
Park Origin Phorm Phong
ชีวิตไม่เคยตกเทรนด์ กับย่านช้อปปิ้งระดับเวิล์ดคลาส ที่รวมแบรนด์ดังระดับโลก และเต็มไปด้วยสีสันความหลากหลาย แห่งวัฒนธรรม
ทำเลที่มีความร้อนแรงที่สุดที่หนึ่งบนถนนสุขุมวิท ออริจิ้นฯ เตรียมต่อยอดความสำเร็จเปิดตัวโครงการใหม่กับโครงการ Park Origin Phrom phong บนที่ดินแปลง PARK 24 เดิม ด้วยพื้นที่รวมกว่า 7ไร่ และยังได้สวนขนาดใหญ่กว่า 10 ไร่ภายในโครงการ พร้อมๆกับการเปิดตัว ONE 24 Mixed useขนาดใหญ่ พร้อมCommunity Mall ด้านหน้าโครงการอีกด้วย
สำหรับ Park Origin Phrom phong นี้จะอยู่ภายในบริเวณเดียวกับ Park24 เดิม แต่ตัวอาคารจะถูกแยกออกมาเป็น 3 อาคาร คืออาคาร 4 ที่มีความสูง 29 ชั้นพร้อม 4 ชั้นใต้ดิน และอาคาร 5 สูง 51 ชั้น และ อาคาร 6 สูง 44 ชั้น เป็นเหมือนการเล่นระดับความสูงที่ลดหลั่นกันไป ซึ่งเมื่อรวมๆกันแล้วมีพื้นที่ทั้งหมด 7 ไร่เลยทีเดียว และที่นี่จะเป็นอาคารสูงที่จะขึ้นใหม่ได้เป็นแปลงสุดท้ายของซอยสุขุมวิท 24 อีกด้วย
แกนความคิดเรื่อง Nature ของ Park Origin Phrom phong นี้เรียกได้ว่ามีความโดดเด่นมากที่สุด เพราะจะมีโครงการไหนในสุขุมวิท ที่กล้าที่จะนำพื้นที่กว่า 10 ไร่ มาใช้เป็นพื้นที่สวนภายในโครงการ ให้เป็น Private Oasis ใจกลางเมืองแบบนี้ นี่คือแนวคิดหลักของการสร้าง แบรนด์ Park Origin ที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางเมืองที่เร่งรีบ วุ่นวายก็ตาม
แกนความคิดด้าน Technology โครงการ Park Origin Phrom phong ก็เตรียมนำ นวัตกรรมด้านการใช้ชีวิตมาให้บริการมากมาย อาทิ Smart Locker รองรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการ Shopping และมีปัญหากับการรับสินค้าผ่านนิติบุคคล ,ระบบ Home Automation ที่ครบถ้วนในทุกๆการใช้งาน ,ระบบการใช้จ่ายสินค้าและบริการภายใน One24
โครงการ ONE 24 (บริเวณ PARK ORIGIN PHROM PHONG)
คอนเซปต์ Mixed Use ONE24 จะมาจาก จุดเด่น ของทำเลที่หลากหลายด้วยคนหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น การออกแบบอาคารจึงมาในคอนเซปต์ Super Premium แนว Japanese Style ซึ่งภายใต้โครงการ Mixed Use จะ ประกอบด้วย SUPER MARKET PREMIUM ในคอนเซปต์ ITEM สินค้าที่เป็น Signature หรือสั่งตรงจากญี่ปุ่น ร้านกาแฟชั้นนำจากต่างประเทศ , ROOFTOP BAR & RESTAURANT และพื้นที่ให้บริการสำหรับ Service Office, Co working Space, Kid’s Institution ที่ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว ชาวญี่ปุ่น
ด้านหน้า Park Origin Phrom Phong จะมี Restaurant& Bar : ODTOMATO ซึ่งเป็นPub & Restaurant สไตล์ Modern Dining ที่เป็นร้านแหล่งรวบรวม อาหารจากนานาชาติ โดยคอนเซปต์ เกิดจากการที่เจ้าของร้าน ได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลกและได้ลิ้มลอง รสชาติ และเมนู จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งอังกฤษ ออสเตรเลีย และอีกมากมาย จึงเกิดเป็นคอนเซปต์ ร้านอาหาร ODTOMATO ขึ้น เพื่อรวบรวมเมนู ที่เป็น Hi light จากแต่ละประเทศมาใว้ที่นี่เพียงที่เดียว เมื่อมาได้สัมผัสเมนูอาหารที่นี่แล้ว จะเหมือนกับว่า การที่ได้ลิ้มลองเมนูที่เป็น Highlight จากทั่วทั้งโลก
นับอีกเป็นปรากฏการณ์ของแนวคิดนอกกรอบที่เกิดขึ้นครั้งแรกในวงการอสังหาฯ และเป็นสิ่งที่ตอกย้ำการสร้าง Platform ของที่อยู่อาศัยที่ไม่แค่ให้มากกว่าแค่ที่พักอาศัย ค้นหา สไตล์ความเป็นคุณได้ที่นี่ https://bit.ly/2P6gHIX
httpv://youtu.be/aI19odkzbko
